ผู้ประกอบการคาสิโนต่างชาติ สนใจลงทุนในเมียนมา

ผู้ประกอบการคาสิโนทั้งจากฮ่องกง ไต้หวัน และมาเก๊าได้สอบถามเกี่ยวกับการดำเนินการคาสิโนในพม่าหลังจากผ่านกฎหมายการพนันของเดือน พ.ค.ปี 2561 ซึ่งแทนที่กฎหมายฉบับเดิมปี 2529 ผู้อำนวยการด้านการลงทุนและบริหารของบริษัท (DICA) ได้ให้นักลงทุนคาสิโนจากฮ่องกง ไต้หวัน และมาเก๊าได้หาโอกาสลงทุนในประเทศอย่างจริงจังหลังจากผ่านกฎหมายซึ่งอนุญาตให้ชาวต่างชาติเท่านั้นที่เข้าคาสิโนได้ โดยกำลังมองหาการตั้งธุรกิจทั้งในย่างกุ้ง พื้นที่ชายแดนหรือบนเกาะ แต่ต้องมีกฎระเบียบและขั้นตอนเฉพาะก่อนที่จะสามารถตั้งคาสิโนได้ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเดี่ยวหรือโรงแรมที่ติดอยู่ รัฐบาลมีแผนที่จะให้คาสิโนเข้ามาตั้งในประเทศเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและช่วยเพิ่มรายได้จากภาษี ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/foreign-casino-operators-looking-set-myanmar.html

ยอดเก็บภาษีสรรพากรเมียนมาเพิ่ม

กรมสรรพากรเมียนมา (IRD) มีรายได้ 4.9 ล้านล้านรายจัตจากการเก็บภาษี 5 ประเภทตั้งแต่ ต.ค.561 ถึง มิ.ย. 62 สี่ในห้าของจำนวนเงินที่เก็บได้ในปีนี้มาจากภาษีรายได้ ภาษีการค้า ภาษีสินค้าพิเศษค่าธรรมเนียมศาล อากรแสตมป์รวมถึงภาษีลอตเตอรี่อองบาร์เลย์ โดยรายได้จากภาษีรายได้อยู่ที่ 243 พันล้านจัต ภาษีสินค้าพิเศษมาที่ 42 พันล้านจัต ภาษีสลากกินแบ่งมีส่วน 31 พันล้านจัตภาษีเชิงพาณิชย์ 16 พันล้านจัต ขณะที่ค่าธรรมเนียมศาลและอากรแสตมป์ 5.3 พันล้านจัตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันภาษีทุกประเภทยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลและอากรแสตมป์สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว กรมสรรพากรกล่าวว่ามีการดำเนินการกับร้านค้าที่ไม่มีอากรแสตมป์บนโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริม มีผู้ถูกดำเนินการ 98 รายที่ถูกปรับไปแล้วเป็นจำนวนเงินรวม 10.9 ล้านจัต ในขณะที่ผู้แจ้งเบาะแสทั้งสิ้น 11 ราย ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 164 ล้านจัต

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/higher-revenue-collection-reported-ird.html

การผลิตไม้ซุงลดลงมากกว่าครึ่ง

บริษัท Myanmar Timber Enterprise (MTE) จะลดการตัดไม้สักและไม้เนื้อแข็งจากพื้นที่ป่าธรรมชาติในปี พ.ศ. 62-62 ลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งผลิตได้เพียงพอสำหรับต้นทุนการผลิตไม้ซุง โดยการตัดไม้จะถูกจำกัดสำหรับต้นไม้อายุ 30 ปีขึ้นไปในมัณฑะเลย์และซากะ ซึ่งจะช่วยลดการทำลายป่าและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแจ้งว่าจะมีการปลูกต้นไม้ทดแทนป่าไม้ที่ถูกโค่นจำนวนมากถึงสามเท่าในภูมิภาคและยังให้ความช่วยเหลือแก่ควานช้างและช้างที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการตัดไม้

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/timber-production-halved.html

