CGCC ได้รับการรับรองให้เป็นผู้ค้ำประกันในการออกพันธบัตรรายแรกของกัมพูชา

สำนักงานกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งกัมพูชา (SERC) ภายใต้องค์กรกลางในการกำกับดูแลระบบการเงิน (FSA) หน่วยงานของกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน (MEF) ได้ให้การรับรองแก่บริษัทประกันเครดิตแห่งกัมพูชา (CGCC) ซึ่งรัฐบาลเป็นเจ้าของ ให้สามารถเป็นผู้ค้ำประกันสำหรับการออกพันธบัตรเป็นรายแรกของกัมพูชาเพื่อสนับสนุนให้บริษัทเอกชนในท้องถิ่นมีทางเลือกในการระดมทุนเพิ่มมากขึ้นภายใต้การกำหนดอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาที่เหมาะสม โดย CGCC ได้พัฒนากรอบนโยบายการค้ำประกันพันธบัตรที่ได้รับอนุมัติจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง MEF เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของตลาดเงินในประเทศ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกสู่การพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศกัมพูชา โดยในระยะถัดไปทางการจะเริ่มจัดอันดับเครดิตเรทติ้งจาก Rating Agency of Cambodia ซึ่งขณะนี้ธุรกิจภาคเอกชนสามารถระดมทุนผ่านการออกพันธบัตรเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศ (SMEs) ควบคู่ไปกับการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ผ่านการค้ำประกันการออกพันธบัตร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501357935/cgcc-accredited-as-cambodias-first-bond-issuance-guarantor/

กัมพูชา-จีน ลงนาม MoU เพิ่มอีก 6 ฉบับ ยกระดับความร่วมมือด้านการลงทุน

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) และกระทรวงพาณิชย์ของจีน จ่อลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพิ่มเติมอีก 6 ฉบับ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการลงทุนที่ครอบคลุม โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ และการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว รวมถึงการก่อสร้างอาคารระเบียงเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจก่อนหน้านี้เพื่อกำหนดกลไกในการเสริมสร้างการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน กล่าวโดย Zhong Jie ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและการค้าประจำสถานทูตจีนในกรุงพนมเปญ ระหว่างเจรจาหารือร่วมกับ Chea Vuthy เลขาธิการคณะกรรมการการลงทุนกัมพูชาของ CDC ซึ่งคาดว่าจะช่วยยกระดับการค้าทวิภาคีระหว่างกัน สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ กรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ได้รายงานว่ามูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่าง จีน-กัมพูชา เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่มูลค่าประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นสัดส่วนการส่งออกของกัมพูชาไปยังจีนร้อยละ 25.6 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศที่มีมูลค่ารวมในช่วงเวลาดังกล่าวที่ 27,000 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501358251/cambodia-china-to-sign-6-more-mous-to-enhance-investment-cooperation/

ผู้ผลิตชิป-บ.เทคโนโลยีสหรัฐ ส่งตัวแทนประชุมที่เวียดนามพรุ่งนี้ สะท้อนเวียดนามยังเนื้อหอม

สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐ ได้แก่ กูเกิล อินเทล โบอิ้ง ไปจนถึงโกลบอลฟาวน์ดรีส์ (GlobalFoundries) แอมคอร์ (Amkor) และมาร์เวลล์ (Marvell) ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เตรียมเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจที่กรุงฮานอยของเวียดนามในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เยือนเวียดนามเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2023/333384

‘โฮจิมินห์’ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2573 แตะ 40% ของ GRDP

Lam Dinh Thang ผู้อำนวยการสำนักงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร เมืองโฮจิมินห์ กล่าวว่าเมืองโฮจิมินห์ตั้งเป้าที่จะวางตำแหน่งให้มีความโดดเด่นและมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูง ซึ่งได้เตรียมการลงมติที่ 98 เกี่ยวกับนโยบายนำร่องพัฒนาเมืองโฮจิมินห์ ทั้งนี้ ด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เมืองโฮจิมินห์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและส่งเสริมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในหลายส่วน โดยเฉพาะการบริหาร การศึกษา การดูแลสุขภาพและการขนส่ง โดยจากมาตรการดังกล่าว ส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลของเมือง มีสัดส่วน 15.48% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของภูมิภาค (GRDP) ในปี 2564 และ 18.66% ในปี 2565 ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน แต่คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะเพิ่มสัดส่วน 40% ของ GRDP ภายในปี 2573

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/digital-economy-to-account-for-40-of-hcmc-s-grdp-by-2030-2187341.html

