ส่งออกเดี้ยงศก.แย่ สศช.หั่นจีดีพีทั้งปีเหลือ2.5-3%
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยหรือจีดีพีช่วงไตรมาส 2/2566 มีอัตราการเติบโต 1.8% ชะลอลงจากการขยายตัว 2.6% ในไตรมาสแรกของปี 2566 และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้วเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สองของปี 2566 ขยายตัวจากไตรมาสแรกของปี 2566 ที่ 0.2% ค่อนข้างต่ำกว่าคาดการณ์ จากสาเหตุภาคส่งออกติดลบ 5.7% เป็นการหดตัว 3 ไตรมาสติดต่อกัน และการผลิตภาคอุตสาหกรรม ติดลบ 3.3% รวมถึงการอุปโภค-บริโภคของภาครัฐ ติดลบ 4.3% โดยครึ่งปีแรกเศรษฐกิจขยายตัว 2.2% หลักๆ มาจากรายได้ภาคท่องเที่ยว
‘แบงก์ชาติเวียดนาม’ ชี้แบงก์พาณิชย์ เดินหน้าลงทุนดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น 630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นาย ฝั่ม แอง ต๋วน (Pham Anh Tuan) ผู้อำนวยการฝ่ายระบบการชำระเงินของธนาคารแห่งชาติเวียดนาม กล่าวว่าการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ จะมีส่วนช่วยการลดการใช้เงินสดและส่งเสริมการชำระเงินดิจิทัลในทุกรูปแบบ มุ่งสู้เป้าหมายของโครงการการชำระเงินแบบไร้เงินสดในปี 2564-2565 ซึ่งตั้งเป้าประชากรเวียดนาม อายุ 18 ปีขึ้นไป กว่า 85% เปิดบัญชีธนาคารในปี 2568
นอกจากนี้ การส่งเสริมให้ผู้คนหันมาใช้บริการดิจิทัล ช่วยให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการโอนเงินที่ผิดกฎหมายและกลุ่มเงินกู้นอกระบบ ในขณะที่นาย Nguyen Quoc Hung รองประธานและเลขาธิการสมาคมธนาคารเวียดนาม กล่าวว่าในระหว่างกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล รัฐบาลและธนาคารกลางให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยมากที่สุด
‘เวียดนาม’ เผยกลางเดือน ส.ค. เกินดุลการค้า 16.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าการนำเข้าและการส่งออกของเวียดนามในช่วงต้นปีจนถึงกลางเดือน ส.ค. มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นราว 402 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และการส่งออกของเวียดนาม มีมูลค่า 209.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 10.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 193 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 16.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ หากพิจารณาข้อมูลในช่วงครึ่งแรกของเดือน ส.ค. การส่งออกของเวียดนามมีมูลค่า 14.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 10.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี และการนำเข้ามีมูลค่า 14.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยสินค้าส่งออกหลักของเวียดนาม ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วน (2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) รองลงมาคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ, เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม และเครื่องจักรและส่วนประกอบ
ADB อนุมัติเงินกู้ 45 ล้านดอลลาร์ ส่งเสริมภาคบริการสุขภาพ สปป.ลาว
ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้อนุมัติเงินกู้จำนวน 45 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเสริมสร้างภาคบริการด้านสุขภาพใน สปป.ลาว ให้มีคุณภาพในเขตพื้นที่ 16 อำเภอ ทั่วประเทศ ภายใต้การดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ด้าน ADB กล่าวเสริมว่า โครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนประมาณกว่า 1.6 ล้านคนต่อปี ที่ต้องการเข้ารับบริการด้านสุขภาพ โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มรายได้เปราะ และกลุ่มชาติพันธุ์ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและด้อยโอกาส ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ADB กล่าวว่า สปป.ลาว มีความก้าวหน้าในการขยายการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพและการประกันภัย นับตั้งแต่มีโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติที่ได้เปิดตัวในปี 2015 ที่ให้สิทธิครอบคลุมร้อยละ 94 ของประชากร อย่างไรก็ตาม ADB กล่าวว่า สปป.ลาว ยังคงตามหลังประเทศเพื่อนบ้านในแง่ของการให้บริการด้านสาธารณสุข โดยเป็นเหตุให้ ADB จำต้องสนับสนุน สปป.ลาว ในการพัฒนาภาคส่วนดังกล่าว
ที่มา : https://english.news.cn/20230822/1273f9591bdb4cce9a606291820fdb22/c.html
ครึ่งแรกของปี กัมพูชาส่งออกยางรถยนต์มูลค่ารวม 125 ล้านดอลลาร์
กัมพูชาส่งออกยางรถยนต์ในช่วงครึ่งแรกของปีมูลค่ารวม 125 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) โดยปัจจุบันกัมพูชามีโรงงานผลิตยางรถยนต์ทั้งสิ้น 3 แห่ง ดำเนินการอยู่ในจังหวัด สวายเรียง พระสีหนุ และกระแจะ ซึ่งโรงงานแรกเป็นของ บริษัท Sailun Group Co., Ltd. ของจีน สามารถผลิตยางเรเดียลผสมเหล็กได้ 5 ล้านเส้นต่อปี สำหรับโรงงานที่สองเป็นของ บริษัท General Tyre Technology (กัมพูชา) ด้วยเม็ดเงินลงทุนมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ สามารถผลิตยางเรเดียลกึ่งเหล็ก 5 ล้านเส้น และยางเรเดียลเสริมเหล็ก 900,000 เส้นต่อปี ขณะที่โรงงานของ บริษัท Newbustar (Cambodia) Tyre Co., Ltd. สามารถผลิตยางเรเดียลสมรรถนะสูงได้ถึง 8.5 ล้านเส้นต่อปี โดยการส่งออกส่วนใหญ่ส่งออกไปยังยุโรป สหรัฐอเมริกา เป็นสำคัญ
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501346714/cambodia-auto-tire-exports-at-125-million-in-h1/
7 เดือนแรกของปี กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังตลาดกลุ่ม RCEP กว่า 4.6 พันล้านดอลลาร์
กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังประเทศในกลุ่มความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มูลค่ารวมกว่า 4.59 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามคำแถลงของกระทรวงพาณิชย์ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของกลุ่มประเทศ RCEP คิดเป็นร้อยละ 30 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั่วโลก (GDP) รวมถึงคิดเป็นร้อยละ 28 ของมูลค่าการค้าโลก และมีเม็ดเงินลงทุนร้อยละ 32.5 ของมูลค่าการลงทุนทั่วโลก ซึ่งข้อตกลงนี้คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการรวมกลุ่มอาเซียนเข้ากับเศรษฐกิจโลก ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และป้องกันแนวโน้มต่อต้านโลกาภิวัตน์ รวมถึงฝ่าวิกฤตการกีดกันทางการค้าระดับโลก ด้านกัมพูชาคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพด้านการแข่งขันในตลาดและพัฒนาฐานการผลิตในอาเซียน ไปจนถึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้อาเซียนเป็นตัวแปรหลักบนห่วงโซ่อุปทานในระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไป
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501346750/cambodias-exports-4-6b-to-rcep-markets-in-first-7-months/