รายได้การส่งออกทางทะเลเพิ่มขึ้น 27 ล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าปี 62-63 มีรายได้จากการส่งออกทางทะเลมีจำนวน 232.091 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 27.940 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รายได้จากการส่งออกทางทะเลอยู่ที่ 482 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 57-58 รายได้ 502 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 58-59 รายได้ 652 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 59-60 มากกว่า 680 ล้านเหรียญสหรัฐจนถึง 18 มีนาคมในปี 60-61 และ 728.257 ตามข้อมูลจากกรมประมง เวียดนามติดอันดับประเทศผู้ส่งออกทางทะเลในอาเซียน รองลงมาคือ ไทย อินโดนีเซีย และเมียนมาตามลำดับ ปัจจุบันเมียนมาส่งออกปลามากกว่า 40 ชนิดไปยังกว่า 40 ประเทศ ปริมาณการส่งออกทางทะเลของเมียนมาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน มีความพยายามที่จะเพิ่มการส่งออกซึ่งภาคการประมงควรให้ความสำคัญกับระบบการผสมพันธุ์มากว่าการทำประมงตามธรรมชาติ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/marine-export-earnings-increase-by-over-27-m

เวียดนามตั้งเป้ายอดส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563

ตามข้อมูลของสมาคมเม็ดมะม่วงหิมพานต์เวียดนาม (Vinacas) เปิดเผยว่าภาคอุตสาหกรรมเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะมุ่งเน้นไปที่การแปรรูป ปรับปรุงคุณภาพและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2562 มีการนำเข้าวัตถุดิบอยู่ที่ 1.5 ล้านตัน และแหล่งน้ำเข้าวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากแอฟริกา ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ปริมาณส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์มากกว่า 418,000 ตัน ด้วยมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผู้นำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คือ สหรัฐอเมริกา รองลงมาจีนและเนเธอแลนด์ เป็นต้น นอกจากนี้ จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ระบุว่าภาคเกษตรกรรมมียอดเกินดุลการค้าราว 8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ สำหรับแหล่งส่งออกสินค้าเกษตรของเวียดนามรายใหญ่ที่สุด คือ จีน (26.9% ของการส่งออกรวม) รองลงมาสหรัฐฯ สหภาพยุโรป อาเซียนและญี่ปุ่น ตามลำดับ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-targets-4-billion-usd-from-cashew-exports-in-2020-407924.vov

เวียดนามเผชิญกับอุปสรรคในการส่งออกพริกไทยไปยังตลาดโลก

ตามข้อมูลของสำนักงานการนำเข้า-ส่งออก ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม เปิดเผยว่าสถานการณ์การส่งออกพริกไทยของเวียดนามยังคงเผชิญกับอุปสรรค เป็นผลมาจากผลผลิตล้นในตลาดโลก และการแข่งขันจากคู่แข่งที่สูงขึ้น ทำให้ระดับราคาลดลง โดยในปัจจุบัน เวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกพริกไทยอยู่ที่ 100,000 เฮกเตอร์ คิดเป็นปริมาณผลผลิตราว 247,000 ตัน ขณะที่ ราคาพริกไทยยังอยู่ในระดับต่ำและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ อุตสาหกรรมพริกไทยมีแนวโน้มชะลอตัวต่อไปอีก ทั้งนี้ คาดว่าผลผลิตพริกไทยในตลาดโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 1 ล้านตันในปี 2050 เนื่องจากความต้องการเพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้เกิดความผันผวนของราคาพริกไทย นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่าแม้ว่าสถานการณ์การส่งออกพริกไทยของเวียดนามเผชิญกับความท้าทาย แต่ด้วยข้อตกลงการค้าเสรี เช่น CPTPP และ EVFTA เป็นต้น จะทำให้อุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับโอกาสมากยิ่งขึ้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/pepper-exports-face-hurdles-in-global-market-407916.vov

