ฟอรัมเกาหลี biz ที่กำลังจะมาถึง

ที่ประชุมสำหรับธุรกิจระหว่างกัมพูชากับเกาหลี จะจัดขึ้นที่เมืองเสียมราฐในกลางเดือนนี้ พร้อมกับการเยี่ยมชมอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีเกาหลี โดยมีการประกาศในระหว่างการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระหว่างประธานหอการค้ากัมพูชา (CCC) และประธานสมาคมการค้าระหว่างเกาหลี ทั้งนี้จุดมุ่งหมายของการประชุมสำหรับธุรกิจคือ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่าง บริษัท กัมพูชาและเกาหลี รวมถึงสมาคมการค้าระหว่างเกาหลีระบุว่าการค้าระหว่างประเทศมีมูลค่า 890 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 61

ที่มา:  https://www.khmertimeskh.com/50583380/upcoming-korea-biz-forum/

04/03/62

รอบเอเชีย กัมพูชา

รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมได้กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับ”ข่าวปลอม” เรื่องคุณภาพอากาศของกรุงพนมเปญในเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย โดย บริษัท ต่างๆที่มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการขายชุดทดสอบคุณภาพอากาศ “ มีข่าวปลอมจำนวนมากที่อ้างว่ามลพิษทางอากาศจากประเทศไทยส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศของกัมพูชาโดยมีผู้คนที่มุ่งหวังที่จะขายผลิตภัณฑ์ทดสอบคุณภาพอากาศเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

ที่มา :   หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์

04/03/62

เจ้าหน้าที่ชายแดน เรียกเก็บเงินมากเกินไป

เจ้าหน้าที่ที่ด่านชายแดนปอยเปตในจังหวัดบันเตียเมียนเจย ได้วิจารณ์อย่างกว้างขวางเนื่องจากมีการกล่าวหาว่า เรียกเก็บค่าธรรมเนียมศุลกากรที่สูงเกินไป จากผู้คนพ่อค้าและคนเฝ้าประตูที่เดินทางหรือขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไทย Som Rein พนักงานยกกระเป๋าที่ด่านชายแดนบอกกับ The Post ว่าเจ้าหน้าที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมศุลกากรที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด หากไม่ปฏิบัติตามเขาอ้างว่าจะส่งผลให้สินค้าติดขัด หัวหน้าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านชายแดน ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้กล่าวถึงการแถลงข่าวโดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่เรียกเก็บเงินจากผู้อยู่อาศัยเพียง 100 เรียล สำหรับเอกสารในแต่ละรอบ

ที่มา :  https://www.phnompenhpost.com/national/border-officials-charging-too-much

04/03/62

นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเรียกร้องให้ผู้ค้าข้าวให้ความสำคัญกับจีนและเวียดนาม

นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าผู้ส่งออกข้าวควรหันไปหาจีนและเวียดนามเพื่อพยายามกระจายตลาดส่งออกให้ห่างจากสหภาพยุโรป เนื่องจากการส่งออกไปจีนและเวียดนามเป็นกุญแจสำคัญต่อการอยู่รอดของภาคการค้าหลังจากที่อียูกำหนดภาษีศุลกากรข้าวข้าวกัมพูชาและเริ่มกระบวนการยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าดังนั้น นายกรัฐมนตรีขอให้ผู้ส่งออกให้ความสนใจในการบรรจุโควต้าที่รัฐบาลจีนมีเพื่อนำเข้าข้าวกัมพูชาซึ่งเพิ่งขยายจาก 300,000 เป็น 400,000 ตัน

ที่มา:  https://www.khmertimeskh.com/50583377/premier-urges-rice-traders-to-focus-on-china-and-vietnam/
04/03/62

เมียนมาพร้อมเดินหน้าพัฒนาแอพทางการแพทย์

MyanCare ผู้พัฒนาแอพลิเคชั่นนัดพบและให้คำปรึกษาทางการแพทย์ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา telemedicine เริ่มถูกพัฒนาขึ้นมาใช้รองรองเทคโนโลยีในหลายประเทศ เช่น แอฟริกา อินเดีย บังคลาเทศ ด้านสิงคโปร์มียอกผู้ใช้มากกว่าหนึ่งล้านคน วัตถุประสงค์ของแอพนี้เพื่อย่นระยะทาง ประหยัดระยะเวลาในการเดินทาง การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพสำหรับคนยากจนและไร้ที่พึ่งในเมียนมา WHO เผยแพทย์หนึ่งคนต้องดูแลบผู้ป่วย 2,000 คนในเขตเมือง แต่ถ้าเป็นเขตชนบทจะมีหมอเพียงคนเดียวที่ดูแลผู้ป่วยถึง 5,000 คน โดยแอพนี้จะให้บริการผ่านทางเสียง แชทข้อความ ส่วนค่าธรรมเนียมอยู่ระหว่าง 2000 – 5000 จ๊าด โดยแพทย์จะเป็นผู้กำหนดค่าธรรมเนียม ปัจจุบันมีผู้ใช้ 5,000 ราย ใน 34 เมือง คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 100,000 ราย

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myancare-leads-way-telemedicine.html

28/02/62

กัมพูชาเรียกร้องให้ปากีสถาน – อินเดียลดความรุนแรงเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ

คำแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศ ความกังวลและความตึงเครียดเป็นอย่างมากระหว่างปากีสถานและอินเดียในข้อพิพาทแคชเมียร์ เสนอให้ทั้งอินเดียและปากีสถานเปิดโต๊ะเจรจาเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดในปัจจุบันและหาวิธีแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี หลังกองทัพอากาศปากีสถานอ้างว่าได้ยิงเครื่องบินรบอินเดียสองลำลงตกในน่านฟ้าของปากีสถานและจับนักบินอินเดียได้ 2 ราย และล่าสุดนายกรัฐมนตรีปากีสถานได้ปล่อยตัวทหารอินเดีย 2 รายแล้ว ถือเป็นการลดความตึงเครียดได้ระดับหนึ่ง

ที่มา: http://www.xinhuanet.com/english/asiapacific/2019-02/28/c_137858345.htm

28/02/62

ยอดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของกัมพูชาเพิ่มขึ้น 30% ในปีที่ผ่านมา

สำนักงานวิจัยระดับโลกของสิงคโปร์ ระบุว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 27.8% ในปี 2561 หรือคิดเป็นมูลค่า 413 ล้านดอลลาร์ ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือมี 282 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างโทรทัศน์ เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นมีมูลค่ารวม 121 ล้านเหรียญ ตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีขนาดใหญ่มากในประเทศกัมพูชาและการแข่งขันเต็มไปด้วยความรุนแรง และสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพการหลีกเลี่ยงภาษีหรือสินค้าเถื่อนยังเป็นปัญหาที่รอการแก้ไขจากรัฐบาล ปีที่ผ่านมาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 7.5% โดยมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้น 1,563 ดอลลาร์จาก 1,434 ดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50582851/electronic-goods-sales-up-30-percent-last-year/

1/03/62

UN และ ญี่ปุ่นขยายความร่วมมือยะไข่ให้กับคะฉิ่นรัฐฉาน

ญี่ปุ่นและหน่วยงานสหประชาชาติลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการช่วยเหลือและพัฒนาด้านมนุษยธรรมสำหรับรัฐคะฉิ่นและรัฐยะไข่ของเมียนมา เงินจำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2561 ถูกใช้เพื่อช่วยเหลือประชาชนราวครึ่งล้านคนในรัฐยะไข่ ข้อตกลงดังกล่าวจะเอื้อต่อการกลับมาของผู้ลี้ภัยชาวยะไข่ทางตอนเหนือและสนับสนุนความเทียมของผู้หญิง โดยเริ่มเดือนเมษายน 2562 ใช้ระยะเวลา 1 ปี UNHCR กล่าวว่าภายใต้การระดมทุนครั้งใหม่ เงินจำนวน 5.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการพลัดถิ่นและสาเหตุในยะไข่ ทั้งนี้ญี่ปุ่นจะใช้เงิน 2.2 พันล้านเยน (19.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในแก้วิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมในยะไข่คะฉิ่นและฉานตอนเหนือ ด้านมนุษยธรรมและความช่วยเหลือด้านการพัฒนาในยะไข่ 1.5 พันล้านเยน นอกจากนี้งบ 540 ล้านเยน ใช้ในการสร้างบ้านและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับผู้ลี้ภัย

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/un-japan-extend-rakhine-cooperation-kachin-shan.html

27/02/62

เมียนมามีแผนเพิ่มโควตาส่งออกข้าวไปจีน

เมียนมาและจีนเตรียมหารือถึงการเพิ่มโควตาข้าวที่สามารถส่งออกไปจีน จากในปี 2559 ที่ 100,000 ตันและพยายามเพิ่มให้ได้โควตา 300,000 ตัน ภายในปีนี้ ในการส่งออกข้าวไปยังจีนผ่านการค้าชายแดน แต่ไม่เป็นทางการและรัฐบาลจีนเรียกเก็บภาษีนำเข้าข้าวจากพม่าอย่างเข้มงวด ในอนาคตโครงการ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road) เมียนมาเห็นว่าจีนควรลดภาษีนำเข้าหากต้องการทำให้การค้าเป็นทางการและสร้างความเข้มแข็งให้กับการค้าระหว่างประเทศ เมียนมาส่งออกข้าว 1.7 ล้านตัน มูลค่า 578 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเดือนเมษายนถึงธันวาคมปีที่แล้ว ทางเรือ 52% ในขณะที่มีการค้าชายแดนไปยังจีนได้ลดลงหนึ่งในสามจาก 2.5 ล้านตัน มูลค่า 780 ล้านดอลลาร์สหรัในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สาเหตุคือความต้องการบริโภคลดลง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-seeks-higher-export-quotas-china-rice-year.html

27/02/62

มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสูงถึง 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงสองเดือนแรกที่ผ่านมาในปี 62

จากรายงานของสำนักงานการลงทุนต่างประเทศเปิดเผยว่า การไหลเข้าของเม็ดเงินการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศไปยังเวียดนามในปี 62 ซึ่งมีมูลค่า 8.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พบว่าสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 2.5 เท่า ทั้งนี้ ส่วนใหญ่นักลงทุนต่างชาติลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการแปรรูปมากที่สุด รองลงมาคือ ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยี รวมไปถึงสัดส่วนของประเทศที่มีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในเวียดนามมากที่สุด คือ ฮ่องกง รองลงมาคือประเทศสิงห์โปร์ และสาธารณรัฐเกาหลี ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/506072/fdi-in-first-two-months-of-2019-reaches-85-billion.html#BVGgkDiULE1JoPt1.97

27/02/62