โทรคมนาคมของสปป.ลาว การวิเคราะห์การเติบโตของตลาดโทรศัพท์มือถือ และบรอดแบนด์ได้รับแรงผลักดันในที่สุด

ภาคโทรคมนาคมในลาวยังคงมีปัญหามากมาย เป็นเวลาหลายปีที่อัตราการปฏิรูปกฎข้อบังคับได้รับการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตามสปป.ลาวเริ่มมีความก้าวหน้าที่สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เป็นผลให้มันดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา การให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบคงที่มีความล่าช้าซึ่งเป็นข้อกังวลหลักในแง่ของการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ถึงอย่างไรในการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในระดับต่ำถึงปานกลางนั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอีกห้าปีข้างหน้าถึงปี 2566 และการขยายตัวอย่างรวดเร็วของบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์บนมือถือจากการเปิดตัวบริการ 4G ขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงคาดว่าอีกห้าปีข้างหน้าการเติบโตจะดำเนินต่อไป แต่ส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมจะยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก

ที่มา : https://amarketresearchgazette.com/laos-telecoms-mobile-and-broadband-market-growth-analysis-challenges-and-industry-key-players-lao-telecom-thaicom-etl-unitel-lao-asia-telecom-star-telecom-viettel-2019-2023/

กล้วยเป็นสินค้าเกษตรส่งออกอันดับต้น ๆ ของสปป.ลาว

กล้วยถูกคาดว่าจะส่งออกสินค้าเกษตรชั้นนำของสปป.ลาวในปี 2562 แม้ว่ารัฐบาลลาวจะห้ามไม่ให้มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกทั่วประเทศ ในปี 2560 สปป.ลาวมีรายรับ 167.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการส่งออกกล้วยซึ่งลดลงเป็น 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2561 แต่ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 168 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 ส่วนใหญ่จะขายให้ประเทศจีน และประเทศไทย ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่อื่น ๆ ในสปป.ลาวคาดว่าจะรวมมันสำปะหลังซึ่งมียอดขายสูงถึง 129 ล้านดอลลาร์สหรัฐกาแฟดิบ 143 ล้านดอลลาร์สหรัฐยางพารา 105 ล้านดอลลาร์สหรัฐข้าวโพดที่ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐและข้าว 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนโยบายเชิงพาณิชย์ในการผลิตกล้วยเป็นประโยชน์ต่อคนในชนบท ผลที่โดดเด่นที่สุดของนโยบายนี้คือเข้ามาของนักลงทุนเพื่อช่วยเหลือ เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยในแขวงทางภาคเหนือของแขวงบ่อแก้ว หลวงน้ำทาและแขวงอุดมไซ ซึ่งนำไปสู่การส่งออกกล้วยที่เพิ่มขึ้นจาก 46.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 เป็น 197.8 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐในปี 2559

ที่มา : https://www.freshplaza.com/article/9101029/laos-bananas-are-top-agricultural-export/

DKSH เปิดศูนย์ B’bang

ดีเคเอสเอช (SKS) ผู้ให้บริการขยายตลาดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สวิส 6 คนได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่ 1,600 ตารางเมตร ในจังหวัดพระตะบองเพื่อขยายฐานการผลิตในกัมพูชา บริษัท กล่าวว่าโรงงานที่ทันสมัยจะมีบทบาทสำคัญในการให้การสนับสนุนด้านการกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ที่ทันสมัยแก่ลูกค้า ตลอดจนให้บริการในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ศูนย์กระจายสินค้าของ DKSH ในพนมเปญเปิดในปี 58 และเสียมราฐซึ่งเปิดในปี 60

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/dksh-opens-bbang-centre

ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลง จากความกังวลสงครามการค้า สหรัฐ จีน

ตลาดหุ้นเอเชียเกิดการเทขายอย่างหนัก เนื่องมาจากความกังวลท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐ-จีน ด้วยเหตุนี้มีการส่งสัญญาจากจีนถึงการปรับตัวของของการขึ้นภาษีศุลากากรกว่า 200 พันล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์นี้ และคิดร้อยละของภาษีสินค้าจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 และถ้าเกิดการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนไม่ประสบผลความสำเร็จ ทำให้เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง ความต้องการพลังงงานลดลงและราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง โดยสถานการณ์ของตลาดหุ้นเวียดนาม พบว่าดัชนี VN-Index และ HNX-Index ร่วงลงราวร้อยละ 0.56 และ 0.55 ตามลำดับ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หากสภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงติดลบ จะส่งผลให้ระยะสั้นของดัชนีทั้งสองจะดิ่งลงอย่างมาก

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/519516/vn-stocks-head-down-with-global-markets-on-worries-about-trade-war.html#SgJ20D9r3dfqfhAm.97

