ทีซีพี รุกตลาด CLMV ส่ง วอริเออร์ ลุยเวียดนาม

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจทีซีพีกับสื่อมวลชนไทยในพิธีเปิดสำนักงานแห่งแรกในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ เวียดนาม โดยวางเป้าลงทุนใน บริษัท TCPVN อีก 4,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีเพื่อเสริมแกร่งด้านการตลาด การจัดจำหน่าย การวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้าที่หวังยอดขายเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หลังประสบความสำเร็จในการส่งเครื่องดื่มชูกำลังตัวใหม่ “วอริเออร์ (Warrior)” ไปเมื่อปี58 และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งการเปิดสำนักงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจ 5 ปี ที่ประกาศเมื่อปี60 ที่มุ่งสร้างยอดขายโตขึ้น 3 เท่าเป็น 100,000 ล้านบาท โดย TCPVN เป็นบริษัทต่างประเทศที่กลุ่มธุรกิจทีซีพี ถือหุ้น 100% โดยจะเป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในการร่วมกำหนดทิศทางและการขยายตลาดคาดว่าจะมียอดขายประมาณ 10,000 ล้านบาท และส่วนแบ่งในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังราว 42%

ที่มา : http://www.komchadluek.net/news/economic/353598

กลุ่มสายการบินของเวียดนามเตรียมเปิดเที่ยวบินจากจังหวัดตอนกลาง ไปหลายประเทศในเอเชีย

สื่อในเวียดนามรายงานวันนี้ว่า กลุ่มสายการบินในเวียดนาม ประกอบด้วย เวียดนาม แอร์ไลน์ เวียดเจ็ท และแบมบู แอร์เวย์ เตรียมเปิดให้บริการเที่ยวบิน จากท่าอากาศยานใน จ.บิ่ญ ดิ่ญ ทางตอนกลางของเวียดนาม ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ในเอเชีย ในปี62 ซึ่งรวมถึงจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5bfb95eae3f8e4e9020da62b

ไฟเขียวคนเวียดนามทำงานหลายประเภท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบการเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามเข้ามาทำงานตามเอ็มโอยูเพิ่มเติมตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้แรงงานสัญชาติเวียดนามสามารถทำงานในงานกรรมกรทุกประเภทกิจการได้ สำหรับสาระสำคัญของเอ็มโอยูดังกล่าว ครม.เห็นชอบให้ปรับปรุงบันทึกข้อตกลงด้านการจ้างงานของสองประเทศ การขยายประเภทงานจะเป็นการแก้ไขแรงงานที่ผิดกฎหมาย ป้องกันการค้ามนุษย์ ทำให้แรงงานสัญชาติเวียดนามทำงานด้านประมง กิจการเกี่ยวเนื่องด้านการประมง ปศุสัตว์  กิจการเกี่ยวเนื่องด้านปศุสัตว์ และกิจการก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวเป็นผลจากการหารือของกระทรวงแรงงานกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในการขยายประเภทกิจการงานที่ให้กับแรงงานสัญชาติเวียดนามที่ดำเนินการตั้งแต่ปี 2538

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

 

กัมพูชาได้รายได้ 218 ล้านเหรียญสหรัฐจากยาง

กัมพูชามีการส่งออกยางมากกว่า 160,000 ตัน ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2018 มีจำนวน 218 ล้านเหรียญสหรัฐของรายได้ตามรายงานอย่างเป็นทางการของกระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมง ตั้งแต่เดือนม.ค-ต.ค 61 กัมพูชาส่งออกยาง 161,527 ตันเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี60 ราคาเฉลี่ยยางพาราในปี61 เท่ากับ 1,355 เหรียญสหรัฐ/ตัน ลดลง 19% เมื่อเทียบกับปีก่อน กัมพูชามีพื้นที่ปลูกยางพารา 436,340 เฮกตาร์ จนถึงปัจจุบันมีการเก็บเกี่ยว 200,000 เฮกตาร์ซึ่งเท่ากับ 47% ส่วนที่เหลืออีก 220,000 เฮกตาร์ ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่อันดับ 16 ของโลก รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายในการผลิตยางพาราจำนวน 290,000 ตันภายในปี63 สำหรับการส่งออกไปยังจีน เวียดนาม สิงคโปร์และมาเลเซีย