หนี้สินเมียนมาพุ่ง 38,000 ล้านจัต

ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคมของปีนี้เมียนมามีหนี้รวม 38,117 พันล้านจัต รวมถึงหนี้สินต่างประเทศ 9.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 54-55 หนี้ในประเทศ 9,938 พันล้านจัตและหนี้ต่างประเทศ 6,635 พันล้านจัต ในปี 55 – 56 หนี้สินในประเทศ 10,824 ล้านจัตและต่างประเทศ 7,301 พันล้านจัต ปี 55-56 และ 12,014 พันล้านในหนี้สินในประเทศ และหนี้ต่างประเทศจำนวน 9,561 พันล้านจัต ในปี 2556-2557 มีตราสารหนี้ในประเทศ 12,487 พันล้านจัตในและต่างประเทศ 9,545 พันล้านจัต และในปี 58-59 มีหนี้สินในประเทศ 15,724 พันล้านจัต หนี้ต่างประเทศ 12,246 พันล้านจัต นับตั้งแต่รัฐบาลพรรค NLD เข้ารับตำแหน่งมีหนี้ในประเทศปี 59-60 ในประเทศ 18,020 พันล้านจัตและหนี้ต่างประเทศ 10,841 พันล้านจัต ในปีงบประมาณ 2559-2560 ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย. ปี 62 นี้มีหนี้สินในประเทศ 22,787 พันล้านจัตส่วนต่างประเทศมี 15,330 พันล้านจัต ซึ่งปัจจุบันกระทรวงการวางแผนและการคลังกำลังวางแผนเพื่อรับมือกับปัญหานี้อยู่

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-has-over-ks38000-billion-in-total-debt

EXIM BANK เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์เศรษฐกิจระหว่างประเทศเมียนมา

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) เข้าเยี่ยมคารวะนายตอง ตุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์เศรษฐกิจระหว่างประเทศเมียนมา เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่ได้รับตำแหน่งใหม่ รวมทั้งหารือความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการลงทุนของผู้ประกอบการไทยภายใต้แผนพัฒนาเมียนมาอย่างยั่งยืน (Myanmar Sustainable Development Plan : MSDP) รวมถึงโครงการลงทุนต่างๆ ของรัฐบาลเมียนมา ณ กรุงเนปิดอว์ เมียนมา เมื่อเร็วๆ นี้

ที่มา: https://www.ryt9.com/s/prg/3022597

เขตเศรษฐกิจพิเศษทิวาลายังต้องการท่าเทียบเรือมาตรฐานและบริการโลจิสติกส์ใน ระดับสากล

Thilawa Public Public Co. , Ltd (MTSH) ระบุ พื้นที่ของโรงงานเขตเศรษฐกิจพิเศษทิวาลายังต้องการบริการท่าเรือและโลจิสติกส์มาตรฐานสากล จากรายงานปีงบประมาณ 61-62 MTSH กำลังดำเนินการสำรวจเบื้องต้นเพื่อเปลี่ยนเขตพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกที่หลากหลาย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561 การดำเนินงานของท่าเทียบเรือที่สร้างโดย บริษัท ทิลาว่ามัลติเทอร์มินัลอินเตอร์เนชั่นแนลเทอร์มินัล จำกัด (TMIT) ด้วยเงินกู้ ODA ของญี่ปุ่นเริ่มต้นขึ้น บริษัท โตโยต้าเมียนมาร์ จำกัด ได้ลงทุน 52.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอุตสาหกรรมยานยนต์และจะผลิตรถยนต์โตโยต้าไฮลักซ์ 2,500 คันในปี 64 จากเขตเศรษฐกิจพิเศษสามแห่งในเมียนมาเขตเศรษฐกิจพิเศษทิวาล่ามีศักยภาพทางเศรษฐกิจ มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเพราะอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ปัจจุบันมีบริษัท 108 บริษัท จาก 19 ประเทศที่ลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทิลาว่า 60% บริษัท ใน SEZ กำหนดเป้าหมายไปที่ตลาดในประเทศและที่เหลือคือตลาดต่างประเทศ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/thilawa-sez-in-need-of-international-standard-jetties-and-logistics-services

แรงงานที่มีทักษะของเมียนได้รับอนุญาตให้ทำงานในญี่ปุ่นได้นานถึงห้าปี

ภายใต้บันทึกความร่วมมือ (MoC) ระหว่างเมียนมาและญี่ปุ่นลงนามเมื่อวันที่ 28 มีนาคมปีนี้ แรงงานที่มีทักษะจะได้รับอนุญาตให้ทำงานอยู่ในญี่ปุ่นเป็นเวลาห้าปีเพื่อทำงานให้กับ 14 ภาคส่วน เช่น พนักงานดูแลสุขภาพ อาคาร การทำความสะอาด เครื่องจักรและชิ้นส่วนประกอบ อุตสาหกรรมไฟฟ้า ประปา อิเล็กทรอนิกส์ การก่อสร้าง การต่อเรือและเครื่องจักร บำรุงรักษารถยนต์ การบิน บริการโรงแรม การเกษตร การประมง ปศุสัตว์ อาหารและเครื่องดื่ม ทั้งสองประเทศได้ตกลงกันในเรื่องมาตรฐานที่กำหนดสำหรับบริษัทจัดหางานในต่างประเทศ บริษั จัดหางานที่ลงทะเบียนที่กรมแรงงานต้องปฏิบัติตามกฎและมาตรฐานที่กำหนดในการส่งแรงงานฝีมือไปญี่ปุ่น

