เวียดนามคาดว่ายอดส่งออก 217.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562

จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกประมาณ 217.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 หากคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 82.5 ของยอดเป้าในการส่งออกของปีนี้ ซึ่งได้บรรลุเป้าที่มีการขยายตัวร้อยละ 7-8 ในปีนี้ โดยสินค้า 29 กลุ่มที่มีการส่งออกมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และอีก 5 รายการสินค้าที่มีรายได้มากกว่า 10 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือและส่วนประกอบ รองลงมาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริม, เครื่องแต่งกาย, รองเท้า และเครื่องจักรและอุปกรณ์ เป็นต้น หากคิดเป็นสัดส่วนรวมร้อยละ 59.4 ของยอดมูลค่าการส่งออกรวม ทั้งนี้ อัตราดังกล่าวในปีนี้ เวียดนามมีการขาดดุลการค้าติดต่อกัน 4 ปี แล้วในปีนี้กลับมาเกินดุลการค้าอีกครั้ง

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnams-exports-estimated-at-21705-bln-usd-in-10-months-406026.vov

สินค้าเวียดนามมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 200 ประเทศทั่วโลก

จากรายงานของอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในแง่ของขนาดตลาด และโครงสร้างสินค้าสำคัญ ในปัจจุบันเวียดนามส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ประกอบกับความต้องการของตลาดที่มีความหลากหลาย ซึ่งข้อกำหนดสินค้าที่มีความเข็มงวด และมาตรฐานของผลิตภัณฑ์สูง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นต้น ทั้งนี้ มีการจัดอันดับการส่งออกระดับโลก พบว่าในปี 2550 เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 50 ของโลก และในปี 2561 เวียดนามขยับอันดับดีขึ้นที่ 26 ของโลก โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ สหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เป็นผลมาจากนโยบายที่สนับสนุนในการกระจายส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน อาเซียน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม การกระจายส่งออกสินค้าในหมวดสินค้าเกษตรและประมงยังอยู่ในระดับไม่สูงนัก เนื่องมาจากความผันผวนของตลาด ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnamese-goods-enjoy-market-share-in-200-countries-worldwide-406023.vov

ฉาน สันติภาพและใบชา

ในบรรดาสินค้าเกษตรมากมายของเมียนมาใบชามีศักยภาพสูงในตลาดส่งออกเพราะเป็นพืชอินทรีย์ที่ปลูกได้เองตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามการเชื่อมโยงกับความขัดแย้งในรัฐฉานซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ปลูกหลักสำหรับการเพาะปลูก หากหยุดการสู้รบการส่งออกชาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะการไม่ต้องใช้สารเคมีดังนั้นจึงมีข้อได้เปรียบมากมาย พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและเป็นสาเหตุที่ไม่สามารถขอใบรับรองได้ ตลาดส่งออกสำคัญคือจีน ซึ่งสวนชา 80 แห่งในตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มั่นคงทำให้ต้นทุนการผลิตจึงสูงกว่าในประเทศอื่น ๆ มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 8900 เฮคเตอร์ทั่วประเทศ  52 ตันถูกส่งออกไปจีน ไม่นานมานี้ผู้ปลูกชาเข้าร่วมในงาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ 16 ซึ่งใบชาแห้งและเปียกได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก ทั้งจีนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการรับรองคุณภาพและถือเป็นข้อได้เปรียบของเมียนมา ปัจจุบันมีการส่งออกไปยังไต้หวัน ไทย เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ แต่ตลาดที่ใหญ่ที่สุดยังคงเป็นจีน ดังนั้นสันติภาพในรัฐฉานเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับภาคการผลิตชา เมียนมาจึงต้องการความสงบสุขอย่างเร็วที่สุด

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/shan-states-peace-and-tea-leaves.html

เวียดนามเผยปริมาณการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น แต่ยอดมูลค่ากลับลดลง

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562  เวียดนามส่งออกข้าวกว่า 5.2 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 2.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 แต่มูลค่ากลับลดลงร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งประเทศฟิลิปปินส์เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีการบริโภคข้าวเกือบ 1.76 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 720 ล้าน ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ ราคาข้าวเฉลี่ยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 13.8 คิดเป็นราคาอยู่ที่ 435 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน และทางหน่วยงานเกษตรกรรมฟิลิปปินส์มีการเสนอให้ใช้ภาษีนำเข้าข้าวในการปกป้องผู้ประกอบการในประเทศ โดยมีอัตราภาษีนำเข้าข้าวอยู่ที่ร้อยละ 30-65 ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกข้าวเวียดนามในอนาคตข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ตลาดญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะนำเข้าข้าวในกลุ่มประเทศสมาชิก CPTPP เช่น เวียดนาม นอกจากนี้ เวียดนามเล็งเห็นโอกาสในการขยายตลาดไปยังแอฟริกาและตะวันออกกลางอีกด้วย

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/536522/rice-export-volume-up-but-value-falls.html#m6XyQo0ATOuAqIYj.97

เวียดนามเผยยอดมูลค่าการส่งออกผักผลไม้ 2.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากข้อมูลของสำนักงานเกษตรกรรมแปรรูป และการส่งเสริมการตลาด (Agrotrade) ภายใต้กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการส่งออกผักผลไม้ของเวียดนามอยู่ที่ 2.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 5.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศจีนยังคงเป็นผู้นำเข้าผักผลไม้รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70.5 ของมูลค่าการส่งออกผักผลไม้ของเวียดนามโดยรวม ด้วยมูลค่า 1.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รองลงมาสหรัฐอเมริกาที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 ด้วยมูลค่า 84.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ตามลำดับ นอกจากนี้ ทางด้านสำนักงานเกษตรแปรรูปฯ (Agrotrade) คาดว่าสถานการณ์การส่งออกจะเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เนื่องมาจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก ความตึงเครียดของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจของการค้าและการลงทุน เป็นต้น

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7908002-fruit-veg-exports-reach-us$2-53-billion-in-eight-months.html