รัฐบาลเมียนมามีแผนปล่อยกู้ 2000 ล้านจ้าดให้เกษตรกร

กระทรวงเกษตรปศุสัตว์และการชลประทานมีแผนจะปล่อยให้สินเชื่อแก่เกษตรกรทั่วประเทศเป็นจำนวนกว่า 2,000 พันล้านจ้าด ซึ่งเพิ่มจากปีที่แล้ว 210 ล้านจ้าด จากข้อมูลของรัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการเงิน จะปล่อยให้เกษตรกรทั่วประเทศกู้ยืมเงินสินเชื่อจำนวน 2,017 พันล้านจ้าดในปีงบประมาณ 2018 – 2019 ทั้งนี้ธนาคารเพื่อการพัฒนาการเกษตรแห่งเมียนมาระบุว่าหนี้สินของเกษตรกรในการปลูกข้าว 1 เอเคอร์จะอยู่ที่ 150,000 จ้าด ส่วนการเพาะปลูกพืชอื่นๆ ต่อเอเคอร์จะอยู่ที่ 100,000 จ้าด และมีการคาดการว่ากระทรวงคาดว่าจะมีการเพาะปลูกข้าวช่วงฤดูฝนนี้ 15.29 ล้านเอเคอร์และนาปรังในช่วงฤดูร้อนมากกว่า 2.61 ล้านเอเคอร์ของปี 2561-2562

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/ministry-to-loan-farmers-ks-2000-billion-across-country  

ซาอุฯ เริ่มกลับมานำเข้าประมงจากเมียนมา

ซาอุดิอาระเบียกลับมานำเข้าสินค้าประมงอย่างปลาปลายี่สกเทศหลังจากผ่านการตรวจสอบและอนุญาตให้นำเข้าจำนวน 20,000 ตัน ซึ่งก่อนหน้าเดือนเมษายนปีที่แล้วตรวจพบแบคทีเรีย จึงหันไปนำเข้าจากเวียดนามแทนและทำการระงับการนำเข้าปลาดุกจากเมียนมาถึง 60 เปอร์เซ็นต์ โดยในปีที่ผ่านมาซาอุดิอาระเบียมีการระงับการนำเข้าสินค้าประมงจากสี่ประเทศ ได้แก่ บังคลาเทศ อินเดีย เมียนมาและเวียดนาม แต่เมียนมาเป็นประเทศเดียวในขณะนี้ที่ผ่านการรับรองว่าเป็นไปตามมาตรฐาน GAP จากเจ้าหน้าที่ของซาอุดิอาระเบียที่เดินทางไปตรวจสอบในเมียนมา

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-resume-fish-exports-saudi-arabia-after-inspections.html

โครงการมิกส์ยูส Mixed use 90 พันล้านเริ่มแล้วที่มัณฑะเลย์

โครงการ มูลค่ากว่า 59.16 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วยพื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย โดยจะรวมศูนย์การทางศึกษานวัตกรรมและชุมชน ซึ่งแผนการสร้างดังกล่าวได้ถูกยื่นไปยังรัฐสภาระดับภูมิภาคเพื่อขออนุมัติแล้ว โดครงการพื้นที่มากกว่าสองเฮกตาร์ โดยรัฐบาลระดับภูมิภาคเป็นเจ้าของ และถูกล้อมรอบด้วยสิ่งก่อสร้างสำคัญ เช่น ศูนย์การประชุมมัณฑะเลย์ และมัณดาลาร์มันดาเลย์ โครงการก่อสร้างรับผิดชอบโดย Mandalay Taungthaman Development และคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีกสองปีครึ่ง ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะเพิ่มเงินทุนของรัฐบาลในระดับภูมิภาคและโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจในมัณฑะเลย์

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/k90-billion-devt-project-rise-mandalay-city.html

TOHLAO. Lao Telecom ช่วยสร้างธุรกิจเริ่มต้น

TOHLAO ร่วมมือกับ บริษัท โทรคมนาคมลาว จำกัด (มหาชน) (ลาวเทเลคอม) ได้ริเริ่มองค์กรที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการชาวลาวรุ่นเยาว์ที่เริ่มใช้เทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อให้เกิดศักยภาพทางธุรกิจอย่างเต็มที่ เนื่องจากตามสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว (LNCCI) SMEs คิดเป็นสัดส่วน 98-99% ของธุรกิจทั้งหมดในลาว  ดังนั้นการส่งเสริมการเริ่มต้นในประเทศสปป.ลาวเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริม SME และจะช่วยรวมเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับการดำเนินธุรกิจในชีวิตประจำวัน

ที่มา : http://www.nationmultimedia.com/detail/asean-plus/30368931