นายกฯ ฮุนเซนขอญี่ปุ่นช่วยสร้างสายไฟฟ้า

สัปดาห์ที่แล้วนายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้พบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชินโซอาเบะ เพื่อขอความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อซื้อสายส่งไฟ้ฟ้าแรงสูง ที่สามารถขนย้ายไฟฟ้า 500 กิโลวัตต์ จากชายแดนกับสปป.ลาว ไปยังพนมเปญ ซึ่งเป็นระยะทางประมาณ 350 กิโลเมต รายงานล่าสุดจากกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานแสดงให้เห็นว่าปริมาณไฟฟ้าของประเทศจะเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 16 ในปี 62 ถึง 2,870 เมกะวัตต์ จะมีการสร้าง 2,428 เมกะวัตต์ จากแหล่งในท้องถิ่นส่วนที่เหลือจะถูกนำเข้าจากไทย เวียดนามและสปป.ลาว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50610948/pm-asks-japan-for-help-to-build-power-lines/

เจ้าหน้าที่หารือเรื่องการบินตรง กับจี๋หลินของจีน

เจ้าหน้าที่การบินท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่จากจังหวัดจี๋หลินของจีนกำลังหารือเกี่ยวกับการสร้างเที่ยวบินตรงที่เชื่อมต่อพนมเปญกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ข้อเสนอดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตัวเลขจากกระทรวงการท่องเที่ยวแสดงให้เห็นว่ามี 185 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ระหว่างกัมพูชาและจีน ปีที่แล้วกัมพูชาได้รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.2 ล้านคน โดย 2 ล้านคนเป็นชาวจีน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50610947/officials-discuss-direct-flight-with-chinas-jilin/

5 เดือนแรกของปีภาคเกษตรเวียดนามเกินดุลการค้า 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

5 เดือนแรกของปีนี้ ภาคเกษตรกรรมของเวียดนามเกินดุลการค้าอยู่ที่ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากจำแนกออกเป็นสัดส่วนการส่งออกและการนำเข้า พบว่ามูลค่าการส่งออกของภาคเกษตรกรรม ป่าไม้ และสินค้าทะเล เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ารวมในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญของเวียดนามประมาณ 7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 9.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ทางหน่วยงานกระทรวงต่างประเทศ เผยว่ามูลค่าการส่งออกในภาคอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นครั้ง หลังจากการชะลอตัวตั้งแต่ต้นปีนี้ เมื่อเทียบกับปี 61 เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของจีน และผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน รวมไปถึงการระบาดของเชื้อไข้หวัดหมูสายพันธุ์แอฟริกา เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/520792/agriculture-sector-gains-trade-surplus-of-33-billion-in-five-months.html#4Y210oo7Ew7Yfmg5.97

เมียนมาเตรียมออกวีซ่าให้ 6 ประเทศเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

เมียนมาเตรียมออกวีซ่าให้กับอีก 6 ประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเพื่อเป็นการผ่อนคลายข้อจำกัดในการเข้าประเทศเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ประกอบด้วย อิตาลี สเปน เยอรมัน รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรเลีย โดยมีค่าค่าธรรมเนียมวีซ่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ผ่านมามีการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยว ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีนมาแล้ว ใน 3 เดือนแรกของปี 62 มีนักท่องเที่ยว 1.136 ล้านคน เพิ่มขึ้น 208,162 หรือ 22.4% จากช่วงเดียวกันของปี 61 ส่วนใหญ่มาจากเอเชีย เช่น จีน ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เวียดนาม อินเดีย และมาเลเซีย ส่วนยุโรปลดลง 76,736 คิดเป็น 2% จากปีที่แล้ว จากสถิติพบว่ามีนักท่องเที่ยว 4.6 ล้านคนในปี 58 จำนวน 2.91 ล้านคนในปี 59 จำนวน 3.44 ล้านคนในปี 2560 และ 3.55 ล้านคนในปี 61 และมีแนวโน้มที่จะเติบโตในปี 62

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2019-06/02/c_138111000.htm

เมียนมาขาดดุลการค้าลดลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 56

รัฐบาลสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของเมียนมา ประสบผลผลสำเร็จในการลดการขาดดุลการค้าระหว่างประเทศต่อปีเหลือ 905 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสิ้นปีงบประมาณในเดือนกันยายนคาดว่าารส่งออกจะอยู่ที่ 15.3  พันล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะอยู่ที่ 15.8 พันล้านดอลลาร์ดังนั้นการขาดดุลคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ เป็นที่น่าสังเกตว่าการส่งออกเสื้อผ้าอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านดอลลาร์ในปี 58-59 และตอนนี้เพิ่มเป็นสามเท่าเกือบ 2.56 พันล้านดอลลาร์ การส่งออกสินค้าประมงก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้ว่าปริมาณการส่งออกของภาคมีเพียง 421 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 57-58 แต่เพิ่มขึ้นเป็น 699.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 60-61 คิดเป็น 65% ในขณะที่ฟาร์มปลา กุ้ง และปู คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 63 ส่วนข้าวที่ผ่านมามีการส่งออกเพียงหนึ่งล้านตัน แต่ปี 60-61 การส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านตันและปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2.2 ล้านตัน อีกปัจจัยที่หนุนการส่งออกคือ วัว ปัจจุบันสามารถสร้างรายได้ถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/trade-deficit-falls-first-time-2013-says-govt.html

ChildFund Laos NCAWMC ร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างบทบาทของเยาวชน

