กระทรวงฯส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของกัมพูชาในเวียดนาม

กระทรวงการท่องเที่ยวส่งเสริมให้ประเทศกัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว โดยระหว่างงาน International Travel Expo ครั้งที่ 15 ณ นครโฮจิมินห์ของเวียดนามได้หารือร่วมกันเพื่อส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวภายใต้สโลแกน “สองมณฑลหนึ่งปลายทาง” ซึ่งกัมพูชาและเวียดนามได้ตกลงร่วมมือกันในการท่องเที่ยวทางทะเลเมื่อท่าเรือใหม่ในจังหวัดกัมปอตเสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2564 ซึ่งความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทางทะเลเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยกัมพูชาตั้งเป้าที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามปีละ 1 ล้านคนขณะที่เวียดนามคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาอยู่ที่ 5 แสนคน ซึ่งต้องการสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่และพัฒนาจุดหมายปลายทางที่มีอยู่เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเมื่อปีที่แล้วกัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ 6.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในจำนวนนี้มีประมาณ 8 แสนคนเป็นนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50641198/ministry-promotes-kingdoms-tourism-market-in-vietnam/

การส่งเสริมการค้าระหว่างกัมพูชาและซาอุดิอาระเบีย

กัมพูชาและซาอุดิอาระเบียตกลงที่จะลงนามข้อตกลงที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการคุ้มครองการค้าและการลงทุน ซึ่งเอกอัครราชทูตกัมพูชากระตุ้นให้ บริษัทของซาอุดิอาระเบีย ให้พิจารณาการลงทุนในประเทศกัมพูชา โดยอธิบายว่ากัมพูชามีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวในรูปแบบอื่นๆอีกมาก ซึ่งในการประชุมซาอุดิอาระเบียแสดงความสนใจในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากกัมพูชาโดยเฉพาะข้าวสาร, มันสำปะหลัง, ยางพาราและพริกไทย โดยกระทรวงการค้ากล่าวว่าระหว่างกัมพูชาและซาอุดิอาระเบียมีมูลค่าการค้าถึง 12.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2561 คาดว่าเมื่อข้อตกลงทางการค้าและการลงทุนมีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้การค้าระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/641197/cambodia-saudi-arabia-to-boost-trade/

สปป.ลาว – จีนจัดตั้งกิจการร่วมค้าเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตร

รัฐวิสาหกิจเพื่อการเกษตร (SAS) ของสปป.ลาวได้ลงนามข้อตกลงกับ China’s Guangzhou Zhongheyuan Agriculture Development Co., Ltd. (GZAD) และ บริษัท UAB Global Ltd (UAB) ของฮ่องกง เพื่อร่วมมือกันลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตรและการพัฒนาตลาด ข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน CSU Agricultural Innovation Co., Ltd. (CSU) ได้ลงนามในเวียงจันทน์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วัตถุประสงค์ของการร่วมทุนคือการพัฒนาและปรับปรุงอุตสาหกรรมการเกษตร รวมถึงด้านปศุสัตว์โดยเฉพาะหมู วัว และแพะ การปลูกผักอินทรีย์และผลิตผลทางการเกษตรอื่น ๆ เพื่อจำหน่ายในตลาดสปป.ลาว จีน และนานาชาติ CSU มุ่งมั่นที่จะสร้างงานสร้างโอกาสทางการตลาดและสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับประชาชนและเพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคในราคาที่สมเหตุสมผล ความร่วมมือดังกล่าวคาดว่าจะช่วยการทำฟาร์มปศุสัตว์และปรับปรุงระบบการทำฟาร์มในสปป.ลาวโดยใช้เทคโนโลยีและมาตรฐานใหม่และผ่านการฝึกอบรมและความช่วยเหลือด้านเทคนิค

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/lao-chinese-joint-venture-boost-agricultural-industry-103707

สปป.ลาว-ไทย ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิตอลสำหรับอุตสาหกรรม

สปป.ลาวและไทยได้ตกลงที่จะร่วมมือในการประยุกต์ใช้และพัฒนาเทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4  – อุตสาหกรรม 4.0 อธิบดีกรมเทคโนโลยีดิจิตอล สปป.ลาว กล่าวว่าบทบาทของพวกเขาคือการจัดการพัฒนาส่งเสริมและให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลและธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทั่วประเทศ รวมทั้งกำหนดกลยุทธ์และนโยบายเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล กระทรวงได้อำนวยความสะดวกให้หน่วยงานและสถาบันในการวิจัยและพัฒนาเครื่องมือสำหรับการจัดการสาธารณะและการบริหารเพื่อประโยชน์สูงสุดของเทคโนโลยีดิจิตอล ได้เซ็นสัญญากับหน่วยงานเพื่อทำการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับประโยชน์ของเทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อการเกษตรและการพัฒนาอุตสาหกรรมในสปป.ลาวตามการใช้งานของอุตสาหกรรม 4.0 ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวทั้งสองฝ่ายจะเผยแพร่และส่งเสริมการประยุกต์ใช้การวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิตอลรวมทั้งแบ่งปันประสบการณ์ในสาขาที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งจะใช้เทคโนโลยีดิจิตอลเป็นเครื่องมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมและความทันสมัย พร้อมกับการปรับปรุงคุณภาพการบริการและบริหารของรัฐบาล

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-thailand-agree-digital-tech-cooperation-industry-103704

ผนึกกำลังขับเคลื่อนอาเซียนรับมือด้านดิจิทัล

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมน ตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ว่า ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าตาม AEC Blueprint 2025 ของอาเซียน โดยได้เห็นชอบเอกสาร รวม 4 ฉบับ ประกอบด้วย ฉบับที่ 1 แผนการดำเนินงานด้านดิจิทัลของอาเซียนในปี 2019-2025 ฉบับที่ 2 การเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 หรือ 4IR ฉบับที่ 3 แนวทางการพัฒนาคนเพื่อรองรับ 4IR และฉบับที่ 4 แนวทางการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลของไมโครเอสเอ็ม อี หรือ MSMEs ซึ่งทั้ง 4 ฉบับนี้จะนำมาใช้ในการขับเคลื่อนอาเซียนรับมือด้านดิจิทัล การปฏิวัติอุตสาหกรรม การพัฒนาคน และการช่วยเหลือ MSMEs ใช้ดิจิทัล พร้อมเตรียมการเจรจากับคู่เจรจา 12 คู่

ที่มา: https://www.ryt9.com/s/tpd/3038718

มูลค่าลงทุนจากต่างประเทศในเมียนมาสูงถึง 4,100 ล้านเหรียญสหรัฐใน 12 ธุรกิจ

จากข้อมูลของคณะกรรมาธิการการลงทุนของเมียนมา (MIC) ปริมาณการลงทุนจากต่างประเทศสูงกว่า 4,100 ล้านเหรียญสหรัฐใน 12 สาขาธุรกิจ แต่ยังต้องการประมาณ 1700 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 61 ถึงวันที่ 5 ก.ย. 62 MIC อนุมัติการลงทุนจากต่างประเทศ 252 ธุรกิจด้วยมูลค่าการลงทุน 2,550.773 ล้านเหรียญสหรัฐ การเพิ่มขึ้นปริมาณการลงทุนจากต่างประเทศอยู่ที่ 3,876.352 ล้านดอลลาร์ ในปี 61-62 คาดว่าการลงทุนจะไหลเข้าประเทศ 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ปริมาณการลงทุนจากต่างประเทศอยู่ที่ 4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกประมาณ 25 วันเท่านั้นจึงจะสิ้นสุดรอบปีบัญชี ยังจำเป็นต้องใช้เงิน 1,700 ล้านดอลลาร์ถึงจะบรรลุเป้าหมาย MIC ได้ร่วมมือกับ JICA ได้จัดทำแผนการส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศในปี 56 และได้เริ่มดำเนินการในปี 57 ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/foreign-investment-volume-reaches-more-than-us-4100-million-in-12-business-fields-in-myanmar