ผู้นำอาเซียน ชี้ วิกฤตเมียนมา ความขัดแย้งจีน-สหรัฐฯ และข้อพิพาททะเลจีนใต้ ยังเป็นปัญหาใหญ่
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าบรรดาผู้นำชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมตัวกันที่กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดประจำปี ซึ่งเป็นการหารือนัดสุดท้ายของกลุ่มประชาคมอาเซียนในปีนี้ ท่ามกลางความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มประเทศสมาชิก จากปัญหาวิกฤตเมียนมา การขับเคี่ยวของ 2 มหาอำนาจของโลก อย่างจีนและสหรัฐฯ และประเด็นพิพาททะเลจีนใต้ ซึ่งประเทศสมาชิกต่างมีความเห็นไม่ลงรอยกันและยังไม่พบทางออกของปัญหาดังกล่าว
ที่มา : http://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=dE5wSll0YWRqRlU9
‘เวียดนาม’ นำเข้ารถยนต์จากไทยและอินโดนีเซีย
กรมศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 เวียดนามนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศทั้งคัน (CBU) จำนวน 80,000 คัน มูลค่าประมาณ 1.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.4% และ 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ โดยเวียดนามนำเข้ารถยนต์จากไทย จำนวน 36,087 คัน เพิ่มขึ้น 45.2% คิดเป็นมูลค่า 762.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่เดือน ก.ค. เพียงเดือนเดียว เวียดนามนำเข้ารถยนต์จากไทย จำนวน 3,714 คัน มูลค่าประมาณ 84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ไทยเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในตลาดเวียดนาม ทั้งนี้ แบรนด์รถยนต์นำเข้าจากไทยที่ได้รับความนิยมจากคนเวียดนาม ได้แก่ Toyota Corolla Cross, Camry, Corolla Altis, Fortuner, Ford Everest, Honda HR-V, Mazda CX-30 และ CX-3, Forester Subaru และอื่นๆ
‘สหรัฐฯ’ หวังยกระดับความสัมพันธ์กับเวียดนาม เสี่ยงจีนโกรธจัด!
สหรัฐฯ คาดหวังว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามขึ้นสู่ระดับสูงสุด ในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะเดินทางไปเยือนกรุงฮานอยในอีกหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจสร้างความไม่พอใจให้กับจีนและจะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
ทั้งนี้ นายเล ฮอง เฮียป (Le Hong Hiep) นักวิเคราะห์ระดับสูงจากสถาบันเอเชียอาคเนย์ศึกษา ยูซุฟ อิสฮัค (ISEAS Yusof-Ishak Institute) ของสิงคโปร์ กล่าวว่าความเสี่ยงจะเพิ่มเป็น 2 เท่า จากการยกระดับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ทำให้สหรัฐฯ และจีนมีความสัมพันธ์ที่แย่ลงไปอีก อย่างไรก็ดีผู้นำในระดับสูงของเวียดนาม มองว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุด เนื่องจาก ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีนจะมีทิศทางที่แย่ลงในอนาคต
อีกทั้ง อเล็กซานเดอร์ วูวิง (Alexander Vuving) เจ้าหน้าที่อาวุโสศูนย์วิจัยความมั่นคงเอเชีย-แปซิฟิกของสหรัฐ กล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้สหรัฐฯ ยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม เนื่องมาจากเศรษฐกิจเวียดนามมีความจำเป็นที่ต้องจัดหาเงินทุน เทคโนโลยีและการเข้าถึงทางการตลาด นอกจากนี้ เรื่องพลังงานก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนาม เพื่อผลักดันให้เวียดนามมีบทบาทสำคัญในตลาดพลังงานก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และพลังงานลมนอกชายฝั่ง ถึงแม้ว่าเผชิญกับความล่าช้าในด้านบริหารและการจัดหาเงินทุน
ที่มา : https://www.fijitimes.com/us-expects-to-upgrade-vietnam-ties-risks-china-anger/
‘เมียนมา’ เผยเดือน ส.ค. ยอดค้าชายแดนเมียวดี พุ่ง 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด่านชายแดนเมียวดี ไทย-เมียนมา สร้างมูลค่าการค้าชายแดนทะลุ 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือน ส.ค. ถึงแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ดินถล่มจากฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ทำให้การค้าชายแดนต้องหยุดชะงัก อย่างไรก็ดี จากเหตุการณ์ดังกล่าว กรมทางหลวงของรัฐบาลกะเหรี่ยง ได้เร่งสร้างสะพานเบลีย์ที่เป็นส่วนต่อขยายของถนนที่ถูกดินถล่ม ในขณะที่ ถนนเมียวดี-กอกะเรก ทางหลวงสายเอเชีย กลับมาใช้งานได้ตามปกติในวันที่ 15 ส.ค. โดยให้รถบรรทุก 6 ล้อสามารถขับในเลนได้ นอกจากนี้ จากตัวเลขการค้าชายแดนเมียวดี เดือน ส.ค. พบว่ามีมูลค่าการส่งออก อยู่ที่ 15.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จำนวนรถบรรทุก 1,457 คัน และการนำเข้า 40.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จำนวนรถบรรทุก 2,327 คัน
ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myawady-border-trade-tops-us55-mln-in-august/#article-title
สหภาพยุโรปมอบเงินสนับสนุนงบประมาณชาติให้แก่ สปป.ลาว 18.4 ล้านยูโร
