Small Planet เปิดไฟท์บินตรงเสียมเรียบ – โตเกียว

จากการเปิดเผยของกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา Small Planet วางแผนเปิดตัวสายการบินต้นทุนต่ำจาก  เสียมเรียบถึงโตเกียว ภายในปี 2562  ซึ่งเป็นสายการบินที่สองหลังจาก All Nippon Airway (ANA) ที่ประสบผลสำเร็จในการเปิดไฟท์การบิน พนมเปญ – นาริตะ ไปเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมาสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมายังกัมพูชาให้มากขึ้น ทางโฆษกเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งกัมพูชาให้ข้อมูลว่า ในอีกทางหนึ่งสายการบินต้นทุนต่ำแห่งใหม่นี้ยังสามารถเพิ่มการนักท่องเที่ยวจากกัมพูชาสู่ญี่ปุ่นได้อีกด้วย

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50544816/small-planet-announces-siem-reap-tokyo-flight/

 

ชานมไข่มุก ฮิตในเวียดนาม แบรนด์แฟรนไชส์ต่างชาติรุมแบ่งเค้ก

ในปี 2013 ธุรกิจชานมไข่มุกกลับมาเริ่มบูมอีกครั้ง จากการเข้ามาทำตลาดของแบรนด์จากใต้หวันและฮ่องกง โดยเฉพาะในนครโฮจิมินห์ที่เปิดสาขาอย่างมากมายและกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ในวัยเรียนและกลุ่มคนทำงานที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก จากข้อมูลคนเวียดนามดื่มชาพร้อมดื่มและพร้อมเสิร์ฟมากกว่ากาแฟถึง 2 เท่า โดยเฉพาะชานม โดยมีแบรนด์แฟรนไชส์ชานมไข่มุกต่างชาติ ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง ไทย ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ที่เข้ามาลงทุน แนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจะโตไปจนถึงปี 2020 และปี 2560 ที่ผ่านมา โตเฉลี่ยถึง 5% ท้ายนี้ตลาดเครื่องดื่มในเวียดนามยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่จะมีอุปสรรคในเรื่องของการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะจากต่างชาติ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือประชากรส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีกำลังซื้อสูง และนิยมบริโภคสินค้าแปลกใหม่

ที่มา: http://www.thaismescenter.com/ชานมไข่มุก-ฮิตในเวียดนาม-แบรนด์แฟรนไชส์ต่างชาติรุมแบ่งเค้ก/

