ครม.ไฟเขียวคืนแวต 5% ผ่านบัญชีเดบิต คิกออฟ 1-15 ก.พ.62

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค 61 ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รมว.คลัง เผยเห็นชอบมาตรคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ประชาชนที่ซื้อสินค้าผ่านบัตรเดบิต ในอัตรา 5% ทุกรายการ ยกเว้นเหล้า เบียร์ บุหรี่ โดยวงเงินซื้อได้สูงสุด 20,000 บาท คืนภาษี 1,000 บาท มีระยะเวลาในช่วงวันที่ 1-15 ก.พ 62 มีขั้นตอนการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มจะโอนเงินกลับไปยังระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกไว้กับบัตรประชาชนภายใน 15 วันหลังการซื้อสินค้า หนุนร้านค้าเข้าระบบบริการเก็บข้อมูลการขายเเละการจ่ายเงิน ซึ่งช่วยทำให้ร้านค้าเข้าสู่ระบบภาษีของกรมสรรพากรด้วย การใช้จ่ายของประชาชน คาดว่าจะใช้เงินคืนภาษีกว่า 9,000 ล้านบาท

ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/821590

19/12/61

ธพว.ประกาศตรึงดอกเบี้ยถึง ก.พ.62-ครม.ไฟเขียวเงินกู้หนุนศก.ชุมชน 3 หมื่นล.

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร MLR (Minimum Loan Rate) ไว้เท่าเดิมที่ 6.875% ต่อปี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ถึงสิ้นเดือนก.พ 62 และจากมติ ครม. เห็นชอบมาตรการด้านการเงินของธนาคาร โดยให้ขยายระยะเวลา สินเชื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน 30,000 ล้านบาท ไปถึง 18 ธ.ค 62 ซึ่งจะถูกนำมาใช้ช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน และยังออกหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันรวมไม่เกิน 21,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี เพื่อรองรับโครงการ เพื่อให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย ธนาคารยังมีแอปพลิเคชันที่สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ทุกเวลา ผ่านแพลตฟอร์ม SME D Bank

ที่มา : https://www.prachachat.net/finance/news-266640

19/12/61

ดัชนีความเชื่อมั่นในเดือน พ.ย.ปรับตัวดีขึ้น ตามการเติบโตของการท่องเที่ยวช่วงปลายปี

อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  เผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยในเดือนพ.ย 61 ที่ผ่านมา ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 48.3 จากเดือนต.ค ที่อยู่ระดับ 48.0 ตามการเติบโตของการท่องเที่ยวช่วงปลายปี ที่ส่งผลต่อการจ้างงานในอุตสาหกรรมบริการ  รวมทั้งการใช้จ่าย และการลงทุนของภาครัฐในต้นปีงบประมาณ การนำเข้า – ส่งออกที่ยังมีสัญญาณการเติบโต และราคาสินค้าเกษตรบางรายการโดยเฉพาะข้าวปรับตัวดีขึ้น  ด้านผศ.ดร ธนวรรธน์  พลวิชัย  ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ระบุจากภาพรวมดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย สะท้อนว่าเศรษฐกิจในภาพรวม ยังคงฟื้นตัว แต่ยังกระจุกเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และบริการ แต่ขณะนี้ ยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งช้อบช่วยชาติ จะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ให้ขยายตัวร้อยละ  4.2 ตามเป้าหมาย ส่วนในปีหน้า หากยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยังนิ่งอยู่ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมาเที่ยวไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทย จะขยายตัวได้ร้อยละ 4-4.5

