รัฐบาลเมียนมาขายบ้านราคาถูกในสี่เมือง

รัฐบาลกำลังขายอพาร์ทเมนท์ราคาถูกในเมืองอย่าง หล่ายธะยา ชเว-ปยีตา Dagon Seikkan และ ตันลยิล-เจ๊าตัน สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 300,000 จัต ผู้ซื้อต้องเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่อยู่อาศัยในธนาคารเพื่อการพัฒนา การก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน (CHID) และต้องมีน้อย 3 ล้านจัต ในบัญชีของพวกเขาเพื่อให้ได้เงินกู้ก่อสร้างระยะยาวเพื่อซื้ออพาร์ทเมนต้นทุนต่ำ โดยกำลังเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งมอบอพาร์ทเมนท์ให้กับผู้ซื้อในกลุ่มที่สอง ณ สิ้นเดือนก.ย. เงินดาวน์จะเท่ากับ 20% สำหรับอพาร์ทเมนท์ราคาถูกและ 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับอพาร์ทเมนท์ราคาไม่แพง อัตราดอกเบี้ย 8.5% และระยะเวลากู้ 15 ปี มีอพาร์ทเมนท์ทั้งหมด 325 ห้องที่ถูกจับฉลากและขายเป็นชุดที่สองในวันที่ 4 มิถุนายน การขายอพาร์ทเมนท์ราคาถูกและราคาไม่แพงนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ปานกลางในเขตย่างกุ้ง

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/govt-sells-low-cost-housing-units-in-four-townships

ธุรกิจขนส่งและยานยนต์

ธุรกิจขนส่งและธุรกิจยานยนต์เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ เป็นปกติที่ประเทศเปิดใหม่ มักจะต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะก่อน ในเมียนมาทุกอย่างกำลังเริ่มต้นใหม่ เพียงแต่ต่างจากไทยอาจเวลาถึง 30 ปีกว่าจะเปลี่ยนเป็นประเทศกำลังพัฒนา ในเมียนมาใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 ปี ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ที่เปลี่ยนแปลงเร็วเพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปก่อนล่วงที่เมียนมาเปลี่ยน จึงทำให้เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เหมือนเวียดนามนั่นเอง แต่ในชนบทยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะไม่มีเงินทุนสำรองมากนัก จึงเปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนมากกันมากขึ้น ในแง่ของธุรกิจยานยนต์ ที่นี่ในอดีตที่ผ่านมา ไม่อนุญาตให้นำเข้ารถยนต์ ตั้งแต่ ปี 2000 เพราะในยุคก่อนนั้นมีการนำเข้ารถเก่าญี่ปุ่นจากประเทศไทยเข้าไปเยอะ และเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันจะได้รับการอุ้มจากรัฐบาล ราคาตลาดมืดลิตรละประมาณ 1,000-1,200 Ks/ลิตร แต่ราคารัฐบาลขายให้ประชาชนที่มีรถยนต์ โดยการจำกัดรถ 1 คัน ให้เติมวันละ 4 แกลลอน/ละ 400-600 Ks รถ 1 คัน สามารถวิ่งเข้าไปเติมน้ำมันแล้วเก็บไว้ขายสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้เลย ดังนั้นจึงห้ามนำเข้ารถยนต์ พอในเดือน ส.ค. 2007 รัฐบาลทนต่อการขาดทุนไม่ไหวจึงประกาศงดการสนับสนุนอีกต่อไป

ที่มา: https://www.posttoday.com/aec/scoop/561437

Air Kanbawza เพิ่มเที่ยวบินมัณฑะเลย์ ฉาน

Air Kanbawza ซึ่งตั้งอยู่ในย่างกุ้งเป็นบริษัทในเครือของ Kanbawza ซึ่งรวมถึง Kanbawza Bank ได้เพิ่มเที่ยวบินไปยังเขตมัณฑะเลย์ เมืองล่าเสี้ยวและเมืองเฮโฮของรัฐฉาน เพื่อตอบโต้การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การโจมตีทำให้ชาวเมืองในรัฐฉานต้องหยุดงานรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ สายการบินยืนยันว่าการเพิ่มขึ้นของความถี่ในเที่ยวบินนั้นเป็นการเพิ่มเพื่อตอบสนองความต้องการ มีการเพิ่มเที่ยวบินอย่างเป็นทางการในเส้นทางมัณฑะเลย์ เมืองล่าเสี้ยวและเมืองเฮโฮ นับตั้งแต่การโจมตีเมื่อวันที่ 15 ส.ค การขนส่งสินค้าและการเดินทางทางบกนั้นเป็นไปด้วยความยากลำยากซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวในรัฐฉาน ปัจจุบัน Air Kanbawza ให้บริการเที่ยวบินไปมัณฑะเลย์, มิตจีนา, ยอง อู, เฮโฮ, Lashio, ท่าขี้เหล็ก, มะริด, เกาะสอง, ตั่งตแว, ซิตตเว และเนปิดอร์

