ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ย.61 ลดต่อเนื่อง

ผศ.ดร ธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.61 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3  มาอยู่ที่ระดับ 80.5 จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 81.3 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นและราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดทรงตัวระดับต่ำ โดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมัน รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง จนถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัวลง

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5c08cf8ae3f8e4e9070e0526

07/12/61

เอ็กซิมแบงก์อ้อนคลังขอเพิ่มทุนอีก 1.5 หมื่นล.หวังขยายสินเชื่อในซีแอลเอ็มวี

ข่าวจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยระหว่างเดินทางไปจัดตั้งสำนักงานผู้แทนธสน.ที่ สปป.ลาวว่า ขณะนี้เสนอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาเพิ่มทุนอีก 15,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับทุนปัจจุบันที่ 20,000 ล้านบาท จะเป็น 35,000 ล้านบาท สำหรับปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการ และรัฐวิสาหกิจ เข้าไปลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยการเพิ่มทุนจะใช้เงินทุนกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งแบ่งการเพิ่มทุนเป็น 2 ระยะ ในปี 2562 เพิ่ม 8,000 ล้านบาท และปี 2563 เพิ่มอีก 7,000 ล้านบาท พร้อมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มซีแอลเอ็มวี โดยขณะนี้ได้มีการสำนักผู้แทนแล้ว 2 แห่ง ที่ย่างกุ้ง เมียนมา  และที่เวียงจันทน์ สปป.ลาว และปีหน้ามีแผนเปิดอีกแห่งที่กัมพูชา

ที่มา :  https://www.thaipost.net/main/detail/23619

07/12/61

ซี.พี.ขานรับรัฐบาลเวียดนาม ดันผลิตกุ้ง 1 ล้านตันผงาดเบอร์ 1 โลก

ซี.พี.หนุนนโยบายเวียดนาม เพิ่มผลผลิตกุ้งเป็น 1 ล้านตัน เป้า 1 โลกใน 7 ปี เผย 25 ปีปูพรมลงทุนเวียดนามแล้วกว่า 1,000 ล้านดอลล์ เตรียมทุ่มอีก 220 ล้านดอลลาร์ ตั้งโรงงานผลิตไก่-หมูแปรรูปส่งออกไปญี่ปุ่น ยุโรป โชว์ไตรมาส 3 โต 31% ล่าสุดคือการตั้งโรงงานแปรรูปเนื้อไก่เพื่อส่งออกที่ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ และจะตั้งโรงงานแปรรูปเนื้อสุกรเงินลงทุนประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปีถึงกลางปี 2563 โดยมีแผนส่งออกไป ทั้งยังเป็นสมาชิกขององค์กรระหว่างประเทศ เช่น CPTPP ซึ่งทำให้การส่งออกได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ดังนั้นการส่งออกจากเวียดนามจะช่วยเสริมการส่งออกจากไทยได้และเอื้อต่อการตัดสินใจการลงทุนของซี.พี.

ที่มา : http://www.thansettakij.com/content/357984

07/12/61

เวียดนามเร่งพัฒนาประเทศตั้งเป้าปี 2563 ต้องเป็น Smart City

ผอ.ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยในรายการ Good morning ASEAN ทาง FM 100.5 MCOT News Network ช่วงเจาะลึกอาเซียนเมื่อเช้านี้ ว่าในปี 2560 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเวียดนาม 13 ล้านคน  โดยในปี 2561-2563 มีเป้าหมายอยู่ที่ 15-17 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวเข้าทางสนามบินโฮจิมินห์มากสุด คือนักท่องเที่ยวจีน ขณะที่การลงทุนจากต่างชาติ (FDI) มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย  FDI ของเกาหลีเป็นอันดับหนึ่ง ปี 2560 แต่ล่าสุดอันดับการลงทุนของต่างชาติเปลี่ยนแปลงเป็นประเทศญี่ปุ่นเป็นอันดับหนึ่งแทน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเวียดนามและญี่ปุ่นอยู่ในกลุ่ม ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีข้อตกลงทางการค้าเสรี(FTA) กับยุโรป ทำให้ประเทศเวียดนามต้องผลักดันประเทศให้เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เพราะเวียดนามต้องการเน้นด้านแรงงานเป็นหลักในการผลิตอุตสาหกรรม เช่น เสื้อผ้า รองเท้า จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะตกงานสูงเพราะในอนาคตอาจจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้รัฐบาลเวียดนามเร่งผลักดันตั้งแต่ปี 2559 ตั้งเป้าในปี 2563 ต้องเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City)

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5c09c4e3e3f8e4e9010dceb8

06/12/61

เมียนมาส่งออกข้าวไปจีนลดลง หลังจีนปราบปรามการค้าข้าวผิดกฎหมาย

ประธานสหพันธ์ข้าวของเมียนมา เผย ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา การส่งออกข้าวของเมียนมาผ่านทางชายแดน ได้ลดลงมากกว่าสองเท่า จากการที่จีนปราบปรามการค้าข้าวผิดกฎหมาย โดยในปีนี้ เมียนมาส่งออกข้าวไปจีนเดือนละประมาณ 80,000-90,000 ตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่ส่งออกเดือนละ 2 แสนตัน

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5c08cf53e3f8e4e9040dd4ce

06/12/61

สปป ลาวตั้งเป้าส่งออกกระแสไฟฟ้าเพิ่ม

รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ของ สปป ลาว เผย สปป ลาวจะส่งออกกระแสไฟฟ้า 14,600 เมกะวัตต์ ในปี 2573 จากปัจจุบันที่ส่งออก 4,415 เมกะวัตต์ ไปยัง 5 ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรวมถึงไทย โดยปัจจุบัน สปป ลาวส่งกระแสไฟฟ้า 4,000 เมกะวัตต์ ให้ไทย พร้อมคาดว่า จะเพิ่มเป็น 7,000 เมกะวัตต์ ในปี 2563 และ 9,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5c08ca65e3f8e4e9010dcbdd

