สปป.ลาวจะต้องรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

2562 คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจของสปป.ลาว จะกลับมาฟื้นตัวอยู่ที่ร้อยละ 6.5 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 ในปี 2561 เป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคการก่อสร้าง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และภาคบริการ แต่ว่าสปป.ลาวต้องเผชิญกับความท้าทายในประเทศและต่างประเทศ ในด้านมาตรการรัดเข็มขัดทางการคลัง (Fiscal consolidation) คาดว่าจะส่งผลให้ลดการขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ร้อยละ 4.3 ของ GDP ในปี 2562 (ลดรายจ่ายภาครัฐในปริมาณที่สูง) เนื่องมาจากต้องควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ และการใช้จ่ายเงินทุน เป็นต้น นอกจากนี้ สปป.ลาวจะต้องพัฒนาในด้านสภาพแวดล้อมทางธุรกิจมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนของภาคเอกชน รวมถึงผู้ประกอบการ SMEs เพื่อให้มาตรการดังกล่าว ช่วยรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค และส่งเสริมการทำงานของภาคเอกชน รายได้สูงขึ้น และความกินดีอยู่ดีของประชาชนชาวสปป.ลาว

ที่มา : http://kpl.gov.la/En/Detail.aspx?id=47498

บริการแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศนอกระบบใน สปป.ลาวทำให้ราคาสูงขึ้น

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสปป.ลาวออกโรงเตือนว่าจะต้องมีการลงโทษเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หน่วยแลกเปลี่ยนที่ดำเนินการโดยธนาคารนั้นมีการควบคุมอย่างเข้มงวด แต่ไม่มีมาตรการใดที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราที่อยู่นอกระบบ มีความเป็นไปได้ที่อาจทำให้เกิดความผันผวนของสกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยน ขณะนี้กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อและค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคที่สูงขึ้นท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทไทย กระทรวงการวางแผนและการลงทุนระบุว่ามูลค่ากีบเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 0.9% และ 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ถูกนำเข้า ดังนั้นเมื่อมูลค่าเงินกีบลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้นตามลำดับ การใช้เงินตราต่างประเทศอย่างกว้างขวางอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ค่าเงินกีบอ่อนแอ และการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวียงจันทน์แม้จะมีความพยายามของธนาคารแห่งสปป.ลาวในการปราบปราม

ที่มา: https://laotiantimes.com/2019/08/12/illegal-currency-exchange-services-causing-price-hikes/

หลวงพระบางเตรียมจัดเทศกาล การแข่งเรือยาว

ผู้ว่าราชการหลวงพระบาง เปิดเผยว่าในวันพุธที่ผ่านมา เทศกาลการจัดแข่งขันเรือหางยาว จะใช้ระยะเวลารวมทั้งหมด 4 วัน โดยชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างเข้ามาร่วมงานกันจำนวนมาก รวมไปถึงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ถ้ำติ่ง (Tham Ting Cave) ซึ่งเป็นสถานที่แสวงบุญ และมีพระพุทธรูปนับพันองค์ รวมไปถึงในเทศกาลดังกล่าว มีอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง และของที่ระลึกที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นอกจากนี้ จากข้อมูลสถิติสารสนเทศทางด้านวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวสปป.ลาว ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 750,000 คน ที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดหลวงพระบาง โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน ปี 2562 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 365,000 คน ลดลงร้อยละ 1.25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Luang_180.php