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/skilled-myanmar-workers-to-be-allowed-up-to-five-year-work-in-japan

ครึ่งปีแรกของปี 62 FDI เมียนมาพุ่ง 77% คิดเป็น 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สถิติจากคณะกรรมการการลงทุนและการบริหารบริษัท (DICA) สิงคโปร์เป็นนักลงทุนอันดับต้น ๆ มีมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจำนวนโครงการที่ลงทุนจำนวน 13 โครงการ อันดับ 2 คือ จีนมีมูลค่า 330 ล้านเหรียญสหรัฐและอีกกว่า 60 โครงการที่ได้รับอนุมัติ โดยอุตสาหกรรมการขนส่งและการสื่อสารได้รับการลงทุนมากที่สุดคือ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาคการผลิต 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่บริการ 160 ล้านดอลลาร์ โรงแรมและการท่องเที่ยว รวมถึงอุตสาหกรรมปศุสัตว์และการประมงจะอยู่ที่ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากรายงานของเวิลด์แบงก์ตัวเลข FDI เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน แต่ยังไม่ถึงหนึ่งในสามของปี 60/61 และยังมองว่าโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ระเบียงเศรษฐกิจ พลังงานและการขนส่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มจะเป็นตัวดึงเม็ดเงินการลงทุนและสร้างภาระงานให้กับชาวเมียนมา

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/fdi-jumps-77pc-us23-billion-first-half-2019.html

สนามบินพุกามต้องมีการปรับปรุง

สนามบินพุกามไม่สามารถปรับปรุงและซ่อมแซมได้ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับเมืองโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และจะไม่สามารถดำเนินการในแผนระยะยาว สนามบินพุกามมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการปรับปรุงซึ่งจำเป็นต้องวางแผนในอนาคต จากการเป็นพื้นที่มรดกโลกส่งผลให้ตอนนี้นักเดินทางต่างชาติไปเที่ยวพุกามมากขึ้นและสายการบินนานาชาติได้ให้ความสนใจในการบินตรงไปยังพุกาม กรมการบินพลเรือน (DCA) แจ้งว่าสายการบินบางกอกแอร์เวย์สว่าไม่ได้รับอนุญาตให้บินตรงระหว่างกรุงเทพฯ และพุกามได้เนื่องจากไม่ใช่สนามบินนานาชาติ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/pakokku-airport-needs-to-upgrade-minister

มิ.ย.62 เงินเฟ้อเมียนมาพุ่ง 8.08%

อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วงปลายเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 8.08% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ 7.82% ในช่วงปลายเดือน พ.ค. อัตราเงิน อัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบปีต่อปีอยู่ที่ 9.51% โดยเขตมะกเว มีเงินเฟ้อสูงสุดอยู่ที่ 12.31% รองลงมาคือรัฐมอญ 10.14% และมัณฑะเลย์ที่ 9.99% จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเมียนมา (Central Statistical Organization: CSO) ในปี 55 ได้ทำการสำรวจครัวเรือนและการบริโภคของครัวเรือน 32,669 ครัวเรือนใน 82 เมืองทั่วประเทศเพื่อคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคและอัตราเงินเฟ้อ ในอดีตอัตราเงินเฟ้อคำนวณโดยใช้ปี 49 เป็นปีฐาน แต่ตอนนี้ 2012 ถูกใช้เป็นปีฐานในการคำนวณอัตราเงินเฟ้อ ภายใต้แผนพัฒนาแห่งชาติห้าปีฉบับที่ 2  (จากปี 59 – 60 ถึง ปี 63-64) รัฐบาลได้วางแผนลดอัตราเงินเฟ้อผ่านนโยบายการเงินการคลัง การค้า และนโยบายสกุลเงินต่างประเทศ

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/average-inflation-hits-808-pc-in-june