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/airline-increases-flights-mandalay-shan.html

เมียนมาคาดกำไรจากอุตสาหกรรมไฟฟ้าเพิ่ม 32 พันล้านจัต

จากรายงานของคณะกรรมการบัญชีสาธารณะ รัฐบาลเมียนมาคาดผลกำไรจากอุตสาหกรรมไฟฟ้าประมาณ 32 พันล้านจัต ในปีงบประมาณ 62 -63 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.62 ได้มีการเพิ่มค่าไฟฟ้า หน่วยงานทางเศรษฐกิจของรัฐที่อยู่ภายใต้กระทรวงไฟฟ้าและพลังงานได้ส่งผลกำไรที่ 735 พันล้านจัต หลังจากภาคไฟฟ้าประสบปัญหาขาดทุนในทุกๆ ปีจนถึงปี 61-62  ต่อมาพบว่าได้คำนวณงบประมาณไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามที่คณะกรรมการร่วมกำหนดค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นภายใต้ร่างแผนแห่งชาติสำหรับปีงบประมาณ 62-63 ค่าไฟฟ้าที่ตั้งงบประมาณไว้นั้นสูงมากแม้ว่าควรจะเพิ่มขึ้นสองหรือสามเท่า

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/around-ks32-billion-profit-budgeted-for-electricity-sector

ค่าห้องพักหรู 5,300 ห้องในย่างกุ้ง ลดฮวบ กว่า 40%

รายงานตลาดไตรมาสสองในปี 62 พบว่าห้องพักหรูหราจำนวน 5,300 ห้อง ในย่างกุ้งค่าเช่าลดลงถึง 40% และราคาอยู่ที่ 85 ดอลลาร์สหรัฐ พบว่ามีโรงแรมมาตรฐานสากลกว่า 30 แห่ง อยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 20 แห่งและโรงแรมอีก 20 แห่งได้รับใบอนุญาตในย่างกุ้ง ในอีกสามปีข้างหน้าโครงการอีก 10 แห่ง จะเสร็จสิ้น 2,040 ห้อง คาดว่าจะมีห้องพักโรงแรมหรูประมาณ 5,700 ห้องภายในปี 62 และประมาณ 7,000 ในปี 64 อัตราราคาสำหรับการให้เช่าห้องพักโรงแรมสุดหรู 50% ตั้งแต่ปี 59 ลดลง 43% ในไตรมาสที่สี่ของปี 61 และ 40% ในไตรมาสแรกของปี 62 ตั้งแต่เดือน ต.ค. 61 เป็นต้นไปช่วงต้นฤดูกาลท่องเที่ยวแม้จะมีการจำกัดวีซ่าของนักท่องเที่ยวจากจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แต่ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 3.5 ล้านคนในปี 61 ซึ่งเพิ่มเพียง 3.15% เมื่อเทียบกับปี 60 จาก 14 ภูมิภาคและรัฐของเมียนมา เขตย่างกุ้ง เขตมัณฑะเลย์ และรัฐฉานส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ในปี 58 มีนักท่องเที่ยว 4.6 ล้านคน ปี 59 มีนักท่องเที่ยว 2.91 ล้านคน ปี 60 มีนักท่องเที่ยว 3.44 ล้านคน ปี 61 มีนักท่องเที่ยว 3.55 ล้านคน และล่าสุดในเดือน ก.ค.62 มีนักท่องเที่ยวมาเยือน 2.47 ล้าน

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/yangon-has-around-5300-luxury-hotel-rooms-rental-rate-falls-by-40

งบประมาณที่ผ่านมาหนี้ต่างชาติเมียนมาเพิ่มขึ้น 10.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ปีงบประมาณ 60 – 61 เมียนมามีหนี้สะสมจำนวน 10.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ จาก 20 ประเทศและองค์กรระดับพหุภาคี หนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1.587 ล้านล้านจัต) หรือ 11.5% ระหว่างปีงบประมาณ 59-60 และ 60-61 ณ มี.ค. 61 เงินกู้จากจีนมีจำนวนมากที่สุด 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีการชำระคืนบางส่วนจำนวน 1.11 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน (Exim China) เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ เงินกู้ดังกล่าวถูกใช้ไปในการก่อสร้างโครงการของกระทรวงไฟฟ้าและพลังงาน ขณะเดียวกันยังคงเป็นหนี้ญี่ปุ่น 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐจากวงเงิน 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเจ้าหนี้อื่น ๆ รวมถึงองค์กรพหุภาคี เช่น ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย กองทุนการเงินระหว่างประเทศอินเดีย ไทย และสหราชอาณาจักร จากรายงานชี้ให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เงินจ๊าตที่อ่อนลงและค่าใช้จ่ายในการจัดการที่สูงขึ้นส่งผลต่อการคลังของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการชำระเงินปกติยังคงมีขึ้นสำหรับธุรกิจที่ล้มเหลว และแนะนำการดูแลและกำกับหลังจากการเบิกเงินกู้จากกระทรวงเกษตรปศุสัตว์และการชลประทานนำไปสู่ความสูญเสียทางการเงินและการทุจริตที่เกิดขึ้น