สหภาพยุโรป (EU) อนุมัติเงินช่วยเหลือจำนวน 18.4 ล้านยูโร แก่รัฐบาล สปป.ลาว ซึ่งในอดีตได้รับการสนับสนุนมาแล้วสองโครงการ ได้แก่ โครงการสนับสนุนภาคการศึกษาภายใต้กรอบระยะเวลาประจำปี 2018-2021 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายในแผนพัฒนาภาคการศึกษาให้สำเร็จตามเป้าหมาย โดยเฉพาะความพยายามในการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นอย่างน้อย ด้วยการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาและการจัดการภาครัฐในภาคส่วนดังกล่าว และโครงการถัดมาเน้นการสนับสนุนทางโภชนาการนับตั้งแต่ปี 2019-2022 เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารในประเทศ สำหรับในปี 2023 สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาอนุมัติงบประมาณมูลค่ารวม 4.4 ล้านยูโร เพื่อสนับสนุนงบประมาณชาติ โดยมุ่งเน้นไปที่ภาคส่วนสำคัญดังเดิมไม่ว่าจะเป็นภาคการศึกษาและสุขภาพในประเทศ เพื่อหวังปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ รวมถึงบรรเทาความยากจนให้หมดไป
ที่มา : http://vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_172_EU_y23.php
อินโดนีเซียจ่อนำเข้าข้าวสารจากกัมพูชาแตะ 2.5 แสนตันต่อปี
อินโดนีเซียได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกัมพูชาสำหรับการจัดหาข้าวสารปริมาณกว่า 250,000 ตันต่อปี กล่าวโดย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (4 ก.ย.) โดยความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากอินเดียประกาศยุติการส่งออกข้าวไปยังอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายความมั่นคงด้านอาหารแห่งชาติของอินเดีย หลังมีแนวโน้มที่จะเกิดปรากฏการณ์เอลนิโญ่ ด้านประธานาธิบดีอินโดนีเซียกล่าวเสริมด้วยว่าเพื่อเป็นการตอบแทนต่อกัมพูชา อินโดนีเซียพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการความมั่นคงด้านอาหารให้แก่กัมพูชาด้วยการจัดหาปุ๋ยรองรับการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรของกัมพูชา
โดยในช่วงก่อนหน้าอินโดนีเซียวางแผนที่จะนำเข้าข้าวสารจากอินเดียมากกว่า 1 ล้านตัน แต่คำขอดังกล่าวถูกปฏิเสธ ส่งผลทำให้อินโดนีเซียจำเป็นต้องหาแหล่งในการนำเข้าข้าวสารจากแหล่งอื่นๆ เพื่อทดแทนกับโควต้าที่ถูกปฏิเสธ ตามที่รัฐมนตรีการค้า Zulkifli Hasan ได้กล่าวไว้
ขณะที่ข้อมูลของรัฐบาลอินโดนีเซียได้ระบุว่า สต๊อกข้าวในโกดังของ Bulog หน่วยงานโลจิสติกส์ของรัฐ รายงานว่าปัจจุบันมีจำนวนเกือบ 1.6 ล้านตัน อีกทั้งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อเพิ่มปริมาณอาหารสำรองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงไปยังภาคการเกษตร
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501354908/indonesia-to-import-250000-tons-of-rice-from-cambodia/
คาดอัตราการว่างงานกัมพูชาลดลงเหลือร้อยละ 0.3 ภายในปี 2023
คาดอัตราการว่างงานของกัมพูชาจะลดลงเหลือร้อยละ 0.3 ภายในปี 2023 จากร้อยละ 0.4 ในปีที่แล้ว ตามตัวเลขล่าสุดที่เผยแพร่โดยกระทรวงแรงงาน ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ของหน่วยงานสหประชาชาติ (UN) โดยตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานของกัมพูชาต่ำที่สุดในบรรดาประเทศที่มีระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจใกล้เคียงกันและต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อย่างเช่น ไทย เวียดนาม และ สปป.ลาว ในขณะที่อัตราการว่างงานโดยเฉลี่ยของกลุ่มประเทศอาเซียนคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4 ในปี 2023 จากร้อยละ 2.6 ในปีก่อน
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501354673/unemployment-rate-to-fall-to-0-3-percent-in-2023/
‘การบินพลเรือนเวียดนาม’ คาดเที่ยวบินในประเทศพุ่ง เหตุช่วงวันชาติ
สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) รายงานว่าเที่ยวบินภายในประเทศมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่งให้อัตราการจองที่นั่งเที่ยวบิน (Occupancy Rate) สูงถึง 70% เนื่องจากวันชาติเวียดนามที่กำลังจะมาถึง ตั้งแต่วันที่ 1-4 ก.ย. โดยเฉพาะเที่ยวบินฮานาย-ดาลัด, เที่ยวบินกวีเญิน-เกาะฟู้โกว๊ก และเที่ยวบินกงด๋าว-ญาจาง มีอัตราการจองที่นั่ง 73%-97% ในวันที่ 31 ส.ค. นอกจากนี้ สำนักงานบินเตรียมที่จะร่วมมือกับสายการบินต่างๆ เพื่อรับมือผู้โดยสารที่มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงวันชาติเวียดนาม
‘เวียดนาม’ เผยช่วง 8 เดือนปีนี้ ผู้ประกอบการลงทุนในต่างประเทศ ทะลุ 416 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ผู้ประกอบการเวียดนามลงทุนในต่างประเทศ มีมูลค่า 416 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยจากเงินลงทุนรวมทั้งหมดข้างต้น โครงการใหม่ได้รับเงินทุนราว 244.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 79 โครงการ ในขณะที่โครงการที่มีอยู่เดิมได้รับเงินทุนราว 171.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 18 โครงการ ทั้งนี้ นักลงทุนเวียดนามที่ลงทุนในต่างประเทศส่วนใหญ่ลงทุนในภาคการค้าปลีกและค้าส่ง มีมูลค่า 150.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า เกษตรกรรม การเงินและการธนาคาร นอกจากนี้
ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/over-416-million-usd-invested-abroad-in-8-months/267218.vnp