คณะกรรมการแห่งชาติเพื่อความก้าวหน้าของสตรีแม่และเด็ก (NCAWMC) และ ChildFund สปป.ลาวยังคงให้ความช่วยเหลือวัยรุ่นในการสร้างความยืดหยุ่นและสร้างเส้นทางที่มีประสิทธิผลในชีวิต สิ่งนี้กระทำโดยการเพิ่มขีดความสามารถของคนหนุ่มสาวในการวางแผนเข้าถึงข้อมูลแสดงความคิดเห็นตัดสินใจและดำเนินการที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสุขภาพจิตและจิตใจ บันทึกความเข้าใจในระยะที่ 2 ของโครงการเรื่อง“ การมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนเพื่อความยืดหยุ่นในสปป.ลาว” กำหนดเป้าหมายไปยังคนหนุ่มสาวอายุ 10-19 ปีได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากกระทรวงการต่างประเทศและการค้าภายใต้โครงการ AID ของออสเตรเลียตาม ChildFund Laos ซึ่งสปป.ลาว จะเริ่มกิจกรรมโครงการในโรงเรียนมัธยมเป้าหมาย 30 แห่ง นำโดยกรอบการทำงานที่สร้างขึ้นใน 3 ประเด็นหลักของการตระหนักถึงสิทธิส่วนบุคคล การตัดสินใจและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และมองไปข้างหน้า โครงการจะดำเนินต่อไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2564

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_ChildFund.php

การเพิ่มขึ้นในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติ

กระทรวงอสังหาริมทรัพย์ และผังเมืองวางแผนอนุมัติโครงการอสังหาริมทรัพย์มูลค่ามากกว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 67.3% Mr.Tipseiha กล่าวว่าในช่วงระยะเวลา 4 เดือนมีโครงการที่ถูกเปลี่ยนเป็นโครงการสีเขียวทั้งหมด 1,420 โครงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับโครงการ 1,171 โครงการที่ได้รับอนุมัติตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนปีที่แล้ว เขาเน้นถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของภาคการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเนื่องจากกระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไหลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดย Arnaud Darc ประธานของ Eurocham กัมพูชากล่าวว่า “ เสถียรภาพทางการเมืองการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นรวมถึงการสนับสนุนจากภาคธนาคารได้กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชาทุกปีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตามที่สมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน และตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชาราคาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ต่อปีในช่วง 4 – 5 ปีโดยเฉลี่ย ราคาปีที่แล้วเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 60 ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ในขณะที่ราคาบ้านและอาคารพาณิชย์ขยายตัวประมาณ 10%

ที่มา : https://www.b2b-cambodia.com/news/rise-in-approved-real-estate-projects/

หลายบริษัทร่วมประมูลโครงการโซลาร์พาร์ค 60 เมกะวัตต์

บริษัท 26 แห่งได้เสนอราคา เพื่อพัฒนาสวนโซลาร์ขนาด 60 เมกะวัตต์ ในจังหวัดกำปงชนัง ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน นับตั้งแต่มีการเสนอราคาสาธารณะสำหรับโครงการโซลาร์พาร์คแห่งกัมพูชาในเดือนกุมภาพันธ์ บริษัท จำนวน 148 แห่ง ได้มีการยื่นคำขอ ซึ่งคำขอจะได้รับการทบทวนในรายละเอียดและผู้ชนะจะได้รับการประกาศภายในเร็วๆนี้  โซลาร์พาร์คขนาด 60 เมกะวัตต์จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานการสร้างเอง (BOO) ภายใต้ความร่วมมือของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ซึ่ง Electricite du Cambodge (EDC) จะซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงงานภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว โครงการโซลาร์พาร์คขนาด 60 เมกะวัตต์เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ใหญ่กว่าซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียซึ่งจะสร้างทั้งหมด 100 เมกะวัตต์ การผลิตไฟฟ้าจะเริ่มหลังจาก 24 เดือน จากมีการลงนามข้อตกลงกับนักพัฒนา ตามคำแถลงที่ออกโดย EDC อัตราค่าไฟฟ้าที่เสนอโดยผู้พัฒนาจะต้องน้อยกว่า $ 0.076 ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh)

ที่มา : https://www.b2b-cambodia.com/news/companies-bid-for-60-mw-solar-park-project/

ไทยเป็นผู้จำหน่ายสุกรเพียงเจ้าเดียวในกัมพูชา

การห้ามนำเข้าสุกรเนื่องจากการระบาดของไข้หวัดหมูในแอฟริกาทำให้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกแต่เพียงผู้เดียว จากข้อมูลสมาคมผู้เลี้ยงปศุสัตว์กัมพูชาระบุว่าปริมาณสุกรในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉลี่ยแล้วชาวกัมพูชาบริโภคสุกรประมาณ 5,000 ถึง 6,000 ตัวต่อวันคิดเป็น 20% ของนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ในเดือนนี้ได้สั่งห้ามการนำเข้ามากกว่า 500,000 ตัวจากเวียดนามเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมูแอฟริกันที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้

ที่มา: https://www.phnompenhpost.com/business/thailand-sole-supplier-pigs

ญี่ปุ่นหนุน สปป.ลาวในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะช่วยสปป.ลาวในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพสูง โดยการเสริมสร้างความสามารถในการบริหารและการจัดตั้งสถาบันรวมถึงการพัฒนาขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่รัฐ ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศคือนายทองหลวง ศรีสุลิและนายชินโซ อาเบะ ในโตเกียวเมื่อวานนี้ โดยการประชุมประจำปีจัดขึ้นโดยสำนักข่าวนิกเกอิทุกปี ตั้งแต่ปี พ. ศ. 2538 ซึ่งเป็นการรวบรวมผู้นำทางการเมืองเศรษฐกิจและวิชาการจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสนอความคิดเห็นได้อย่างตรงไปตรงมาและเป็นอิสระในประเด็นภูมิภาคและบทบาทของเอเชียในระดับโลก

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Japan_to_125.phpt