11 พฤษภาคม 2561

ห้างเมียนมา ปรับกลยุทธ์เน้นสินค้าผักสดผลไม้ ดึงลูกค้าจากร้านชำ

เมียนมา เป็นหนึ่งประเทศที่การจับจ่ายสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคของผู้คนยังพึ่งพาร้านขายของชำในชุมชนเป็นหลัก เพราะร้านแบบนี้มีกระจายทั่วไป สะดวกสบาย เทียบกับซูเปอร์มาร์เก็ตสินค้าราคาสูงกว่า สาขาน้อยกว่า จะเหมาะกับลูกค้าระดับบนหรือชาวต่างชาติที่ แต่ช่วงหลังมานี้ ซูเปอร์มาร์เก็ตโดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างย่างกุ้ง เริ่มหันมาทำการตลาดเพื่อชิงลูกค้าจากร้านชำท้องถิ่นมากขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปีที่ผ่านมา บริษัทซิตี้ มาร์ท โฮลดิ้ง เครือข่ายค้าปลีกใหญ่สุดของประเทศ และผู้ดำเนินการซูเปอร์มาร์เก็ตซิตี้ มาร์ทได้เพิ่มแผนกผักสดและผลไม้สดหลังจากที่ได้ร่วมทุนกับ Sojitz บริษัทเทรดดิ้งจากญี่ปุ่น การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่รัฐบาลอนุญาตให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจค้าปลีก ที่ผ่านมาสินค้าประเภทผักผลไม้ที่จำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตไม่เป็นที่นิยมเพราะมีสารตกค้าง ความสดใหม่ และราคาสูง ภายหลังจากที่ระบบโลจิสติกส์ได้รับการพัฒนา พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซิตี้มาร์ทมองเห็นโอกาสจึงลงทุนซื้อกิจการ Uni Vege ฟาร์มในเขตนครย่างกุ้งที่ปลูกผักและจำหน่ายเป็นแพ็ค เป็นฟาร์มไฮโดรโปนิก โดย 80% ของผลผลิตจากฟาร์มส่งให้ซิตี้มาร์ทที่เดียว นอกจากนั้น ทางซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ยังทำแคมเปญเชิญชวนผู้บริโภคให้ทานผักผลไม้มากขึ้นเพื่อสุขภาพโดยทางห้างตั้งโต๊ะบริการผลไม้หั่นเป็นชิ้น และผักพร้อมทาน ณ บริเวณทางเข้าออกห้างเลยทีเดียว และร่วมทุนกับบริษัทในเครือพรีเมียม ดิสทริบิวชั่น และบริษัททรัสต์ เวนเจอร์ พาร์ทเนอร์โดยในการขยายขนาดฟาร์มให้ใหญ่ขึ้น 3 เท่าตัวในอีก 2 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันยังงจัดหาผักผลไม้โดยจากเกษตรกรที่อยู่นอกย่างกุ้งมามาขายในห้างอีกด้วย โดยอาศัยเครือข่ายขนส่งของ Sojitz และพรีเมียม ดิสทริบิวชั่นซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 2015 ส่งผลให้การขนส่งสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 100 ตันต่อวัน ดังนั้นซิตี้มาร์ทไม่เพียงมีแต้มต่อเหนือร้านค้าท้องถิ่น หากยังอยู่ในฐานะได้เปรียบ หากต้องรับมือกับคู่แข่งจากต่างชาติที่หวังเข้ามาเจาะตลาดค้าปลีกเมียนมา

ที่มา: https://www.smethailandclub.com/aec-3640-id.html

จับตาโครงสร้างตลาดกัมพูชาเปลี่ยน กดดันสินค้าส่งออกไทยเผชิญการแข่งขันจากจีนและเวียดนาม

การส่งออกสินค้าไปยังกัมพูชาในระยะเวลา 10 ที่ผ่านมา โตเฉลี่ย 12.6% ต่อปี ทว่าตั้งแต่ปี 2554-2559 มีอัตราลดลงเหลือ 2.2% ต่อปี เหตุเพราะการหันมานำเข้าสินค้าขั้นกลางและสินค้าทุนเพื่อสอดรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีจีนและเวียดนามเป็นคู่แข่งสำคัญโดยมีสัดส่วน 85% และ 50% ของสินค้าทั้งหมด แต่สินค้าอุปโภคบริโภคของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ปี 2560 คาดว่าการส่งออกจะขยายตัว 6.5% มูลค่าการค้า 4,977 ล้านเหรียญสหรัฐถือว่ายังสามารถรักษาอันดับหนึ่งเอาไว้ได้

ที่มา: https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/economy/Pages/36551.aspx

21 กันยายน 2560

วิเคราะห์ตลาดกัมพูชา ผ่านกูรูท้องถิ่น

กัมพูชาเป็นประเทศคู่ค้าเก่าแก่ของไทย แต่ปัจจุบันคู่แข่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างเวียดนามและจีนที่ได้เปรียบในด้านราคาเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดของไทยในกัมพูชา ทั้งนี้นักธุรกิจท้องถิ่นในกัมพูชาได้ให้มุมมองเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจไว้น่าสนใจคือ การเข้าไปลงทุนถ้าถูกกฎหมาย เสียภาษีถูกต้องทุกอย่าง โอกาสในกัมพูชาจะมีอีกมากมาย ต้องปรับตัวให้ทันกับโอกาสและอุปสรรคที่เข้ามา อัพเดตข่าวสารทั้งด้านธุรกิจและเศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลา อย่ากลัวการกู้ยืมเงินเพื่อการลงทุนเพื่อขยายกิจการและควรชำระเพื่อรักษาเครดิตทางการเงิน ระบบอี-คอมเมิร์ซจะช่วยผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมไอซีที การชำระเงินง่ายขึ้น กว้างขึ้น และต้นทุนต่ำลง ทั้งนี้คาดว่าจะส่งผลต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมไอซีหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันกัมพูชามีเศรษฐกิจอยู่ในช่วงเติบโตรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงเร็วสุดในเอเชีย จึงไม่ควรมองข้ามในการลงทุน

