ชาวกัมพูชานิยมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น

รายงานฉบับปี 61 ของกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา ระบุว่า ชาวกัมพูชาเดินทางไปต่างประเทศเพื่อสันทนาการมากขึ้น โดยในเดือนม.ค-พ.ย 61 มีชาวกัมพูชาเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ 1.81 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 หรือ 1.6 ล้านคน เมื่อเทียบกับตลอดทั้งปี 60 ด้านประธานสมาคมบริษัทท่องเที่ยวของกัมพูชา กล่าวว่า ความนิยมในการเดินทางไปต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นของชาวกัมพูชา มาจากการขยายตัวกลุ่มชนชั้นกลางในกัมพูชา รายได้ที่เพิ่มขึ้น และมีมาตรฐานการครองชีพที่ดีขึ้น ดังนั้น เมื่อประชาชนเติมเต็มความต้องการขั้นพื้นฐานได้แล้ว จึงสามารถใช้จ่ายเพิ่มเติมในเรื่องสันทนาการได้

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5c6395b0e3f8e40ac98e6802

14/02/62

จีพีเอสซี ผนึกปตท.-PTTEP ศึกษาหาช่องลงทุนเมียนมา

บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ จีพีเอสซี ร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่ม ปตท. และ บมจ.สำรวจและผลิตปิโตร เลียม (PTTEP) ศึกษาการลงทุนโครงการใหม่ในเมียนมา และนำก๊าซธรรมชาติมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า รวมทั้งจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้า 2 โครงการ ประเทศ สปป.ลาว ส่วนอีก 1 โครงการ จะเป็นศูนย์ผลิตสาธารณูป การระยอง แห่งที่ 4 ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ และ ไอน้ำ 70 ตันต่อชั่วโมง

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/tpd/2953454

13/02/62

เมียนมาส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศแตะระดับ 5 ล้านคน

ปลัดกระทรวงแรงงาน การอพยพ และประชากรของเมียนมา เผย จำนวนแรงงานชาวเมียนมาที่ไปทำงานในต่างประเทศแตะระดับ 5 ล้านคน ซึ่งมีประมาณ 3 ล้านคน ที่ทำงานในไทยขณะนี้ และส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้แรงงานหนักที่ได้ค่าจ้างน้อย ขณะที่แรงงานชาวเมียนมาที่เหลือ ทำงานในมาเลเซีย สิงคโปร์ จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และประเทศอื่นๆ ทั้งในเอเชียและยุโรป

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5c63bef1e3f8e40ac88e6199

14/02/62

รมว.ต่างประเทศเวียดนาม-เกาหลีเหนือประชุมเตรียมความพร้อม ก่อนหน้าซัมมิตทรัมป์-คิม

โดยรัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ในวันที่ 27-28 ก.พ.นี้ที่กรุงฮานอยเช่น ประเด็นด้านการทูต ความมั่นคง รวมถึงประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมสุดยอดระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า เวียดนามกำลังเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับนายคิมที่จะเดินทางเยือนเวียดนามเพื่อประชุมร่วมกับนายทรัมป์ ซึ่งทั้งสหรัฐและเกาหลีเหนือต่างมีสถานเอกอัครราชทูตตั้งอยู่ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/iq37/2953882

13/02/62

อุตสาหกรรมการแพทย์ไทยรุ่งญี่ปุ่นเล็งตั้งฐานผลิตส่งขายเพื่อนบ้าน

ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือ เจโทร กรุงเทพฯ กล่าวว่าเจโทร กรุงเทพฯ ได้ร่วมกับจังหวัดฟุกุชิมะและเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น จัดทำโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างภูมิภาคของเจโทร ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางอุตสาหกรรมแบบสองทางและความร่วมมือระหว่างภูมิภาคในญี่ปุ่นและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเอื้ออำนวยการจับคู่ทางธุรกิจเพื่อพัฒนาตลาด แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ซึ่งทั้งสองเมืองมีความเชี่ยวชาญทางด้านอุตสาหกรรมทางการแพทย์และมีนโยบายส่งเสริมให้เกิดการลงทุนธุรกิจเครื่องมือแพทย์ในไทย ซึ่งการจับคู่ธุรกิจครั้งนี้ เพื่อให้ไทยเป็นฐานในการกระจายสินค้าไปประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เมียนมา กัมพูชา เป็นต้น อย่างไรก็ตามในการเข้ามาลงทุนสิ่งที่สำคัญ คือ นโยบายของภาครัฐทั้ง 2 ประเทศต้องมีมาตรการสนับสนุนเพื่อเอื้อต่อการลงทุน

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

14/02/62

กัมพูชา จีน ลงนามข้อตกลงความร่วมมือโครงการ 19 แม่น้ำโขง ลังฉาง

กัมพูชาและจีนจะลงนามในข้อตกลงความร่วมมือในโครงการพิเศษของกองทุนความร่วมมือแม่น้ำโขง – ลังฉาง ที่การต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ประธานโดย Prak Sokhonn รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีต่างประเทศของวัง Wentian เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำกัมพูชา เป็นที่น่าสังเกตว่าโครงการกัมพูชา 19 โครงการได้รับการอนุมัติในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของลุ่มแม่น้ำโขง – ลังฉางครั้งที่ 4 ที่หลวงพระบางสปป. ลาวระหว่างวันที่ 16-17 ธ.ค 61 งบประมาณรวม 7,664,556 ดอลล่าร์สหรัฐฯ  เพื่อก่อสร้าง, การศึกษา, การวิจัยและการแลกเปลี่ยน

