ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลง จากความกังวลสงครามการค้า สหรัฐ จีน
ตลาดหุ้นเอเชียเกิดการเทขายอย่างหนัก เนื่องมาจากความกังวลท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐ-จีน ด้วยเหตุนี้มีการส่งสัญญาจากจีนถึงการปรับตัวของของการขึ้นภาษีศุลากากรกว่า 200 พันล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์นี้ และคิดร้อยละของภาษีสินค้าจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 และถ้าเกิดการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนไม่ประสบผลความสำเร็จ ทำให้เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง ความต้องการพลังงงานลดลงและราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง โดยสถานการณ์ของตลาดหุ้นเวียดนาม พบว่าดัชนี VN-Index และ HNX-Index ร่วงลงราวร้อยละ 0.56 และ 0.55 ตามลำดับ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หากสภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงติดลบ จะส่งผลให้ระยะสั้นของดัชนีทั้งสองจะดิ่งลงอย่างมาก
รัฐบาลเมียนมามีแผนปล่อยกู้ 2000 ล้านจ้าดให้เกษตรกร
กระทรวงเกษตรปศุสัตว์และการชลประทานมีแผนจะปล่อยให้สินเชื่อแก่เกษตรกรทั่วประเทศเป็นจำนวนกว่า 2,000 พันล้านจ้าด ซึ่งเพิ่มจากปีที่แล้ว 210 ล้านจ้าด จากข้อมูลของรัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการเงิน จะปล่อยให้เกษตรกรทั่วประเทศกู้ยืมเงินสินเชื่อจำนวน 2,017 พันล้านจ้าดในปีงบประมาณ 2018 – 2019 ทั้งนี้ธนาคารเพื่อการพัฒนาการเกษตรแห่งเมียนมาระบุว่าหนี้สินของเกษตรกรในการปลูกข้าว 1 เอเคอร์จะอยู่ที่ 150,000 จ้าด ส่วนการเพาะปลูกพืชอื่นๆ ต่อเอเคอร์จะอยู่ที่ 100,000 จ้าด และมีการคาดการว่ากระทรวงคาดว่าจะมีการเพาะปลูกข้าวช่วงฤดูฝนนี้ 15.29 ล้านเอเคอร์และนาปรังในช่วงฤดูร้อนมากกว่า 2.61 ล้านเอเคอร์ของปี 2561-2562
ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/ministry-to-loan-farmers-ks-2000-billion-across-country
ซาอุฯ เริ่มกลับมานำเข้าประมงจากเมียนมา
ซาอุดิอาระเบียกลับมานำเข้าสินค้าประมงอย่างปลาปลายี่สกเทศหลังจากผ่านการตรวจสอบและอนุญาตให้นำเข้าจำนวน 20,000 ตัน ซึ่งก่อนหน้าเดือนเมษายนปีที่แล้วตรวจพบแบคทีเรีย จึงหันไปนำเข้าจากเวียดนามแทนและทำการระงับการนำเข้าปลาดุกจากเมียนมาถึง 60 เปอร์เซ็นต์ โดยในปีที่ผ่านมาซาอุดิอาระเบียมีการระงับการนำเข้าสินค้าประมงจากสี่ประเทศ ได้แก่ บังคลาเทศ อินเดีย เมียนมาและเวียดนาม แต่เมียนมาเป็นประเทศเดียวในขณะนี้ที่ผ่านการรับรองว่าเป็นไปตามมาตรฐาน GAP จากเจ้าหน้าที่ของซาอุดิอาระเบียที่เดินทางไปตรวจสอบในเมียนมา
ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-resume-fish-exports-saudi-arabia-after-inspections.html
โครงการมิกส์ยูส Mixed use 90 พันล้านเริ่มแล้วที่มัณฑะเลย์
โครงการ มูลค่ากว่า 59.16 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วยพื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย โดยจะรวมศูนย์การทางศึกษานวัตกรรมและชุมชน ซึ่งแผนการสร้างดังกล่าวได้ถูกยื่นไปยังรัฐสภาระดับภูมิภาคเพื่อขออนุมัติแล้ว โดครงการพื้นที่มากกว่าสองเฮกตาร์ โดยรัฐบาลระดับภูมิภาคเป็นเจ้าของ และถูกล้อมรอบด้วยสิ่งก่อสร้างสำคัญ เช่น ศูนย์การประชุมมัณฑะเลย์ และมัณดาลาร์มันดาเลย์ โครงการก่อสร้างรับผิดชอบโดย Mandalay Taungthaman Development และคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีกสองปีครึ่ง ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะเพิ่มเงินทุนของรัฐบาลในระดับภูมิภาคและโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจในมัณฑะเลย์
ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/k90-billion-devt-project-rise-mandalay-city.html
TOHLAO. Lao Telecom ช่วยสร้างธุรกิจเริ่มต้น
TOHLAO ร่วมมือกับ บริษัท โทรคมนาคมลาว จำกัด (มหาชน) (ลาวเทเลคอม) ได้ริเริ่มองค์กรที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการชาวลาวรุ่นเยาว์ที่เริ่มใช้เทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อให้เกิดศักยภาพทางธุรกิจอย่างเต็มที่ เนื่องจากตามสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว (LNCCI) SMEs คิดเป็นสัดส่วน 98-99% ของธุรกิจทั้งหมดในลาว ดังนั้นการส่งเสริมการเริ่มต้นในประเทศสปป.ลาวเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริม SME และจะช่วยรวมเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับการดำเนินธุรกิจในชีวิตประจำวัน
ที่มา : http://www.nationmultimedia.com/detail/asean-plus/30368931
สปป.ลาวมีรายรับจากการ ส่งออก 5.41 พันล้านเหรียญสหรัฐ
สปป.ลาวมีรายรับจากการส่งออกรวม 5.41 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ตามสถิติของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของประเทศของตัวเลขที่ 1.31 พันล้านเหรียญสหรัฐมาจากการส่งออกภายใต้กรอบพิเศษเช่น GSP และ FTA ประเทศได้รับการดูแลเป็นพิเศษเมื่อส่งออกไปยัง 37 ประเทศและนำเข้าจาก 39 ประเทศ ตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของสปป.ลาว คือไทยมีมูลค่า 425.86 ล้าน USD รองลงมาคือเวียดนาม 332.85 ล้าน USD และจีน 250.95 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าอุตสาหกรรมเป็นสินค้าที่มีรายรับเงินตราต่างประเทศมากที่สุดคือ 637.36 ล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/laos-posts-541-billion-usd-in-export-earnings-in-2018/152111.vnp
ปี 61 เศรษฐกิจกัมพูชาโต 7.5 เปอร์เซ็น
เศรษฐกิจกัมพูชาขยายตัวร้อยละ 7.5 ในปีที่แล้วตามรายงานของธนาคารโลก คาดได้แรงหนุนจากการขยายตัวของการส่งออกและการก่อสร้างที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การส่งออกเสื้อผ้า รองเท้าและสินค้าจากการท่องเที่ยวซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าสองในสามของยอดส่งออกสินค้าทั้งหมดนั้นทำสถิติสูงสุดในห้าปีเพิ่มขึ้น 17.6% ในปี 2561 เพิ่มขึ้นจาก 8.3% ของปีก่อน การก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวคิดเป็น 60% ของการลงทุนทั้งหมดในปี 2561 แต่การพิจารณาระงับการให้สิทธิ EBA ของอียูอาจส่งผลให้การส่งออกต้องชะงัก กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินย้ำว่าการเติบโตของปีที่แล้วอยู่ที่ 7.5% เป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากสุดในรอบสิบปี
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50601167/cambodia-grew-7-5-pct-in-2018-world-bank/