เที่ยวบินกัมพูชา – อินโดนีเซียกำหนดเริ่มบิน มิ.ย.62 นี้

เที่ยวบินตรงระหว่างกัมพูชาและอินโดนีเซียจะเริ่มเปิดใช้งานในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในแวดวงการท่องเที่ยวคาดว่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญในกัมพูชาที่จะบรรลุเป้าหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.6 ล้านคนในปีนี้ โดยงานแถลงข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ณ กรุงพนมเปญซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง Citilink Indonesia PT เส้นทางสายการบินใหม่นี้นับเป็นเส้นทางระหว่างประเทศที่สามที่ของ Citilink ในปีนี้ หลังจากสุราบายา – กัวลาลัมเปอร์และจาการ์ตา – กัวลาลัมเปอร์ โดยใช้เครื่องบินแอร์บัสเอ 320 สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 180 คน

ที่มา: https://www.cambodiadaily.com/news/cambodia-indonesia-direct-flights-scheduled-for-june-149663/

อันดับความยากง่ายของการทำธุรกิจ สปป.ลาว สะท้อนให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ซับซ้อน

ปัจจุบันสปป.ลาวอยู่ในอันดับที่ 154 จาก 190 ในดัชนีความยากง่ายในการทำธุรกิจของกลุ่มธนาคารโลกในปี 2019 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ซับซ้อน โดยมีอุปสรรคต่อการค้าและการรวมกลุ่มในภูมิภาค นักลงทุนบ่นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสูงในการทำธุรกิจและการขาดสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่โปร่งใส เพื่อสนับสนุนการเติบโตของภาคเอกชนและนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสปป. ลาวจำเป็นต้องมีการปฏิรูปเพื่อปรับปรุง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านและพัฒนาประสิทธิภาพของบริษัทในท้องถิ่น สิ่งนี้ต้องการกฎระเบียบที่ทำให้ง่ายขึ้นและทำให้ธุรกิจและสภาพแวดล้อมทางการค้ามีความโปร่งใสและคาดการณ์ได้มากขึ้นเพื่อยกระดับการแข่งขัน

ที่มา :https://www.devdiscourse.com/article/business/538968-lao-pdrs-ease-of-doing-business-rank-reflecting-complex-business-environment

อิตาลีปล่อยเงินกู้ให้เมียนมาเพื่อพัฒนาโครงการไฟฟ้า

อิตาลีจะขยายสินเชื่อปลอดดอกเบี้ย 30 ล้านยูโร (51 พันล้านจ้าด) เพื่อพัฒนาโครงการไฟฟ้าแห่งชาติของเมียนมา (NEP) ขยายเวลาชำระหนี้จาก 10 ปี เป็น 18 ปี ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมพัฒนาชนบทภายใต้กระทรวงเกษตรปศุสัตว์และการชลประทาน (MOALI) โดยกระแสฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และระบบไฟฟ้าขนาดเล็กจะครอบคลุม 96,500 ครัวเรือนภายในปีนี้ โดยเฉพาะรัฐชินซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ยากจนที่สุดและไม่สามารถเข้าถึงได้มากที่สุดของประเทศและภูมิภาคซากะ ขณะเดียวกันธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งรัฐ KfW ของเยอรมนีได้ขยายวงเงิน 9 ล้านยูโรเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าไปยังรัฐฉานตอนใต้ ทั้งนี้ธนาคารโลกให้เงินสนับสนุนโครงการจำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย MOEE ได้รับ 310 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนที่เหลือเป็นของ MOALI ในปีที่ผ่านมา 2559-2560 ทำให้ครัวเรือน 90,000 หลังคาเรือนใน 2708 หมู่บ้านมีไฟฟ้าใช้

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/italian-loan-facilitate-electrification-process.html

เวียดนามส่งออกไม้กว่า 3.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่ายอดมูลค่าการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2562 มีมูลค่าถึง 3.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดนำเข้ารายใหญ่ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา รองลงมาญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ และสหราชอาณาจักร เป็นต้น นอกจากนี้ ทางกรมศุลากากรคาดว่ามูลค่าการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 16-18 เมื่อเทียบกับปี 2561 เนื่องมาจากยอดคำสั่งซื้อจนถึงปลายปีนี้ และความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ส่วนทางด้านรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายของมูลค่าการส่งออกเฟอร์นิเจอร์กว่า 20-30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/520476/wood-exports-soar-to-nearly-312b.html#478IzIyQL07xEWxP.97

 

ก้าวต่อไปของอสังหาฯ ในกัมพูชา จะเป็นอย่างไร

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ อย่างที่อยู่อาศัย การค้าปลีก และสำนักงาน คาดว่าจะมีอุปทานพิ่มขึ้นในปี 2562 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งแรกของปี ผลมาจากโครงการที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์หรือล่าช้าตั้งแต่ปลายปี 2561 โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนโดมิเนียมโดยมีแนวโน้มสูงขึ้นของโครงการระดับกลางถึงระดับบนในกรุงพนมเปญ Cambodian property services company (CBRE) บริษัทผู้พัฒนาและให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชากล่าวว่าในปีนี้จะมีคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นถึง 120% ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน และคาดว่าอัตราค่าเช่าจะปรับตัวลดลงเนื่องจากอุปทานของคอนโดมิเนียม ส่วนความต้องการของเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ยังไปได้ดีและมีการเข้าพักอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: https://www.cambodiadaily.com/business/whats-next-for-cambodias-property-market-149582/

Vinamilk เปิดฟาร์มนมอินทรีย์ในสปป.ลาว

Vinamilk ผู้ผลิตและขายผลิตภัณฑ์จากนมวัวที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ลงทุนสร้างศูนย์การเลี้ยงโคนมออร์แกนิกมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จังหวัดเซียงขวาง ซึ่งทุนจาก บริษัท พัฒนาลาว – จาโกรเซี่ยงฮวง (ลาว – จาโกร) ซึ่ง Vinamilk ถือหุ้น 51% ในระยะแรกเงินลงทุน 120 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วยพื้นที่ 5,000 เฮกตาร์ วัวนม 24,000 ตัว สามารถสร้างงานได้นับพันตำแหน่ง ระยะที่ 2 ประกอบด้วยพื้นที่ 15,000 และ 20,000 เฮกตาร์ และวัวนมจำนวน 100,000 ตัว ทำให้จังหวัดเซียงขวางกลายเป็นเมืองหลวงแห่งนมวัวเพราะด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย การลงทุนครั้งนี้จะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเพิ่มทักษะ รายได้ให้กับเกษตรกร ปัจจุบันในเวียดนาม Vinamilk มีฟาร์มของตัวเองจำนวน 12 แห่ง วัวนม 130,000 ตัว คิดเป็น 59% ของส่วนแบ่งตลาดในประเทศที่มีศักยภาพสูง และได้ขยายตลาดด้วยการส่งออกไปต่างประเทศอีกด้วย

ที่มา: https://vietnamnews.vn/economy/520474/vinamilk-builds-organic-milk-farm-in-laos.html#jClmGMXhslR0HHtX.97