แพลตฟอร์มการชำระเงิน Alipay พิจารณาเข้าสู่ตลาด สปป.ลาว

แพลตฟอร์มการชำระเงินทางมือถือ Alipay ของจีนเตรียมที่จะทำการลงสู่ตลาด สปป.ลาว หลังจากธนาคารเพื่อการพัฒนาของ สปป.ลาว (LDB) ได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัท KIWI ที่กำลังจะเปิดให้ใช้บริการ ซึ่ง KIWI Group เป็นผู้ให้บริการในด้าน FIN Tech ภายใต้การให้บริการการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด โดยบริการนี้จะช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถชำระเงินหรือทำธุรกรรมที่ร้านค้าและร้านอาหารใน สปป.ลาว ที่เป็นพันธมิตรกับ LDB โดย Alipay เป็นแพลตฟอร์มที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 ปัจจุบันมีผู้ใช้แอพพลิเคชั่นในการชำระเงินถึง 1 พันล้านคนในจีน การพัฒนาดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อ สปป.ลาวซึ่งกำลังผลักดันด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ในปี 2562 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนให้มากขึ้น ซึ่งมีผู้มาเยือน สปป.ลาวมากกว่า 4.1 ล้าน คนในปี 2561 เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบกับปี 2560 โดยมี นักท่องเที่ยวมากกว่า 800,000 คน มาจากจีนเพิ่มขึ้น 26% ตามข้อมูลกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว

ที่มา : https://laotiantimes.com/2019/08/07/alipay-payment-platform-set-to-enter-laos/

ธนาคาร Mandiri ของอินโดนีเซียเข้าลงทุนในกัมพูชาและสปป.ลาว

ธนาคาร Mandiri ของอินโดนีเซียซึ่งเป็นสถาบันของรัฐได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะเข้าสู่ตลาดกัมพูชาและสปป.ลาว และได้จัดตั้งกองทุนการลงทุนขนาดใหญ่ โดยจะทำการศึกษาวิธีที่ดีที่สุดในการเจาะตลาดใหม่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 62 ธนาคาร Mandiri เติบโดถึง 11.1% และมีการประกาศจากธนาคารแห่งชาติกัมพูชาซึ่งจะเน้นการเติบโตที่แข็งแกร่งของธนาคารในประเทศและภาคการเงินรายย่อย ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปีสินเชื่อในสาขาธนาคารและสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้นประมาณ 22.4%

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50630496/indonesias-mandiri-bank-to-enter-cambodia-laos/

จีน สปป.ลาว ร่วมมือบังคับใช้ด้านกฎหมายด้านความมั่นคง

 สมาชิกสภาแห่งของรัฐบาลจีนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการรักษาความปลอดภัยสาธารณะของ สปป.ลาว ถึงความร่วมมือระหว่างสองประเทศในการสร้างชุมชนจีน – ลาว พร้อมกับการศักราชใหม่สำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงสำหรับโครงการสำคัญและโครงการทางถนนและความร่วมมือในการปกป้องความมั่นคงของชาติการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น โทรคมนาคม การคอรัปชั่น การพนันออนไลน์ และการสร้างความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีต่อไป

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2019-08/06/c_138288334.htm

มหาวิทยาลัยแห่งชาติสปป.ลาวจะรับนักเรียนมากกว่า 8,000 คนในปีนี้

มหาวิทยาลัยแห่งชาติสปป.ลาวในเวียงจันทน์จะรับนักศึกษาประมาณ 8,100 คนเพื่อศึกษาใน 13 คณะในปีการศึกษาถัดไป นักเรียนถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก (กลุ่ม A) ทำการทดสอบในวิชาคณิตศาสตร์ วรรณคดี ฟิสิกส์ เคมีและชีววิทยา กลุ่มที่สอง (กลุ่ม B) ได้รับการทดสอบ วิชาวรรณคดี คณิตศาสตร์ ภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ กลุ่มที่สาม (กลุ่ม C) ได้ทำการทดสอบในวิชาคณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์และวรรณคดี มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อกำหนดคำถามการสอบและอีกส่วนหนึ่งเพื่อตรวจสอบนักเรียนระหว่างการสอบ มหาวิทยาลัยยังได้จัดทำระบบออนไลน์เพื่อให้ผู้สมัครสามารถลงทะเบียนสอบผ่านกระบวนการง่ายๆ ผลการสอบเข้าจะมีการประกาศในปลายเดือนนี้ การลงทะเบียนหลักสูตรจะเริ่มในเดือนกันยายนและชั้นเรียนจะเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคมปีนี้ ่ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_National.php

