ออสเตรเลียต้องการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าผ่านองุ่นบริโภคสด

เวียดนามถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับองุ่นบริโภคสด (Table grapes)ของออสเตรเลีย เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรชาวเวียดนามชนชั้นกลาง การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ รวมถึงกำลังซื้อของประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น โดยประเทศเวียดนามนับเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่อยู่ที่อันดับ 7 ของมูลค่าการส่งออกของออสเตรเลียไปยังทั่วโลก นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกขององุ่นบริโภคสดของออสเตเลียไปยังเวียดนามถึง 7,000 ตัน ในปี 2562 ซึ่งปริมาณนี้สูงกว่าในปี 2559 เกือบ 5 เท่า และทางการออสเตรเลียหวังว่าจากความสัมพันธ์ทางการค้านี้ จะทำให้ออสเตรเลียสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ไปยังเวียดนามที่หลากหลายมากขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/506280/australia-to-boost-vn-trade-ties-through-table-grapes.html#ABcW5BrdGHPUBkoU.97

1/3/2562

UN และ ญี่ปุ่นขยายความร่วมมือยะไข่ให้กับคะฉิ่นรัฐฉาน

ญี่ปุ่นและหน่วยงานสหประชาชาติลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการช่วยเหลือและพัฒนาด้านมนุษยธรรมสำหรับรัฐคะฉิ่นและรัฐยะไข่ของเมียนมา เงินจำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 ถูกใช้เพื่อช่วยเหลือประชาชนราวครึ่งล้านคนในรัฐยะไข่ ข้อตกลงดังกล่าวจะเอื้อต่อการกลับมาของผู้ลี้ภัยชาวยะไข่ทางตอนเหนือและสนับสนุนความเทียมของผู้หญิง โดยเริ่มเดือนเมษายน 2562 ใช้ระยะเวลา 1 ปี UNHCR กล่าวว่าภายใต้การระดมทุนครั้งใหม่ เงินจำนวน 5.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการพลัดถิ่นและสาเหตุในยะไข่ ทั้งนี้ญี่ปุ่นจะใช้เงิน 2.2 พันล้านเยน (19.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในแก้วิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมในยะไข่คะฉิ่นและฉานตอนเหนือ ด้านมนุษยธรรมและความช่วยเหลือด้านการพัฒนาในยะไข่ 1.5 พันล้านเยน นอกจากนี้งบ 540 ล้านเยน ใช้ในการสร้างบ้านและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับผู้ลี้ภัย

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/un-japan-extend-rakhine-cooperation-kachin-shan.html

27/02/62

เมียนมามีแผนเพิ่มโควตาส่งออกข้าวไปจีน

เมียนมาและจีนเตรียมหารือถึงการเพิ่มโควตาข้าวที่สามารถส่งออกไปจีน จากในปี 2559 ที่ 100,000 ตันและพยายามเพิ่มให้ได้โควตา 300,000 ตัน ภายในปีนี้ ในการส่งออกข้าวไปยังจีนผ่านการค้าชายแดน แต่ไม่เป็นทางการและรัฐบาลจีนเรียกเก็บภาษีนำเข้าข้าวจากพม่าอย่างเข้มงวด ในอนาคตโครงการ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road) เมียนมาเห็นว่าจีนควรลดภาษีนำเข้าหากต้องการทำให้การค้าเป็นทางการและสร้างความเข้มแข็งให้กับการค้าระหว่างประเทศ เมียนมาส่งออกข้าว 1.7 ล้านตัน มูลค่า 578 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเดือนเมษายนถึงธันวาคมปีที่แล้ว ทางเรือ 52% ในขณะที่มีการค้าชายแดนไปยังจีนได้ลดลงหนึ่งในสามจาก 2.5 ล้านตัน มูลค่า 780 ล้านดอลลาร์สหรัในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สาเหตุคือความต้องการบริโภคลดลง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-seeks-higher-export-quotas-china-rice-year.html