ที่มา: https://www.posttoday.com/aec/trade/524084

8 พฤศจิกายน 2560

รายได้ SCG เติบโต 17% ในกัมพูชา

จากรายงานพบว่ารายรับจากยอดขายปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างของ SCG (Siam Cement Group) ในกัมพูชามีมูลค่ามากกว่า 98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 17% ผลการดำเนินงานช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาการเพิ่มขึ้นของยอดขายและรายได้มาจากปัจจัยหลายๆ อย่างอาทิ ความต้องการวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เติมโตอย่างรวดเร็วและการลงทุนจากต่างประเทศในโครงการของภาครัฐและเอกชน และในปี 2019 SCG ตั้งเป้าขยายสาขาของศูนย์การให้บริการครอบคลุมในเมืองสำคัญทั่วประเทศ

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50544115/scg-reports-17-pct-growth-in-sales-revenue/

เวียดนามตอนกลาง ตลาดเนื้อหอมที่รอต้อนรับนักลงทุนต่างชาติ

ปัจจุบันเขตเมืองเศรษฐกิจอย่างนครโฮจิมินและกรุงฮานอยเริ่มแออัดและเต็มศักยภาพ พื้นที่ตอนกลางจึงเป็นจุดที่น่าสนใจในการลงทุนเพราะมีเขตเศรษฐกิจพิเศษและนิคมอุตสาหกรรมในหลายจังหวัด เช่น กว๋างหงาย กว๋างนาม กวางจิ และดานัง โดยพบว่าสิ่งที่เป็นแหล่งดึงดูดคือ ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน เช่น มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อรองรับภาคการผลิต ระบบขนส่งทางเรือและโดยเฉพาะท่าอากาศยานนานาชาติดานัง และดานังนี่เองที่มีนิคมอุตสาหกรรมถึง 6 แห่ง ความน่าสนใจเชิงตลาด ตลาดและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น อย่างดานังมีประชากรราว 25 ล้านคน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2% ต่อปี สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 3,059 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 17% จาก 2,617 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2557 ความน่าสนใจเชิงพื้นที่ยุทธศาสตร เป็นพื้นที่เชื่อมโยงทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญทั้ง ระเบียงเศษฐกิจ GMS (Greater Mekong Subregion) โครงการ Belt and Road Initiative ของจีน เห็นได้ว่าเวียดนามมีศักยภาพในการรองรับทุนในหลายๆ ธุรกิจ

ที่มา: http://www.exim.go.th/doc/adn/49647_0.pdf

8 พฤษภาคม 2561

มองเวียดนามกับโอกาสของธุรกิจพลังงานหมุนเวียน

หลังจากเวียดนามประกาศยกเลิกแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกเพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าซึ่งเป็นผลจากภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันพบว่าธุรกิจพลังงานหมุนเวียนกำลังเป็นที่น่าจับตา ซึ่งจะเป็นแหล่งพลังงานสำคัญทดแทนพลังงานหลักของเวียดนามอย่างถ่านหินและพลังน้ำที่ต้องนำเข้าเป็นหลัก ทำให้รัฐบาลพยายามส่งเสริมการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนขากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมเพื่อลดการนำเข้าของถ่านหิน และการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นต่อปีอยู่ที่ 10% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ปัจจุบันแม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นแต่เชื่อได้ว่าเวียดนามมีศักยภาพมากพอโดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์และพลังงานลม ดังนั้นนักลงทุนหรือผู้ประกอบการควรศึกษาและคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ได้

ที่มา: http://www.exim.go.th/doc/adn/49486_0.pdf

10 กรกฎาคม 2561