ที่มา : http://en.freshnewsasia.com/index.php/en/localnews/12974-2019-02-13-15-25-11.html

14/02/62

คาดส่งออกปี 62 โตแค่ 4.4% ต่ำสุดรอบ 3 ปี

ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลวิเคราะห์การส่งออกไทยปี คาดโตต่ำสุดรอบ 3 ปี ขยายตัว 4.4% จากปัจจัยลบจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ ราคาน้ำมันบวกสินค้าเกษตรที่ลดลง และหากผลการเจรจาจากคู่ขัดแย้งอย่างสหรัฐฯ และจีนล้มเหลวมีการขึ้นภาษีสินค้าจาก 10% เพิ่มเป็น 25% และจีนตอบโต้ จะทำให้การส่งออกไทยหดตัว 1.0% มูลค่าหายไป 2,367 ล้านดอลลาร์ หรือ 7.52 หมื่นล้านบาท

ที่มา : https://www.posttoday.com/economy/580056

12/02/62

ไทยเบอร์ 4 ญี่ปุ่น ปักฐาน รายใหม่ชั่งใจ ไทย-เวียดนาม สูสี

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เผยผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างผู้ทำงานให้บริษัทญี่ปุ่นในประเทศฝั่งเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และออสเตรเลีย พบว่าเวียดนามเหมาะแก่การลงทุนมากที่สุด ตามด้วยอินเดีย จีน และไทยในอันดับ 4 จากอันดับ 7 ในปีก่อน โดยได้รับอานิสงส์จากการผลิตและส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ การดำเนินการของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และความชัดเจนในการเลือกตั้ง ทั้งนี้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเผยว่า ญี่ปุ่นจะขยายการลงทุนในไทยเพราะมั่นใจ ส่วน SME ใหม่ๆ จะเลือกเวียดนามก่อนเพราะสิทธิประโยชน์ในการลงทุน

ที่มา : http://www.thansettakij.com/content/386348?fbclid=IwAR2Ns6LMY5cTO9nFDH5-pQIRnfgHXra9dV-TqbRG6RUb8ehCzHzLha4KBjg

12/02/62

การนำผลผลิตสินค้าเกษตรเวียดนามเจาะตลาดที่มีมาตรฐานเข็มงวด

จากรายงานเปิดเผยว่า เวียดนามอยู่อันดับที่ 15 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าการเกษตรของโลก แต่ความสามารถในการแข่งขันยังไม่สูงมากนัก ถึงแม้หลายปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตสินค้าการเกษตรของเวียดนามสามารถบรรลุมาตรฐานคุณภาพที่เข็มงวดของตลาดสำคัญต่างๆ เช่น สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น เป็นต้น บริษัท Huy Long An เป็นหนึ่งในบริษัทเวียดนามที่ส่งออกสินค้าเกษตรโดยตรงไปยังญี่ปุ่น โดยมูลค่าการส่งออกกล้วยไปยังญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีกว่า 3.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ผู้เชียวชาญหลายท่านระบุว่า เวียดนามควรจะเจาะตลาดประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งสินค้าการเกษตรของเวียดนามต้องได้รับการรับรองมาตรฐานดังกล่าว HCAAP และ Global GAP เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ทำให้เวียดนามสามารถเข้าสู่การกระจายสินค้าและเครือข่ายค้าปลีกได้

ที่มา : http://vovworld.vn/th-TH/เศรษฐกจ/นำผลตภณฑการเกษตรเวยดนามเจาะตลาดทมมาตรฐานทเขมงวด-723071.vov

12/02/62

เมียนมาเร่งออกใบอนุญาตเปิดทางต่างชาติท่องดินแดนทับทิมโมก็อก

เมียนมาได้เร่งกระบวนการการออกใบอนุญาตเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะมาเยือนเมืองโมก็อก (Mokok) ดินแดนแห่งทับทิม ในเขตมัณฑะเลย์ ทางตอนเหนือของประเทศ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ จากที่เคยเป็นเมืองปิด แต่เมื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ไปเมื่อ ก.ย.61 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง 500 คน โดยจะดำเนินการภายในระยะเวลา 5 วัน จากเดิมใช้เวลา 1 เดือน โมก็อกเป็นที่รู้จักจากอัญมณีอย่างทับทิมและแซฟไฟล์ โดยร้อยละ 90 ของทับทิมในประเทศมาจากเมืองโมก็อกและในปัจจุบันเมียนมาพยายามที่จะนำอัญมณีของประเทศออกสู่ตลาดโลก

ที่มา : https://mgronline.com/indochina/detail/9620000015189

12/02/62