06/12/61

กัมพูชาแห่ทำธุรกิจขายน้ำเชื้อหมูกล้ามแน่น

เฟซบุ๊คของฟาร์มแห่งหนึ่งในจังหวัดบันเตีย เมียนเจย ของกัมพูชา นำเสนอภาพและข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจเลี้ยงหมู ตัดแต่งพันธุกรรม ที่กำลังเป็นที่นิยม หมูที่เลี้ยงมีร่างกายใหญ่โต กล้ามเนื้อเป็นมัด ซึ่งนอกจากจะเลี้ยงเพื่อเอาเนื้อของหมูไปขายในตลาดผลิตเบคอนแล้ว ยังขายน้ำเชื้อพ่วงชุดผสมเทียม หมูให้กลายเป็นหมูกล้ามเป็นมัด มีต้นแบบมาจากประเทศเกาหลีใต้ เพื่อรับมือกับวิกฤตขาดแคลนเนื้อหมู แม้นักวิทยาศาสตร์จะยืนยันว่า หมูตัดแต่งพันธุ์กรรมปลอดภัย แต่บรรดาผู้รักสัตว์พากันประณามว่าเป็นฝันร้ายของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์อย่างไรก็ตาม อียู ประกาศห้ามนำเข้าอาหารที่ทำจากหมูประเภทนี้ เนื่องจากวิตกด้านความปลอดภัยและคุณภาพของเนื้อหมู

ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/820597

07/12/61

อาหาร-เครื่องดื่มดันเงินเฟ้อเดือนพ.ย.แตะ 0.94%

ผอ. สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค. ) เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เดือนพ.ย.ว่า อยู่ที่ระดับ 102.40 เพิ่มขึ้น 0.94% เทียบกับพ.ย. 60 ซึ่งเป็นการสูงขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 17 และลดลง 0.22% เทียบกับต.ค. 61ส่งผลให้เงินเฟ้อ 11 เดือน เพิ่ม 1.13% เป็นผลมาจากหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่ม 0.87% ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 1.04% ขณะที่หมวดอุตสาหกรรมและปิโตรเลียมปรับตัวจากราคาน้ำมันที่ลดลง จะส่งผลอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 1.12% จากกรอบ 0.8-1.6% ถึงช่วงปลายปีจะมีมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เงินเฟ้อปรับเพิ่มมากนักอย่างไรก็ตาม  ในปี62  คาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.7-1.7%  โดยสมมติฐานคาดการณ์จีดีพีของประเทศเฉลี่ยอยู่ที่  3.5-4.5% ราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 32.50-33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/economic/680534

06/12/61

กกร. มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี61 ยังเติบโตตามกรอบ 4.4% แน่นอน

นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย ประจำเดือนธ.ค.61 ว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาสสุดท้าย น่าจะขยายตัวจากแรงหนุนมาตรการเศรษฐกิจภาครัฐและการส่งออก จึงมีมติคงตัวเลข จีดีพี ปีนี้ที่กรอบล่างคือ เติบโต 4.4% ขณะที่การส่งออกปีนี้คาดว่าจะเติบโตถึง 8% เช่นกัน ส่วนปี62 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4% หรืออยู่ในกรอบ 4.0-4.3% มีปัจจัยมาจากการลงทุนของภาคเอกชนที่จะได้รับผลดีจากการลงทุนของภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง การใช้จ่ายครัวเรือนหลังการเลือกตั้งทั่วไป บวกกับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่จีนกลับมา ส่วนการส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัวลงของเศรษฐกิจหลักๆ เพราะประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่หากคลี่คลายจะมีผลดีต่อการส่งออก สำหรับปัจจัยบวกมีเรื่องการเลือกตั้ง ส่งผลให้เงินสะพัดในช่วงต้นปีหน้า และฟื้นช่วงกลางปี62 ขณะเดียวกันช็อปช่วยชาติ จะช่วยให้ชาวสวนยางมีรายได้จากการเพิ่มจำนวนการใช้ยางล้อมากขึ้น ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนมากขึ้นประมาณ 1-1.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มจีดีพีได้ประมาณ 0.1-0.2%

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/23545

06/12/61

เงินบาทอ่อนค่า 32.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ตลาดปิดรับความเสี่ยงจากสัญญาณ ศก. เข้าสู่ Recession

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ระบุ ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (6 ธ.ค. 61) ที่ระดับ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงจาก 32.685 บาทต่อดอลลาร์ฯ ณ สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดกลับไปสู่โหมดปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของจีนกับสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจหดตัว หรือ เข้าสู่ภาวะ Recession ในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า หลังเกิดสัญญาณ Inverted Yield Curve ระหว่างบอนด์ยีลด์ 2 ปี สหรัฐฯ และบอนด์ยีลด์ 5 ปี สหรัฐฯ ขึ้น สำหรับวันนี้ ตลาดจะรอลุ้นผลการประชุม OPEC ดูว่า สมาชิกกลุ่ม OPEC จะสามารถตกลงลดกำลังการผลิตลงได้เกิน 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นเวลา 6 เดือน ในปีหน้าหรือไม่ ทว่าหากลงลด 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อาจจะไม่ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดจะรอดูตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับตัวลดราว 1 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า หากน้ำมันดิบคงคลังยังเพิ่มขึ้นเกินคาด อาจกดดันราคาน้ำมันได้ต่อ

ที่มา : http://www.thansettakij.com/content/357599

06/12/61