27/02/62

สนามบินรัฐชินพร้อมเปิดใช้ กันยายน 2563

การบินพลเรือนแห้งเมียนมาเผย สนามบินในเมืองพะล่านของรัฐยะชิน พร้อมเปิดใช้งานในเดือนกันยายน 2563 นี้ โดยใช้งบก่อสร้าง 3 หมื่นล้านจ๊าด ระยะเวลาก่อสร้างตั้งแต่ปี 2559 มีพื้นที่ทั้งหมด 1,289 เอเคอร์ ความยาวรันเวย์ 2 กิโลเมตร เพื่อแก้ไขปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเดินทาง การขนส่งเป็นหลัก รัฐชินจัดว่าเป็นรัฐที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่าง ทะเลสาบรูปหัวใจ (Rih Lake) และอุทยานแห่งชาตินัตมาท็อง (Nat Ma Taung) แต่รัฐชินถือว่าเป็นรัฐที่พัฒนาน้อยและยากจนที่สุดในประเทศ ในอนาคตเมียนมามีแผนที่จะสร้างสนามบินกระจายไปทั่วภูมิภาค เช่น เร็วๆ นี้ สนามบินขนาดเล็ก ความยาวรันเวร์ 1 กิโลเมตร ที่ได้รับการสนับสนุนจากอังกฤษอย่างสนามบินมะตูปี ในเมืองมะตูปีของรัฐชิน จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มีนาคม 2562 นี้

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/airport-chin-state-open-september-2020.html

27/02/62

ขอให้ธุรกิจย้ายที่อยู่

ศาลาว่าการพนมเปญได้ขอให้เจ้าของโรงงานรัฐวิสาหกิจ โกดังและอู่ซ่อมรถ ย้ายไปอยู่ที่ชานเมืองตามถนนวงแหวนรอบที่สามซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 64 สถานที่ตั้งของสิ่งอำนวยความสะดวกในใจกลางเมืองมักก่อให้เกิดปัญหาการจราจรหนาแน่นและอุบัติเหตุทางจราจร ในการประกาศลงวันที่ 26 ก.พ ธุรกิจจำนวนมากได้รุกล้ำบนทางเท้าและถนนสาธารณะปิดกั้นการจราจรและก่อให้เกิดอุบัติเหตุในภายหลัง สถานประกอบการและโรงงานต่าง ๆ ได้ทำให้ปัญหาหนักขึ้นด้วยการใช้รถบรรทุกหนักเพื่อขนส่งสินค้าของพวกเขาในเมืองหลวง ในช่วงกลางวันแม้จะมีคำเตือนซ้ำ ๆ การศึกษากฎหมายจราจรและการบริหารงานของศาลากลาง หน่วยงานเทศบาลแนะนำให้ธุรกิจย้ายไปที่ถนนวงแหวนระยะทาง 48 กม. ที่ได้รับทุนจากจีนซึ่งไหลจากสะพานเปรกพนอฟในเขตเปรกพนอฟและงู ผ่านถนนแห่งชาติ 3, 2 และ 21 ก่อนเชื่อมต่อกับทางหลวงแห่งชาติหมายเลข 1 ถนนกว้าง 25 เมตรและมีสี่เลน

ที่มา :https://www.phnompenhpost.com/national/businesses-asked-relocate 28/02/62

กัมพูชาเริ่มเพิ่มงบการท่องเที่ยว

กัมพูชาได้รับเงินประมาณ 4.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 61 จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 19.8% เมื่อเทียบกับ 3,633 ล้านดอลลาร์ในปี 60 อ้างจากข่าวของซินหัว เขากล่าวว่า:“ เราดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากกว่า 6.2 ล้านคน ในปี 61 เพิ่มขึ้น 10.7% โดยที่จีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดที่มีผู้เข้าชมเกือบ 2 ล้านคน คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 6.8 ล้านคนในปีนี้ และ 7.5 ล้านคนในปี 63 รายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ผู้คนราว 1 ล้านคนต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเพื่อหารายได้อุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างรวดเร็วและมีผู้เข้าชมมากถึง 15 ล้านคน ภายในปี 73 และมีรายรับสูงถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว 7.5% และอัตราความยากจนลดลง 10% ในปีที่แล้ว

ที่มา: https://www.ttrweekly.com/site/2019/02/cambodia-tots-up-tourism-tally/

27/02/62