เวียดนามคาดว่ายอดการส่งออกสินค้าป่าไม้ 11.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าภาคป่าไม้ของเวียดนามยังคงเติบโตสูงถึง 5% ในปีนี้ มีมูลค่าการส่งออก 11.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ด้วยอัตราการส่งออกอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้ภาคการเกษตรขยายตัว โดยตลาดส่งออกสำคัญของผลิตภัณฑ์ไม้เวียดนาม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน สหภาพยุโรป และเกาหลีใต้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรวมกัน 80% ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ทั้งหมด ทั้งนี้ มีจำนวนผู้ประกอบการแปรรูปไม้กว่า 4,500 ราย และสถานประกอบการในประเทศมีอยู่มากกว่า 1,800 แห่ง นอกจากนี้ ภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI), อุตสาหกรรมไม้แปรรูปได้พัฒนาในลักษณะของโครงการขนาดใหญ่และมีการส่งเสริมเทคโนโลยีให้ทันสมัยมากขึ้น ขณะที่ ผลิตภัณฑ์แปรรูปไม้นั้นมีรูปแบบและชนิดหลากหลายขึ้น ทำให้ได้รับมาตรฐานในการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/forestry-exports-expected-to-beat-us113-billion-during-2019-407762.vov

ภาคการส่งออกกัมพูชายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การส่งออกของกัมพูชาภายใต้ GSPs และข้อตกลงการค้าเสรีมีมูลค่าถึง 10.81 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 10 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้น 6.45% ตามที่กระทรวงพาณิชย์ระบุ โดยในรายงานล่าสุดกระทรวงระบุว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคมกัมพูชาส่งออกเสื้อผ้าที่ 6.4 พันล้านเหรียญ, สิ่งทอ 40 ล้านเหรียญ, รองเท้า 905 ล้านเหรียญและข้าว 286 ล้านเหรียญ เป็นต้น ซึ่งความสำคัญอยู่ที่การเพิ่มความหลากหลายของตลาด ปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้ากับพันธมิตรของกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอินเดีย ซึ่งผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์จากกัมพูชารายใหญ่ที่สุด คือ สหภาพยุโรปสหรัฐอเมริกา แคนาดาและจีน โดยกัมพูชากำลังขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆผ่านข้อตกลงเขตการค้าเสรีแบบครบวงจร (RCEP) ซึ่งจะได้ข้อสรุปในปีหน้า โดยประธานสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าในประเทศกัมพูชา (GMAC) กล่าวว่าเสถียรภาพทางการเมืองและความสงบเรียบร้อยของสังคมเป็นรากฐานของความก้าวหน้าทางสังคมและเศรษฐกิจของกัมพูชา ซึ่งโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศมีการพัฒนามาจากการเกษตร อุตสาหกรรมและภาคบริการ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50671488/exports-continue-strong-growth-ministry-report/

เมียนมาส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปตุรกี

จากการหารือส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป การจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับแรงงาน การลงทุน งานแสดงสินค้าระหว่างสองประเทศและการส่งเสริมภาคการค้า ระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และเอกอัครราชทูตตุรกีประจำเมียนมาเมื่อต้นเดือนธันวาคม การส่งออกเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ ข้าว ถั่ว และข้าวโพดเพิ่มเป็น 4 เท่าภายใน 5 ปี มูลค่าของการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูป CMP (Cutting, Making, Packing) อยู่ที่ 325 ล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 25 ตุลาคมของปี 62-63 อย่างไรก็ตามการส่งออกปีที่ผ่านมามีมูลค่ามากกว่า 287 ล้านเหรียญสหรัฐ รายได้ต่อปีจากระบบ CMP ประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกหลักคือญี่ปุ่นและยุโรป นอกจากนี้ยังมีตลาดในเกาหลีใต้ จีน และสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมีโรงงานเสื้อผ้ามากกว่า 400 แห่ง ด้วยค่าแรงที่ต่ำสามารถดึงดูดการลงทุนจากผู้ผลิตต่างประเทศ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/myanmars-apparel-exports-to-surge-to-turkey

เวียดนามเผยยอดส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้เกินกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเดือนตุลาคม

จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเดือนตุลาคมของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรองประธานสมาคมหัตถกรรมและแปรรูปไม้นครโฮจิมินห์ (Hawa) ระบุว่าเป็นครั้งแรกที่มีมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ที่สูงกว่ามาตรฐานที่ตั้งไว้ ประกอบกับรัฐบาลได้ป้องกันการทุจริตว่าด้วยเวียดนามส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ดังนั้น ตลาดส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้คาดว่าจะสดใส ในช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไม้แปรรูปยังคงต้องตื่นตัวต่อปัญหาการทุจริตในการส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้และไม้แปรรูป เพื่อรักษาตลาดสำคัญ ได้แก่ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน ทั้งนี้ ในปี 2561 การส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ไม้เวียดนาม คิดเป็นมูลค่าราว 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/wood-and-wood-product-exports-exceed-1-billion-usd-in-october-406728.vov

