KBZ ร่วมมือกับ PTTOR พัฒนาคลังน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกในเมียนมา

บริษัท Brighter Energy และ บริษัท Brighter Energy Retail ภายใต้กลุ่ม บริษัท คันบาวซา จำกัด (KBZ) บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศเมียนมา จับมือกับ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) จากประเทศไทย เพื่อพัฒนาคลังน้ำมันประกอบด้วย การจัดหาเชื้อเพลิง การจัดการท่าเทียบเรือ การสร้างคลังน้ำมัน คลังบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และการขายปลีกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม โดยคลังเก็บน้ำมันจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในเมียนมา ด้านธุรกิจค้าปลีกสถานีปตท.และคาเฟ่อเมซอนยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องภายใต้แบรนด์ PTTOR ที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว และมีแผนจะยกระดับปั้มน้ำมัน Nilar Yoma และเปิดใหม่ 10 แห่งในย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ คาดว่าจะเปิด 70 สถานี ในปี 2566 และปรับปรุง คาเฟ่อเมซอน มินิมาร์ท ศูนย์บริการอัตโนมัติ เคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และห้องน้ำ ซึ่งสามารถสร้างงานได้มากกว่า 2,000 ตำแหน่ง โดยใช้ทุนทั้งสิ้น 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/kbz-join-hands-with-pttor-in-retail-business-development

ผู้ผลิตถ่านสีขาวสปป.ลาว ปลูกต้นไม้มากขึ้นเพื่อกระตุ้นการส่งออก

กลุ่มผู้ผลิตถ่านขาวเพื่อการส่งออก (WPEG) สปป.ลาวกำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลและชุมชนท้องถิ่นในโครงการปลูกต้นกล้าไม้ติ้วในภูมิภาคที่พัฒนาน้อยที่สุดของประเทศด้วยความหวังว่าจะช่วยส่งเสริมการค้าและขจัดความยากจน เป้าหมายของกลุ่มในการจัดตั้งสวนไม้ติ้วคือเพื่อขยายกำลังการผลิตถ่านสีขาวและจับตลาดส่งออกของญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีซึ่งได้แสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์เป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียน โดยกลุ่มผู้ผลิตมองเห็นการผลิตถ่าน 200 ตันต่อเดือนสำหรับลูกค้า

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_White.php

ABA รายงานกำไรสุทธิ 71.8 ล้านดอลลาร์

ABA Bank ซึ่งเป็นสมาชิกของ National Bank of Canada มีกำไรสุทธิ 71.8 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 55% จาก 46.2 ล้านดอลลาร์ในปี 60 รายงานประจำปีของ บริษัท เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รายงานเงินฝากของ ABA อยู่ที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์เทียบกับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 60 ขณะที่สินเชื่อของธนาคารอยู่ที่ 1.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งขยายตัว 49% เมื่อเทียบเป็นรายปี ABA จะกลายเป็นผู้ออกหุ้นกู้รายที่สามในตลาดทุนกัมพูชาหลังจากได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ธนาคารมีแผนจะระดมเงิน 24.7 ล้านดอลลาร์ผ่านการออกหุ้นกู้ครั้งแรกในตลาดทุนของกัมพูชา รายได้สุทธิจากการออกพันธบัตรจะถูกใช้สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อ ณ สิ้นปีนี้ธนาคารให้บริการผู้ฝาก 426,000 ราย เพิ่มขึ้นจาก 232,000 คน ณ สิ้นปี 60 โดยมีพนักงาน 4,213 คนและสาขา 66 แห่งทั่วประเทศ

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/aba-reports-718m-net-profit

การค้าระหว่างมณฑลยูนนานและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพิ่มขึ้น 5.6 %ในปี 61

ปริมาณการค้ารวมระหว่างมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนกับ 5 ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 61 โดยมณฑลยูนนานจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การพัฒนาของทุกประเทศและเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงทุกด้าน และจะทำงานร่วมกับประเทศในกลุ่ม GMS เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจสีเขียวในระดับภูมิภาคและส่งเสริมการก่อสร้าง “เส้นทางสายไหมดิจิตอล” และสวนอุตสาหกรรม อีกทั้งประเทศไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่สำคัญในการเชื่อมโยงจีนกับประเทศของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางเดินรถไฟระหว่างจีน – สปป.ลาว – ไทยจะส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างทั้ง3 ประเทศและอำนวยความสะดวกในการลงทุนจากกลุ่มประเทศ

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2019-06/11/c_138131860.htm

นักลงทุนเกาหลีมองหาโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน

ตามรายงานของธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ (HSBC) เปิดเผยว่านักลงทุนชาวเกาหลีมองหาโอกาสในการลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนในเวียดนาม เนื่องมาจากเวียดนามและเกาหลีใต้ร่วมมือในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงเวียดนามจะได้รับองค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีจากเกาหลีใต้จากการลงทุนโดยตรงต่างประเทศ (FDI) และการฝึกอบรมบุคลากรอีกด้วย ซึ่งทางรัฐบาลเวียดนามได้ออกกฎหมายเพื่อเอื้ออำนวยต่อการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน ได้แก่ การลดภาษีสำหรับโครงการพลังงานทดแทน เป็นต้น จากสถิติการใช้พลังงานไฟฟ้าเวียดนาม คาดว่าเวียดนามจะมีการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 ในแต่ละปี ทางด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของเกาหลีใต้ แสดงให้เห็นว่าเวียดนามเป็นแหล่งการลงทุนของเกาหลีใต้คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51.5 ของการลงทุนทั้งหมดในอาเซียน รองลงมาสิงค์โปรร้อยละ 25.6 ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/521081/korean-investors-eye-investment-in-renewable-energy.html#r1lluvQ43TuExXjb.97