ที่มา : http:// https://www.mmtimes.com/news/myanmar-foreign-loans-rise-us102b-last-fiscal-year.html

ยอดส่งออกข้าว 10 เดือนแรก 400,000 ตัน มูลค่ากว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ

10 เดือนแรก ตั้งแต่ 1 ต.ค. 61 ถึง 2 ส.ค. 62 เมียนมาส่งออกข้าวหักไป 36 ประเทศมากกว่า 400,689 ตันมูลค่ากว่า 107.147 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย 50% ของทั้งหมดไปเบลเยียม เกือบ 190,000 ตันมูลค่า 50.547 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งออกไปยังอินโดนีเซีย 68,000 ตัน มูลค่ากว่า 18 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งออกไปยังจีน 25,000 ตันมูลค่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐ เนเธอร์แลนด์ 23,000 ตันมูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 20,000 ตัน มูลค่ามากกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐส่งออกไปยังสหรัฐอาณาจักร จากรายงานของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา การนำเข้าข้าวจากจีนและสหภาพยุโรปที่เป็นตลาดส่งออกข้าวรายใหญ่ลดน้อยลงในปีนี้

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/over-100m-earned-from-export-of-400000-tons-of-broken-rice-in-10-months

ยอดส่งออกเสื้อ CMP เพิ่มหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ

ตั้งแต่ 1 ต.ค. ของปีงบประมาณ 61-62 อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม CMP (Cut – Make – Pack) มีรายรับมากกว่า 3.8 พันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เมื่อปีที่แล้วภาคการส่งออกมีกำไรมากกว่า 2.775 พันล้านเหรียญสหรัฐ รายรับจากการส่งออกเพิ่มขึ้นกว่า 1.037 พันล้านเหรียญสหรัฐ อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม CMP อยู่ในอันดับต้น ๆ ของภาคการส่งออกทั้งหมด ในปี 61 มีรายได้เกือบ 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าในปี 67 จะมีรายรับสูงถึง 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปัจจุบันภาคเสื้อผ้า CMP มีรายได้ประมาณ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เมียนมาจะมีรายได้สามพันล้านเหรียญสหรัฐหากสามารถเปลี่ยนจากระบบ CMP เป็นระบบ FOB ตามที่สมาคมผู้ประกอบการตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งเมียนมา (MGEA) ได้ระบุ เมียนมาเริ่มระบบ CMP ในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มมาตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบันมีมากกว่า 70 อุตสาหกรรมที่ทำงานภายใต้ระบบ CMP

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/export-earnings-from-cmp-garment-increase-by-one-billion-usd

ค้าชายแดนเมียนมา – จีน หยุดชะงัก

การค้าชายแดนของเมียนมากับจีนผ่านด่านมูเซในรัฐฉานตอนเหนือได้หยุดชะงักลงเนื่องจากการทำลายสะพานโดยกองกำลังกบฏที่ถนนมัณฑะเลย์ – มูเซและมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ด่านมูเซส่วนใหญ่ส่งออกข้าว, ข้าวโพด, น้ำตาล, ผลผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ และนำเข้าวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์ และวัตถุดิบอื่น ๆ จากจีน มูลค่าการค้าที่ส่งผ่านมูเซอยู่ที่ประมาณ ล้านเหรียญสหรัฐ (4.57 พันล้านจั๊ต) ต่อวันจากงานของกระทรวงพาณิชย์ แม้ว่าจะมีการซ่อมแซมสะพานที่ถูกทำลายแต่ก็ยังคงเป็นการยากที่จะดำเนินการค้าต่อเนื่องจากขาดความมั่นคงในภูมิภาค ปัจจุบันไม่มีการส่งออกผลไม้ไปยังจีน แต่ผู้ค้าส่งสินค้าประมงแม้จะได้รับอนุญาตอย่างเป็นในการส่งออกกำลังประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก จนต้องขายสินค้าในประเทศเท่านั้น เช่น ในเมืองในมัณฑะเลย์และย่างกุ้ง รวมทั้งการส่งออกข้าวที่ต้องหยุดชะงักไปด้วย รายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 61 ถึง 9 ส.ค. 62 การ ส่งออกไปยังจีนผ่านเขตการค้าชายแดนมูเซ มีมูลค่ารวม 2.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและการนำเข้า 1.53 พันล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 4.28 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา: https://www.irrawaddy.com/news/burma/myanmars-cross-border-trade-china-halted-clashes.html