Archives

จากรายงานของกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เผยว่า ผู้ประกอบการสัตว์ปีกของเวียดนาม มีโอกาสสำคัญในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง เป็น ผลมาจากระดับของปริมาณการผลิตที่สูง ซึ่งตลาดเป้าหมายของผู้ประกอบการเวียดนามสำหรับเนื้อไก้ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน และฟิลิปปินส์ ส่วนตลาดที่มีศักยภาพ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ เป็นต้น แต่ทางด้านผู้เชี่ยวชาญกังวลเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารที่เข็มงวดของประเทศผู้นำเข้า ดังนั้น ผู้ประกอบการเวียดนามควรต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ทางหน่วยงานรัฐดำเนินสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและสภาพแวดล้อมต่อการทำฟาร์มของผู้ประกอบการ โดยสถิติของมูลค่าการส่งออก พบว่ามูลค่าการส่งออก สัตว์ปีกเกิน 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 61

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/519312/high-supply-gives-viet-nams-poultry-firms-chance-to-reach-export-markets.html#XoW3uohd6GtFO2H2.97

Memories Group จดทะเบียนในสิงคโปร์ ได้เข้าถือหุ้น 15.3% ใน Strand Hotel International และถือหุ้น 50% ใน Myanmar Hotel International Company หลังจากที่ได้เข้าไปบริหารโรงแรม Strand โรงแรม Inya Lake และโรงแรม G Yangon SHIL ยังถือหุ้น 80% ใน Myanmar Cruise International Ltd เจ้าของบริษัทเรือสำราญ โดยซื้อหุ้นกับ Oakframe Investment และบริษัทโฮลดิ้ง ชื่อ Sun Hung Kai & Co ของฮ่องกงในการการเข้าซื้อกิจการ โดยการออกหุ้นกู้แปลงสภาพอายุ 3 ปี มูลค่า 3.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดอกเบี้ย 5% ต่อปีให้กับ Oakframe กลุ่มเมมโมรี เป็นหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของ บริษัท เมียนมาร์เมียนมาร์อินเวสต์เมนต์ จำกัด และ Yoma Strategic Holdings ปัจจุบันการให้บริการครอบคลุม 7 แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ พุกาม ทานินทารี ขะยิ่น ย่างกุ้ง และคายาห์ ปีที่แล้วเมียนมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.55 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วจำนวน 3.44 ล้านคน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/memories-group-acquires-three-yangon-hotels.html

เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) คณะกรรมการกลางและประธานาธิบดีจีนจัดเจรจากับประธานาธิบดีสปป.ลาว ซึ่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคปฏิวัติประชาชนลาว โดยผู้นำทั้งสองตกลงที่จะเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความพยายามในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับทั้งสองประเทศและทำงานร่วมกันสำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคี หลังจากการเจรจาผู้นำทั้งสองได้ลงนามในแผนปฏิบัติการระหว่าง CPC และพรรคปฏิวัติประชาชนลาวในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตเพื่อมนุษยชาติร่วมกันสำหรับทั้งสองประเทศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Xi.php

สปป.ลาวมีจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศและต่างประเทศลดลงร้อยละ 0.5 ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าหนึ่งล้านคนที่มาเที่ยวสปป.ลาว ซึ่งจำนวนผู้มาเยือนโดยรวมลดลงเพราะประชาชนไม่แน่ใจในคุณภาพของบริการการท่องเที่ยว ที่นี่ค่าใช้จ่ายของสินค้าและที่พักใน บางจังหวัดที่เป็นที่นิยมถือว่ามีราคาแพง สปป.ลาวมีผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดมากมาย แต่มีหลายสิ่งที่รวมถึงถนนที่เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้ไม่ดี  และจำนวนผู้เข้าชมจากจีนและเวียดนามเพิ่มขึ้นเนื่องจากลาวได้โฆษณากิจกรรมสำหรับการเยี่ยมชมสปป.ลาว – จีนปี 2019 ประเทศเหล่านี้มีพรมแดนติดต่อกับสปป.ลาวและผู้คนจำนวนมากได้รับความสนใจจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเพลิดเพลินกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลที่มีผู้เข้าชม 4.5 ล้านคนในระหว่างการเยี่ยมชมสปป.ลาว – จีน ปี 2019

ที่มา : https://aecnewstoday.com/2019/lao-morning-news-for-may-2-3/

ผลผลิตประมงเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกของปี แต่ไม่ส่งผลให้การส่งออกเพิ่มขึ้นรายงานล่าสุดจากกระทรวงเกษตร ตั้งแต่เดือนมค.-มีค.ปลาน้ำจืดให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 100 ตันเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 61 เพิ่มขึ้น 18,650 ตัน ผลผลิตปลาทะเลถึง 2,630 ตันเพิ่มขึ้น 60 ตัน อย่างไรก็ตามการส่งออกปลาสดลดลง 150 ตันคิดเป็นเพียง 2,450 ตันในขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์ปลาแปรรูปหดตัว 100 ตัน แตะ 1,000 ตัน  อธิบดีกรมประมงกล่าวกับเขมรไทมส์เมื่อวันจันทร์ว่าการส่งออกที่ลดลงเป็นผลมาจากอุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่งเนื่องจากจำนวนประชากรของประเทศขยายตัว ขณะนี้รัฐบาลกำลังมองหาพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่สามารถช่วยกัมพูชาขยายภาคการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศและต่างประเทศ ปลาเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญในกัมพูชาซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 75 ของการบริโภคโปรตีนจากสัตว์ของประชากรตามรายงานขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50599047/despite-higher-yields-fish-exports-down/

จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2562 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.71 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี โดยดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนเมษายน 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2561 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.93 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน รวมไปถึงอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนเมษายน ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.09 จากเดือนที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.88 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนั้น ในส่วนของราคาเบนซินและไฟฟ้ามีผลต่อดัชนี CPI ในกลุ่มนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.31 ในเดือนเมษายน 2562 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา

ที่มา : http://en.nhandan.com.vn/business/item/7419202-cpi-during-first-four-months-at-the-lowest-in-last-three-years.html