กระทรวงสปป.ลาวอนุญาตให้ส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้มากขึ้น

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าได้แก้ไขรายการผลิตภัณฑ์ไม้ที่ได้รับอนุมัติสำหรับการส่งออกเพื่อให้ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ในสปป.ลาวสามารถขายสินค้าของตนได้ง่ายขึ้นในตลาดท้องถิ่นและต่างประเทศ กระทรวงฯ ได้ระบุผลิตภัณฑ์ไม้ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไม้ที่ปลูกผลิตภัณฑ์จากไม้ธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์หวายและไม้ไผ่ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ทำจากไม้สวนสามารถส่งออกได้ รวมถึงสินค้าที่ผ่านการแปรรูปและไม่แปรรูปตามรายการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ไม้ (หมายเลข 0939 / MoIC) ไม้กฤษณาควรส่งออกในรูปแบบของไม้บดหรือบิ่น ในขณะที่ไม้ที่ปลูกในเชิงพาณิชย์อื่น ๆ ควรดำเนินการตามขนาดที่กำหนดภายใต้คำแนะนำของกระทรวงก่อนส่งออก กระทรวงแสดงความหวังว่าการตัดสินใจครั้งใหม่จะช่วยผู้ขายไม้และผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ในสปป.ลาวส่งออกผลิตภัณฑ์ของตนได้ง่ายขึ้น ลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะผู้ซื้อชาวจีนยังคงแสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์ไม้และเฟอร์นิเจอร์ แต่ขนาดของสินค้าส่งออกที่กำหนดโดยรัฐบาลไม่ตรงกับความต้องการ ปัญหานี้กลายเป็น ปัญหาใหญ่ เพื่อแก้ปัญหานี้สมาคมเฟอร์นิเจอร์สปป.ลาวได้ขอให้รัฐบาลปรับปรุงกฎและข้อบังคับ

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-ministry-allows-more-wood-products-export-101523

สปป.ลาว เผยภาคเกษตรกรรมมีอัตราการขยายตัวต่ำที่สุด

จากรายงานของทางรัฐบาลสปป.ลาว เปิดเผยว่าภาคการเกษตรยังคงไม่ขยายตัวตามที่คาดไว้ เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวน โดยทางรัฐบาลคาดว่าในปี 2562 ภาคเกษตรกรรมจะขยายตัวร้อยละ 2.8 ถ้าหากไม่เกิดภัยธรรมชาติ ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติยาวนาน จะทำให้ประสบปัญหาขาดแคลนผลผลิตทางการเกษตร และหากต้องการให้ภาคเกษตรขยายตัวอย่าง รวดเร็ว ภาครัฐต้องดำเนินให้นักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนในประเทศสนใจเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลต้องส่งเสริมการเกษตรให้ชัดเจนมากขึ้น ในด้านการแก้ไขปัญหาผลผลิต ควบคุมการใช้สารเคมี เป็นต้น

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Agriculture_experiences_176.php

ราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นในสปป.ลาวกระทบผู้มีรายได้น้อย

ผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ประสบปัญหาเนื่องจากราคาอาหารยังคงผันผวน ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติสปป.ลาวแสดงให้เห็นว่าราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น 3.20% ในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วทำให้เป็นหนึ่งในแรงผลักดันของเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิถุนายนระบุว่าราคาข้าวเพิ่มขึ้น 12% ในเดือนมิถุนายนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วในขณะที่ราคาปลาและหมูปรับตัวสูงขึ้น 3.1% อย่างไรก็ตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคล่าสุดบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อขยายตัวที่ 2.48% ในเดือนมิถุนายนลดลงจาก 2.54% ในเดือนพฤษภาคมปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลผลักดันเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายน อีกทั้งค่าเสื่อมราคาของกีบเมื่อเทียบกับเงินบาทและเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุของราคาอาหารที่สูงขึ้น ราคาสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้น 1.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/rising-food-prices-hit-low-income-earners-101263