ธนาคารท่องเที่ยวแห่งเมียนมา เปิดสาขาแรกที่ย่างกุ้ง

ธนาคารการท่องเที่ยวแห่งเมียนมา (MTB) เปิดสาขาแรก ณ กรุงย่างกุ้งในวันจันทร์ที่ผ่านมา MTB ถือเป็น 1 ใน 5 ของธนาคารรัฐที่ได้รับความเห็นชอบจากธนาคารกลางแห่งเมียนมา (CBM) มาตั้งแต่ปี 2560 โดยธนาคารมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนในด้านการเงินให้กับธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว พร้อมยังมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวอีกด้วย ทั้งนี้ภายในเดือนหน้ามีแผนจะเปิดสาขาที่มัณฑะเลย์และเนปิดอว์ จากข้อมูลพบว่าปัจจุบันมีบริษัทที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและโรงแรมมากกว่า 2,500 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs) และเป็นกลุ่มที่ประสบปัญหาด้านการเงินมากที่สุด

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-tourism-bank-starts-operating-first-branch.html

3 เดือนแรกนักท่องเที่ยวเมียนมาพุ่ง

3 เดือนแรกของปี 2562 พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเมียนมาจำนวน 1.136 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชีย เช่น จีน ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เวียดนาม อินเดีย และมาเลเซีย ทางด้านนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรปมีจำนวนลดลง ข้อมูลจากกระทรวงการโรงแรมและการท่องเที่ยวพบว่า ในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากกว่า 4.6 ล้าน ปี 2559 มีจำนวน 2.91 ล้านคน ปี 2560 จำนวน 3.44 ล้านคน ปี 2561จำนวน 3.55 ล้านคน และภายในปี 2562 นี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแน่นอน

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2019-05/07/c_138039844.htm

เมียนมานำเข้าสินค้าทุนเฉียด 3.2 พันล้านดอลลาร์

จากรายงานของกระทรวงพาณิชย์ ที่ช่วงเจ็ดที่ผ่านมามีการนำเข้าสินค้าทุนสูงถึง 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 31% ของการนำเข้าสินค้าทุกประเภททุกประเภท แต่เมื่อเทียบกับปีที่แล้วลดลงเกือบ  380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ 1 ตุลาคมถึง 26 เมษายน ของปีงบประมาณ 2018-2019 มีการนำเข้าสินค้าทุนมูลค่า 3.265 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้รัฐบาลยังอนุมัติการลงทุนจากต่างประเทศ 150 ครั้ง ด้วยมูลค่า 1,682.707 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงการเพิ่มการลงทุน มูลค่าทั้งสิ้น 2,412.835 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/import-value-of-capital-goods-in-nearly-seven-months-reaches-over-us32-bn

โทรคมนาคมของสปป.ลาว การวิเคราะห์การเติบโตของตลาดโทรศัพท์มือถือ และบรอดแบนด์ได้รับแรงผลักดันในที่สุด

ภาคโทรคมนาคมในลาวยังคงมีปัญหามากมาย เป็นเวลาหลายปีที่อัตราการปฏิรูปกฎข้อบังคับได้รับการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตามสปป.ลาวเริ่มมีความก้าวหน้าที่สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เป็นผลให้มันดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา การให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบคงที่มีความล่าช้าซึ่งเป็นข้อกังวลหลักในแง่ของการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ถึงอย่างไรในการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในระดับต่ำถึงปานกลางนั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอีกห้าปีข้างหน้าถึงปี 2566 และการขยายตัวอย่างรวดเร็วของบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์บนมือถือจากการเปิดตัวบริการ 4G ขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงคาดว่าอีกห้าปีข้างหน้าการเติบโตจะดำเนินต่อไป แต่ส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมจะยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก

ที่มา : https://amarketresearchgazette.com/laos-telecoms-mobile-and-broadband-market-growth-analysis-challenges-and-industry-key-players-lao-telecom-thaicom-etl-unitel-lao-asia-telecom-star-telecom-viettel-2019-2023/

กล้วยเป็นสินค้าเกษตรส่งออกอันดับต้น ๆ ของสปป.ลาว

กล้วยถูกคาดว่าจะส่งออกสินค้าเกษตรชั้นนำของสปป.ลาวในปี 2562 แม้ว่ารัฐบาลลาวจะห้ามไม่ให้มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกทั่วประเทศ ในปี 2560 สปป.ลาวมีรายรับ 167.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการส่งออกกล้วยซึ่งลดลงเป็น 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2561 แต่ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 168 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 ส่วนใหญ่จะขายให้ประเทศจีน และประเทศไทย ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่อื่น ๆ ในสปป.ลาวคาดว่าจะรวมมันสำปะหลังซึ่งมียอดขายสูงถึง 129 ล้านดอลลาร์สหรัฐกาแฟดิบ 143 ล้านดอลลาร์สหรัฐยางพารา 105 ล้านดอลลาร์สหรัฐข้าวโพดที่ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐและข้าว 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนโยบายเชิงพาณิชย์ในการผลิตกล้วยเป็นประโยชน์ต่อคนในชนบท ผลที่โดดเด่นที่สุดของนโยบายนี้คือเข้ามาของนักลงทุนเพื่อช่วยเหลือ เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยในแขวงทางภาคเหนือของแขวงบ่อแก้ว หลวงน้ำทาและแขวงอุดมไซ ซึ่งนำไปสู่การส่งออกกล้วยที่เพิ่มขึ้นจาก 46.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 เป็น 197.8 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐในปี 2559