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการชำระเงินออนไลน์ โต 50% ปี 2568

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) ตั้งเป้าที่จะส่งเสริมการชำระเงินออนไลน์ในตลาดอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านตัวกลางในการชำระเงินหรือแอปพลิเคชั่น มีสัดส่วน 50% ภายในปี 2568 เป็นไปตามแผนระดับชาติว่าด้สนการพัฒนาอีคอมเมิร์ซ ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัล (CID) เป็นศูนย์ในการพัฒนาและนำเอาโซลูชั่นต่างๆ มาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อส่งเสริมระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์และยกระดับระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ นอกจากนี้ ศูนย์จะมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาระบบการชำระเงินที่ปลอดภัยสำหรับกิจกรรมอีคอมเมิร์ซโดยใช้ระบบเอสโครว์  (ESCROW) เพื่อปกป้องทั้งผู้บริโภคและผู้ขายในธุรกรรมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/cashless-payments-in-ecommerce-to-account-for-50-by-2025/267608.vnp

‘เมียนมา’ เผย 5 เดือนปี 66 ส่งออกถั่วพัลส์ 580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าเมียนมาส่งออกถั่วพัลส์ ปริมาณมากกว่า 720,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 (เม.ย..-ส.ค.) ของปีงบประมาณ 2566-2567 ทั้งนี้ การส่งออกถั่วพัลส์ทางทะเล มีมูลค่า 488.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 607,129 ตัน ในขณะที่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีมูลค่า 97.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เมียนมายังส่งออกถั่วเขียวผิวดำ ถั่วเขียวผิวมันและถั่วแระ ไปยังตลาดต่างประเทศ อาทิเช่น อินเดีย จีนและสหภาพยุโรป

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-pulses-exports-earn-over-us580-mln-in-past-five-months/#article-title

เวียดนาม กัมพูชา และ สปป.ลาว พร้อมทำงานร่วมกัน กระตุ้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม (CPV) Nguyen Phu Trọng, ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) Samdech Techo Hun Sen และเลขาธิการพรรคปฏิวัติประชาชนลาว (LPRP) ประธานาธิบดี Thongloun Sisoulith ร่วมประชุมหารือระหว่างกัน ณ กรุงฮานอย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 ก.ย.) โดยได้กำหนดกรอบการดำเนินงานที่สำคัญ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระชับและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภาคีเครือข่ายอย่าง เวียดนาม กัมพูชา และ สปป.ลาว ภายใต้สถานการณ์ในระดับภูมิภาคและระดับโลกที่มีความผันผวนมากขึ้น รวมถึงกำลังวางแผนร่วมกันที่จะพัฒนาในหลายสาขาอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความสัมพันธ์ทางการเมือง ความร่วมมือด้านการป้องกันและความมั่นคงที่มีประสิทธิผล ความก้าวหน้าเชิงบวกในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ การศึกษา และความร่วมมือทางเทคนิค ร่วมกับภาคเอกชน และท้องถิ่นของทั้งสามประเทศ ซึ่งอาศัยศักยภาพและจุดแข็งของแต่ละประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_VietnamCambodiaLaos175_23.php

8 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกแตะ 15.7 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัว 0.3%

กรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) รายงานภาวะการส่งออกของกัมพูชาส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2023 มีมูลค่ารวม 15.7 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.3 จากมูลค่า 15.64 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยส่งออกไปยังจีนเพิ่มขึ้นร้อยละถึงร้อยละ 16.8 หรือคิดเป็นมูลค่า 940 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มูลค่า 804.6 ล้านดอลลาร์

ซึ่งรายงานระบุว่าจีนถือเป็นตลาดเป้าหมายสำคัญของกัมพูชาที่มีศักยภาพ เหมาะสมแกการผลักดัน รองจากสหรัฐฯ และเวียดนาม ด้านสินค้าส่งออกหลักที่กัมพูชาส่งออก ได้แก่ เครื่องแต่งกาย รองเท้า และสินค้าเพื่อการเดินทาง จักรยาน และสินค้าเกษตรหลายชนิด เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง กล้วย มะม่วง และลำไย ขณะที่ Penn Sovicheat รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา กล่าวเสริมว่า การเพิ่มขึ้นของการส่งออกไปยังจีนอย่างมีนัยสำคัญเป็นผลมาจากการที่กัมพูชามีข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงเขตการค้าเสรีกัมพูชา-จีน (CCFTA) เป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นภาคการส่งออกไปยังจีนและประเทศอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้กรอบข้อตกลง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501357435/cambodias-exports-worth-15-7-billion-in-8-months-up-0-3-pct/