หัตถกรรม สปป.ลาว จากครัวเรือนสู่ตลาดต่างประเทศ

สมาคมผู้ประกอบการหัตถกรรมสปป.ลาว ชี้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยมือได้รับการพัฒนาและค่อยๆ เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ จุดเด่นคือภูมิปัญญาท้องถิ่นนี้คือการทอผ้า ผู้หญิงสปป.ลาวทุกคนรู้วิธีการทอ คุ้นเคยกับกระบวนการผลิตสิ่งทอทั้งผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายหรือเพื่อใช้เอง สมาคมได้ริเริ่มกิจกรรมเพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพงานหัตถกรรมท้องถิ่น ผู้ผลิตได้เรียนรู้เกี่ยวกับความต้องการของตลาด เช่น ขนาด มาตรฐานของเส้นใยธรรมชาติ ช่างฝีมือยังได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น การส่งออกสินค้าหัตถกรรมเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ตลาดสำคัญคือ จากญี่ปุ่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกาและภูมิภาคใกล้เคียง

ที่มา: https://borneobulletin.com.bn/lao-handicrafts-from-household-basics-to-international-markets/

‘ธนาคารโลก’ จัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจปี 61 ไทยอยู่อันดับ 27 จาก 190 ประเทศ ทั่วโลก

จากรายงานของธนาคารโลก พบว่า การจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business) ในปี 2561 ไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่ม 30 อันดับแรกของโลก โดยอยู่ในอันดับที่ 27 จาก 190 ประเทศทั่วโลก ปัจจัยที่สำคัญ คือ 1.ด้านการเริ่มต้นธุรกิจ ค่าใช้จ่ายการจดทะเบียนลดลง 2.ด้านการขอใช้ไฟฟ้า ลดขั้นตอนการดำเนินการขอและโปร่งใส 3.ด้านการชำระภาษีปรับปรุงระบบการคำนวณ และยื่นแบบภาษีรายได้นิติบุคคลทางระบบออนไลน์ และ 4.ด้านการค้าระหว่างประเทศ มีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อี-แมทช์ชิ่ง ซิสเต็ม) มาใช้ในการควบคุมตู้สินค้า

สิงคโปร์ – กัมพูชา จับมือร่วมทุนโปรเจค Mixed-use ใน Tuol Kork

บริษัท HLH Development Pte ในเครือของ Hong Lai Huat Group Limited บริษัทอสังหาฯรายใหญ่จากสิงคโปร์ ได้ลงนามกับกลุ่มบริษัท รอยัลกรุ๊ปของกัมพูชา เพื่อลงทุนอสังหาริมทรัพย์ แบบโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) ในเขต Tuol Kork ที่ถือเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญของพนมเปญ มีพื้นที่ทั้งหมด 80,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยห้างค้าปลีก สวนสาธารณะ เป้าหมายเป็นประชากรในพื้นที่และการกำหนดราคาที่เหมาะสมบวกกับการตกแต่งที่ได้มาตรฐาน โดยทาง HLH Group ให้เหตุผลการร่วมทุนว่า รอยัลกรุ๊ป มีประสบการณ์ในกัมพูชาซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าใจตามความต้องการของคนกัมพูชาได้

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50546611/singapore-cambodia-jv-to-raise-mixed-use-project-in-tuol-kork

เวียดนามส่งออกผักผลไม้มากกว่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

เวียดนามมีรายได้มากกว่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากการส่งออกผักและผลไม้ในช่วงเดือน ม.ค. ถึงเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดสำคัญยังคงเป็นจีน 9 เดือนแรกตัวเลขส่งออกมีมูลค่า 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีการส่งออกไปยังไทยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง (35%) ออสเตรเลีย (31.6%) สหรัฐฯ (30%) และเกาหลีใต้ (24.4%) ในเดือน ต.ค. เวียดนามได้รับซื้อผักและผลไม้จากต่างประเทศจำนวน 134 ล้านเหรียญฯ ซึ่งทำให้มูลค่าการนำเข้ารวมของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในช่วง 10 เดือนแรกอยู่ที่ 1.43 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน AgroTrade กล่าวว่าโรงงานแปรรูปผักผลไม้จำนวนมากจะเริ่มเร่งดำเนินการในช่วงเดือนสุดท้ายของ ปี พ. ศ. 2561 เวียดนามตั้งเป้าหมายมูลค่าส่งออกไว้ที่ 4 พันล้านดอลลาร์ฯ

ที่มา: https://en.vietnamplus.vn/fruit-vegetable-exports-valued-at-33-billion-usd/141273.vnp

การถอนอีเอ็มบีจะไม่เป็นการรบกวนธุรกิจจีนในกัมพูชา

ไชน่ายูไนเต็ด (SSEZ) ปัจจัยที่ทำให้ บริษัท เป็นที่ยอมรับของกลุ่มประเทศต่างๆ จีนและประเทศอื่น ๆ เข้าเยี่ยมคารวะกัมพูชาว่าเป็น บริษัท ด้านการลงทุน บริษัท โกลว์ไอรอนเทคโนโลยี่กรุ๊ป (HODO Group) มีรายได้มากกว่า 60 พันล้านหยวน (8.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ต่อปีและปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 20,000 คน สต็อกสินค้า SSEZ มีมูลค่าถึง 500 ล้านเหรียญ SSEZ มีโรงงาน 130 แห่งและมีพนักงานประมาณ 21,000 คนในกัมพูชาที่ได้รับ
:http://en.freshnewsasia.com/index.php/en/11758-2018-11-01-08-33-59.html
02/11/61

Small Planet เปิดไฟท์บินตรงเสียมเรียบ – โตเกียว

จากการเปิดเผยของกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา Small Planet วางแผนเปิดตัวสายการบินต้นทุนต่ำจาก  เสียมเรียบถึงโตเกียว ภายในปี 2562  ซึ่งเป็นสายการบินที่สองหลังจาก All Nippon Airway (ANA) ที่ประสบผลสำเร็จในการเปิดไฟท์การบิน พนมเปญ – นาริตะ ไปเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมาสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมายังกัมพูชาให้มากขึ้น ทางโฆษกเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งกัมพูชาให้ข้อมูลว่า ในอีกทางหนึ่งสายการบินต้นทุนต่ำแห่งใหม่นี้ยังสามารถเพิ่มการนักท่องเที่ยวจากกัมพูชาสู่ญี่ปุ่นได้อีกด้วย

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50544816/small-planet-announces-siem-reap-tokyo-flight/

 

รายได้ SCG เติบโต 17% ในกัมพูชา

จากรายงานพบว่ารายรับจากยอดขายปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างของ SCG (Siam Cement Group) ในกัมพูชามีมูลค่ามากกว่า 98 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 17% ผลการดำเนินงานช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาการเพิ่มขึ้นของยอดขายและรายได้มาจากปัจจัยหลายๆ อย่างอาทิ ความต้องการวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เติมโตอย่างรวดเร็วและการลงทุนจากต่างประเทศในโครงการของภาครัฐและเอกชน และในปี 2019 SCG ตั้งเป้าขยายสาขาของศูนย์การให้บริการครอบคลุมในเมืองสำคัญทั่วประเทศ

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/50544115/scg-reports-17-pct-growth-in-sales-revenue/