ที่มา : https://www.freshplaza.com/article/9101029/laos-bananas-are-top-agricultural-export/

DKSH เปิดศูนย์ B’bang

ดีเคเอสเอช (SKS) ผู้ให้บริการขยายตลาดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สวิส 6 คนได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่ 1,600 ตารางเมตร ในจังหวัดพระตะบองเพื่อขยายฐานการผลิตในกัมพูชา บริษัท กล่าวว่าโรงงานที่ทันสมัยจะมีบทบาทสำคัญในการให้การสนับสนุนด้านการกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ที่ทันสมัยแก่ลูกค้า ตลอดจนให้บริการในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ศูนย์กระจายสินค้าของ DKSH ในพนมเปญเปิดในปี 58 และเสียมราฐซึ่งเปิดในปี 60

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/business/dksh-opens-bbang-centre

ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลง จากความกังวลสงครามการค้า สหรัฐ จีน

ตลาดหุ้นเอเชียเกิดการเทขายอย่างหนัก เนื่องมาจากความกังวลท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐ-จีน ด้วยเหตุนี้มีการส่งสัญญาจากจีนถึงการปรับตัวของของการขึ้นภาษีศุลากากรกว่า 200 พันล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์นี้ และคิดร้อยละของภาษีสินค้าจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 และถ้าเกิดการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนไม่ประสบผลความสำเร็จ ทำให้เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง ความต้องการพลังงงานลดลงและราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง โดยสถานการณ์ของตลาดหุ้นเวียดนาม พบว่าดัชนี VN-Index และ HNX-Index ร่วงลงราวร้อยละ 0.56 และ 0.55 ตามลำดับ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หากสภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงติดลบ จะส่งผลให้ระยะสั้นของดัชนีทั้งสองจะดิ่งลงอย่างมาก

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/519516/vn-stocks-head-down-with-global-markets-on-worries-about-trade-war.html#SgJ20D9r3dfqfhAm.97

การเมืองกดความเชื่อมั่นผู้บริโภค ต่ำสุดรอบ16เดือน

โพลหอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.อยู่ระดับ 79.2 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ต่ำสุดในรอบ 16 เดือน กังวลเสถียรภาพทางการเมืองหลังเลือกตั้ง ภาวะเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลกและกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ว่า อยู่ที่ระดับ 79.2 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ต่ำสุดในรอบ 58 เดือน อย่างไรก็ตามปัจจัยลบที่สำคัญของเดือนเม.ย.คือการปรับลดคาดการณฺ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย(จีดีพี)ของ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เหลือโต 3.8% จากเดิมที่คาดโต 4.0% หลังคาดว่าการส่งออกปีนี้จะเหลือโตแค่ 3.4% จากเดิมคาดไว้ที่ 4.5% ซึ่งเป็นผลจากทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลก รวมทั้งนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/economic/707085

ดัชนี CPI เวียดนามในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.71 นับว่าเป็นการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา และดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.31 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 2.93 ต่อปี ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพของเศรษฐกิจเวียดนาม แม้ว่าจะเผชิญกับความผันผวนของราคาสินค้าและการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเบนซิน โดยในบรรดากลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ 9 ใน 11 ประเภทมีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งประกอบด้วยกลุ่ม การขนส่ง (4.29%) ที่อยู่อาศัย และวัสดุก่อสร้าง (0.6%) อุปกรณ์ของใช้ในครัวเรือน (0.11%) กลุ่มวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว (0.1%) เครื่องดื่มและบุหรี่ (0.08%) เครื่องแต่งกาย (0.06%) การศึกษา (0.05%) การแพทย์และบริการสุขภาพ (0.01%)  สินค้าและบริการอื่นๆ (0.15%) นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ดัชนี CPI ไม่นับรวมกลุ่มอาหารสด พลังงาน การดูแลสุขภาพ และการบริการด้านการศึกษา) ในเดือนเมษายนปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.09 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม และร้อยละ 1.88 เมื่อเทียบต่อปี

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/519391/four-month-cpi-growth-lowest-in-three-years-gso.html#STCCdHRAfS3fedFg.97

ตัวเลขผู้ป่วยเมียนมา พุ่งเป็นล้านในปี 61

จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาแห่งรัฐบาลเมียนมา พบว่าผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลของรัฐในปี 2561 มีจำนวนถึง 3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 1.8 ล้านคนในปี 2556 โดยรัฐบาลจัดสรรงบฯ เพียงร้อยละ 3.65 ของงบประมาณประจำปีในการดูและด้านสุขภาพของประชากรซึ่งต่ำมากตามมาตรฐานระดับโลก ปัจจุบันอายุขัยเฉลี่ยชาวเมียนมาอยู่ที่ 64.7 ปี ซึ่งต่ำที่สุดในกลุ่มอาเซียน แต่อัตราการตายของมารดาสูงเป็นอันดับสองในอาเซียนที่ 282 ราย และต่อการตั้งครรภ์ทุกๆ 100,000 ราย จะมีผู้หญิงประมาณ 2,800 คนที่เสียชีวิตระหว่างตั้งครรภ์หรือคลอด ภาวะทุพโภชนาการเป็นที่แพร่หลายในประเทศโดยมีเด็กอายุต่ำกว่าห้าขวบหนึ่งในสามจะมีปัญหาการขาดสารอาหารในช่วงเจริญเติบโตตามที่ได้ระบุไว้ในแผนด้านสุขภาพของปี 2017 – 2027

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/number-inpatients-govt-hospitals-grows-million.html