สามด่านค้าชายแดนหลักของระเบียงเศรษฐกิจจีน – เมียนมา

คณะกรรมการกลางเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจชายแดน (BECZ) ตัดสินใจเลือกพื้นที่สำหรับโซนหลักสำหรับการค้าชายแดนของระเบียงเศรษฐกิจจีน – เมียนมา ในมูเซและชินฉ่วยฮ่อ (Chin Shwe Haw) ภูมิภาคทางตอนเหนือในรัฐฉาน Kan Pite Tee ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งตอนนี้มีเพียงบริษัทของเมียนมาเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมประมูลแม้ว่านักลงทุนต่างชาติยังสามารถเข้าร่วมได้โดยถือหุ้นไม่เกิน 35% เพราะอาจถูกครอบงำจากทุนมหาอำนาจอย่างจีนและการถูกแย่งตำแหน่งงานของคนในพื้นที่

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/three-locations-identified-china-myanmar-economic-corridor.html

Angkor Enterprise ได้รับยอดขายตั๋วมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์

กัมพูชามีรายรับมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ จากการขายตั๋วไปยังอุทยานโบราณคดีอังกอร์ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งลดลง 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากเดือน ม.ค-พ.ค ปีนี้อังกอร์เอ็นเตอร์ไพรส์ขายบัตรโดยสารทั้งหมด 1.12 ล้านใบ แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งสร้างรายได้มากกว่า 50.31 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 6.17 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่มาเยี่ยมชมนครวัด ตามด้วยนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักรและเกาหลีใต้  ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมากัมพูชา ต้อนรับนักท่องเที่ยว 2.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.1 % จากปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/angkor-enterprise-receives-more-50m-ticket-sales

ติดฉลากสินค้าภาษาเมียนมา

คณะกรรมการกลางเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคของเมียนมา ได้ออกประกาศ 2 ฉบับ ได้แก่ ประกาศฯ ฉบับที่ 1/2561 ลงวันที่ 26 ต.ค61 ว่าด้วยการกำหนดสินค้าที่ต้องติดฉลากและคำแนะนำในการใช้สินค้าเป็นภาษาเมียนมา และประกาศฯ ฉบับที่ 1/2562 ลงวันที่ 17 ม.ค 62 ว่าด้วยการกำหนดแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการเกี่ยวกับการติดฉลากสินค้าภาษาเมียนมา กำหนดประเภทสินค้าที่ต้องติดฉลากเป็นภาษาเมียนมา ใน 8 กลุ่มสินค้า ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องใช้ในครัวเรือน สินค้าสำหรับเด็ก เครื่องมือเทคโนโลยีและการสื่อสาร ยาและอาหารเสริม สารเคมี เครื่องสำอาง อุปกรณ์อาบน้ำ เครื่องมือทางการเกษตรและอุปกรณ์ออกกำลังกาย ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 15 มี.ค 63 เป็นต้นไป

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/nnd/3000105

สปป.ลาว-ติมอร์เลสเต กระชับความสัมพันธ์ความร่วมมือ

สปป.ลาวและติมอร์ – เลสเตได้ตกลงที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ด้านความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในขณะที่มองหาศักยภาพใหม่สำหรับการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สองฝ่ายได้เน้นความสัมพันธ์ทวิภาคีและความร่วมมือที่มีอยู่ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ เน้นการเยี่ยมชมซึ่งกันและกันโดยผู้นำประเทศและการสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่องในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือกันว่าความร่วมมือทวิภาคีด้านการค้าและการลงทุนยังคงมีอยู่อย่างจำกัด และตกลงที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องโดยให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ การขนส่งสินค้า แรงงาน การท่องเที่ยว การฝึกอบรมสายอาชีพ และการแลกเปลี่ยนระหว่างธุรกิจกับหอการค้าและอุตสาหกรรม

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_timor_133.php

PPC Bank และ IFC ร่วมกันช่วยเหลือ SMEs

PPC Bank ซึ่งตั้งอยู่ในเกาหลีใต้ ได้ทำสัญญากับ International Finance Corporation (IFC) เพื่อส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจขนาดเล็กภายในกัมพูชา ช่วยอำนวยความสะดวกในการเติบโต และสร้างงานในกัมพูชา ภายใต้การเป็นพันธมิตรใหม่ โดย PPC Bank จะใช้ศูนย์กระจายความเสี่ยงของ IFC เพื่อช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) โดยให้ครอบคลุมสินเชื่อที่ให้แก่ SMEs และลดความเสี่ยง ในขณะเดียวกันได้ให้ PPC Bank บริการลูกค้าได้มากขึ้น และรองรับการเติบโตของธุรกิจ นอกเหนือจากการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนที่ครอบคลุมแล้ว IFC จะให้บริการเป็นที่ปรึกษาโดยออกแบบสินเชื่อมาเพื่อขยายขีดความสามารถของ PPC Bank เพื่อการขยายสินเชื่ออย่างมั่นใจ ไปยังองค์กรที่เติบโตมากขึ้น โดยในกัมพูชามี SMEs อยู่ประมาณ 50,000 ราย คิดเป็น ร้อยละ 97 ที่มีพนักงานน้อยกว่า 10 คนจึงจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50612499/ppcbank-and-ifc-team-up-to-help-smes/