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5c18a2ace3f8e4e9090e7d15

18/12/61

เจดีเซ็นทรัล ด้น SMEs ไทยสู่ตลาดโลก ทุ่ม 2 พัน ล.เสริมแกร่งระบบ

บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด ผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซแบรนด์ เจดี เซ็นทรัล ได้ลงนาม MOU 3 ฉบับ กับ 3 หน่วยงานประกอบด้วย เจดี เซ็นทรัล กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) , กับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (depa) และ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) ครั้งนี้เป็นการร่วมมือด้านยุทธศาสตร์ระหว่าง อีคอมเมิร์ซรายใหญ่อย่างเซ็นทรัลเจดี กับภาครัฐและมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นศูนย์กลางอีคอมเมิร์ซสำหรับภูมิภาคอาเซียนในอนาคต โดยตั้งเป้าปี 62 มี SMEs เข้ามาในระบบประมาณ 10,000 ราย ทำให้มีโอกาสและช่องทางในการที่จะขายสินค้าและเติบโตได้ดี ทั้งนี้ มีแผนลงทุนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ในช่วง 2-3 ปี ด้านระบบอินฟราสตรัคเจอร์ และซัปพลายเชน โลจิสติกส์ รวมไปถึง แวร์เฮาส์ด้วย

ที่มา : https://mgronline.com/business/detail/9610000124891

19/12/61

 

ความคืบหน้าของเวียดนามเพื่อตอบสนองความต้องการของข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ

จากรายงานระบุว่า ในปี61 เป็นช่วงที่เวียดนามทำข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ๆ เช่น การยกเลิกกำแพงภาษีสินค้าหลายรายการ การเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรีภายในกลุ่มอาเซียน เป็นต้น ซึ่งมีการประเมินว่าเวียดนามกำลังติด 1 ใน 5 ประเทศและเศรษฐกิจชั้นนำที่นักลงทุนในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกอยากเข้ามาลงทุน อย่างไรก็ตาม สินค้าส่งออกของเวียดนามต้องผ่านความท้าทายต่างๆ เช่น มาตรฐานของบรรจุภัณฑ์ กฎหมายและคุณภาพของสินค้า เป็นต้น ตามข้อมูลสถิติเบื้องต้น พบว่า เวียดนามมีมูลค่าการนำเข้าและการส่งออกในปี61 คิดเป็น 4 แสน 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 2 แสน 3 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับปี60

ที่มา : http://vovworld.vn/th-TH/เศรษฐกจ/ความคบหนาของเวยดนามเพอตอบสนองความตองการของขอตกลงการคาเสรฉบบตางๆ-708876.vov

18/12/61

ประเดิมเมียนมามอเตอร์โชว์

ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านพัฒนาธุรกิจ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เผยเมื่อต้นเดือนธ.ค ที่ผ่านมา บริษัทได้ทำบันทึก ข้อตกลง (MOU) กับสมาคมด้านยานยนต์แห่งประเทศเมียนมา  เพื่อจัดงานย่างกุ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์เป็นครั้งแรกในเมียนมา โดยจะเริ่มเป็นครั้งแรกระหว่างวันที่ 23-27 ม.ค 62 ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้รถ และแจ้งเกิดงานมหกรรมแสดงสินค้าด้านยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมียนมา ช่วยสนับสนุนการเติบโตของภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ สำหรับสถานที่จัดงานจะใช้ย่างกุ้งคอนเวนชั่นฮอลล์ ซึ่งเป็นศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าแห่งใหม่ในย่าน ใจกลางเมืองย่างกุ้ง ภายใต้คอนเซ็ปต์ การนำอุตสาหกรรมยานยนต์สู่วันพรุ่งนี้ ซึ่งทางบริษัทได้วางแผนเตรียมการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ประชาชนชาวเมียนมาที่เดินทางเข้ามาชมงาน ขณะเดียวกันภายในงานจะมีการนำเสนอรถรุ่นใหม่ ๆ ที่มีเทคโนโลยี นวัตกรรม และความก้าวหน้าด้านวิศวกรรมยานยนต์ที่ล้ำสมัย ตลอดจนการนำเสนอโปรโมชั่นส่งเสริม การขายที่น่าสนใจจากค่ายผู้ประกอบการ ยานยนต์ให้แก่ประชาชนที่มีความต้องการจองซื้อรถภายในงาน

ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ

19/12/61

เมียนมายังคงพยายามที่จะสร้างความต้องการระหว่างประเทศสำหรับอัญมณีท้องถิ่น

สมาคมผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติย่างกุ้งกล่าวว่างานอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติครั้งที่สองของเมืองย่างกุ้งจะจัดขึ้นที่โรงแรม Lotte ของย่างกุ้งตั้งแต่วันที่ 9-13 ม.ค 62 ประธานสมาคมผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับกล่าวว่าสมาคมฯ กำลังจัดงานนี้ด้วยความหวังในการพัฒนาตลาดอัญมณีและเครื่องประดับในประเทศเจาะตลาดต่างประเทศและการพัฒนาความร่วมมือในตลาดในประเทศ การจัดงานครั้งนี้จะทำให้ผู้ซื้อชาวต่างชาติที่ทำเครื่องประดับจากเมียนมาและหันมาส่งออกสินค้าไปยังตลาดใหญ่ ๆ สำหรับสมาชิกสมาคม กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญผู้ค้าอัญมณีและอัญมณีจาก 37 ประเทศและผู้ค้าท้องถิ่น 10,000 รายเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว แม้จะเป็นช่วงแรกของการจัดงานนักค้าต่างชาติก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีทั้งในด้านวิธีการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของเมียนมา เหตุการณ์นี้สร้างรายได้ถึง 290,000 เหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-continues-efforts-generate-international-demand-local-gems.html

19/12/61

สปป.ลาวจะบรรลุเป้าหมายการส่งออกข้าวของจีน

สปป.ลาวได้บรรลุเป้าหมายในการส่งออกข้าวไปยังประเทศจีนในเดือนนี้ หลังจากที่ IDP Rice Mill of Laos ลงนามข้อตกลงการค้ากับ China National Cereals, Oils and Foodstuffs Corporation ในเดือนพฤศจิกายน กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์กล่าวว่าเมื่อปีที่แล้วรัฐบาลจีนตกลงที่จะซื้อข้าว 20,000 ตันจาก สปป.ลาวผ่านทาง Laos through Xuanye (Lao) Co Ltd . ซึ่งรัฐบาลมีแผนที่จะส่งออกข้าวให้จีนมากขึ้นในอนาคตอันใกล้และสินค้าเกษตรอื่น ๆ เพื่อเพิ่มการส่งออกไปยังประเทศจีน โดยรัฐบาลจะสนับสนุน บริษัทในประเทศให้บริษัทลงทะเบียนกับสำนักงานบริหารงานคุณภาพด้านการตรวจสอบและกักกันของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งปีที่ผ่านมาสปป.ลาวมีรายได้จากการส่งออกข้าวมากกว่า 31.16 ล้านเหรียญสหรัฐฯโดยมีตลาดหลัก ได้แก่ เวียดนาม ไทยและจีน แต่อย่างไรก็ตามในปีนี้รัฐบาลหวังว่าจะมีรายได้จากการส่งออกข้าวมากกว่า 45.56 ล้านเหรียญ

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/laos-achieves-rice-export-target-china

18/12/61

IMFแจ้งว่าเศรษฐกิจกัมพูชาจะเติมโตได้ต้องมีการปฏิรูปก่อน

รายงานจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไคโรของกัมพูชาจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อไปในปีหน้าโดยจะมีการขยายตัวของ GDP ของประเทศกัมพูชาสำหรับการเติบโตของ GDP ในปี61 ทั้งนี้ IMF ระบุลักษณะการดำเนินงานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของกัมพูชาต่อ “ความต้องการภายนอกที่แข็งแกร่งและนโยบายการคลังที่ขยายตัว”และการอ้างถึงการส่งออกสิ่งทอของประเทศการท่องเที่ยวและภาคการก่อสร้างที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง “รายงานฉบับที่ 4 ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม รายงานคาดการณ์การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศกัมพูชาในปี61    เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10 ของ GDP เนื่องจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นโดยคาดการณ์ว่าเงินสำรองระหว่างประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 9.6 พันล้านเหรียญ (ประมาณห้าเดือนแรกของการนำเข้า) ภายในสิ้นปี

ที่มา : https://aecnewstoday.com/2018/more-stellar-growth-for-cambodia-economy-but-reforms-needed-says-imf/#ixzz5a5HJYBQu

19/12/61