รายได้จากการส่งออกทางทะเลมากกว่า 110 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในรอบเดือนนี้

เมียนมามีรายรับมากกว่า 110 ล้านเหรียญสหรัฐจากการส่งออกสินค้าทางทะเลในช่วงเวลาหนึ่งเดือนของปีงบประมาณนี้มากกว่า 18 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันก่อน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ถึง 8 พ.ย.ในปี 62-63 มูลค่าการส่งออกทางทะเล 114.582 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ปีที่แล้วมีมูลค่า 95.949 ล้านเหรียญสหรัฐฯ :ซึ่งมากกว่า 18.578 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปัจจุบันปริมาณของสินค้าทางทะเลรวมถึง ปลา และกุ้งส่งออกน้อยกว่าของประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นจำเป็นต้องปรับปรุงระบบการทำฟาร์มมากกว่าการใช้วิธีจับตามธรรมชาติ ด้วยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากอินโดนีเซีย ไต้หวัน และจีน กำลังสร้างฟาร์มปลา โรงงานอาหารปลา และโรงงานห้องเย็นโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเป้าหมายในการสร้างรายได้สูงถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีแผนที่จะให้สินเชื่อ SME เพื่อช่วยในการจัดหาพื้นที่ฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาและกุ้ง

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/over-110-m-earned-from-marine-export-in-a-month

เวียดนามตั้งเป้ายอดส่งออกข้าว 6.5 ล้านตัน ภายในปี 2562

จากข้อมูลของสมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) คาดว่าจะส่งออกได้ 6.5 ล้านตัน ในปี 2562 โดยประเทศจีนเป็นตลาดส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ประกอบกับเวียดนามส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เฉลี่ยอยู่ที่ 2 ล้านตันต่อปี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของยอดส่งออกข้าวรวมทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าเวียดนามจะมีส่วนแบ่งการตลาดสูงและมีขนาดตลาดใหญ่ แต่ในช่วงตั้งแต่ปี 2561 มีแนวโน้มลดต่ำลง เนื่องมาจากกฎระเบียบทางด้านคุณภาพสินค้า และข้อกำหนดทางด้านเทคนิคที่เข็มงวด ด้วยเหตุนี้ จึงต้องหันมาส่งออกไปยังตลาดอื่น ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) ระบุว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกข้าวไปยังประเทศจีน ลดลงร้อยละ 67 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าสถานการณ์การส่งออกข้าวลดลงก็ตาม แต่คาดว่าในปีนี้ จะสามารถส่งออกข้าวรวมตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/rice-exports-set-to-reach-65-million-tonnes-during-2019-406267.vov

การเกินดุลการค้าไตรมาสที่ 3 ในสปป.ลาว

สปป.ลาวมียอดเกินดุลการค้า 178 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 9 เดือนแรกของปี มูลค่าการส่งออกและนำเข้ารวมของสปป.ลาวใน Q3 ของปี 62 สูงถึง 8,582 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 76% ของตัวเลขที่ได้รับอนุมัติจากรัฐสภา มีการเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มูลค่าการส่งออกมีมูลค่าถึง 4,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 79.4% ของแผน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,516 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการนำเข้ามีมูลค่า 4,202 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่มีแนวโน้มสูงถึง 5,775 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาคอุตสาหกรรมและหัตถกรรมมียอดขาย 8,968 พันล้านกีบหรือ 73.5% ของตัวเลขเป้าหมาย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 19.8% และมีแนวโน้มสูงถึง 12,306 พันล้านกีบหรือ 99% ของจำนวน 12,386 พันล้านกีบ รายได้จากอุตสาหกรรมแปรรูปและงานฝีมือลดลง การผลิตไฟฟ้าซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักได้รับผลกระทบจากฤดูแล้ง ประมาณ 23,641 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง สร้างมูลค่ามากกว่า 11,600 ล้านกีบหรือ 70% ของ 33,875 พันล้านกีบที่ได้รับอนุมัติจากสมัชชาแห่งชาติ ลดลงร้อยละ 5.17 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว รัฐบาลคาดว่าการส่งออกไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นในปีนี้เนื่องจากโรงงานใหม่เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ มูลค่าการส่งออกแร่ธาตุอยู่ที่ 8,080 พันล้านกีบหรือ 68% ตัวเลขเป้าหมายและคาดว่าจะลดลง

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-registers-trade-surplus-q3-108042