ที่มา: http://en.freshnewsasia.com/index.php/en/12042-2018-11-26-04-00-53.html

เตรียมพัฒนา 5G TestBed ในพื้นที่ EEC

วันที่ 23 พ.ย 61 รมต.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมบริษัทยักษ์ใหญ่ 4 บริษัท ทั้งยุโรปและเอเชีย ประกอบด้วย อีริคสัน หัวเว่ย และโนเกีย และ Dassault ประเทศฝรั่งเศส เยี่ยมชมพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อหารือในประเด็นสถานที่ในการทำ 5G TestBed ซึ่งกระทรวงมีนโยบายส่งเสริมใช้เทคโนโลยี 5G ของไทย ในระยะแรกมีแผนการจัดตั้ง 5G TestBed ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศเช่น สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย Startups ผู้ประกอบการโทรคมนาคม ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์ม เป็นต้น เพื่อยกระดับไทยให้เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัล ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย

ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/819511

 

กูรูชี้อาเซียนกินยาวจากสงครามการค้า

เบน แอนด์ โค บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ระบุว่า อาเซียน ได้รับประโยชน์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน พร้อมทั้งมองว่า ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ทบทวนแผนการตั้งฐานผลิตในจีน นายชานคาร์ หุ้นส่วนของเบน แอนด์ โค มองว่าจะได้รับผลกระทบทางลบในระยะใกล้ เนื่องจากเป็นฐานส่งออกสินค้าของสหรัฐและของโลก แต่ในระยะยาว มั่นใจว่า อาเซียนจะเป็นฐานห่วงโซ่การผลิตสำหรับบริษัทที่จะกระจายแหล่งผลิตออกจากจีน แม้จะสามารถแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า แต่บริษัทต่างๆ ยังคงหันมาตั้งโรงงานผลิต เนื่องจากเริ่มและก็มีประสบการณ์ที่ดีทั้งในไทยและเวียดนาม ในแต่ละประเทศของอาเซียนมีจุดแข็งที่แตกต่างกันไป เช่น ไทย มีอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ที่แข็งแกร่ง ส่วนที่เวียดนาม เป็นแหล่งการผลิตสิ่งทอ และอิเลคทรอนิคส์

ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/819414

 

เวียดนามมีโรงงานผลิตพันธุ์กุ้งที่ได้มาตรฐานขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ หรือ OIE

จากรายงานระบุว่า กรมสัตวแพทย์สังกัดกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทได้ประกาศมติรับรองโรงงานผลิตพันธุ์กุ้งของกลุ่มบริษัทเวียดนาม-ออสเตรเลียในหมู่บ้านหย่งหญานให้ได้มาตรฐานปลอดโรคระบาดตามข้อกำหนดขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศหรือ OIE ซึ่งกระบวนการดังกล่าวดำเนินการตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปัจจุบัน เพื่อบรรลุมาตรฐาน OIE อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพื่อบรรลุเป้าหมายมูลค่าการส่งออกกุ้งที่นายกรัฐมนตรีได้วางไว้คือ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : http://vovworld.vn/th-TH/ขาวเดน/เวยดนามมโรงงานผลตพนธกงทไดมาตรฐานปลอดโรคระบาดแหงแรกตามขอกำหนดขององคการโรคระบาดสตวระหวางประเทศ-หรอ-oie-702364.vov

 

นักลงทุนชาวเอเชียหันมาสนใจโครงการผลิตและก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน

คำปราศรัยในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าและการค้าในประเทศเกาหลี รายงานประจำปีงบประมาณ 2552 บริษัท ไชน่าฮั่วหยาง จำกัด (มหาชน) รายงานประจำปีงบประมาณ 2552 บริษัท ไชน่าแคปปิตอลคอร์ปอเรชั่น จำกัด ( มหาชน) มาด้วยสิงคโปร์

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/asian-investors-eye-manufacturing-and-infrastructure-projects

 

การค้าระหว่างเมียนมาและฮ่องกงมีมูลค่า 238.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

การค้าระหว่างเมียนมากับเขตปกครองพิเศษฮ่องกง (SAR) ของจีนพุ่งขึ้น 238.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนมิ. ย. ที่ผ่านมาหรือช่วงการเปลี่ยนผ่านตั้งแต่เดือนเม.ย-ก.ย โดยการส่งออกของเมียนมาไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ประเทศมีการเปลี่ยนแปลงรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่เดือนเม.ย-ก.ย เริ่มต้น 2018-2019 ซึ่งเป็นช่องว่างในช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นเวลา 6 เดือน ในช่วงเวลานั้นเมียนมาส่งออกสินค้ามูลค่า 230 ล้านเหรียญสหรัฐไปยังฮ่องกงในขณะที่การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศจำนวน 8.5 ล้านเหรียญ เมียนมาส่งออกอัญมณี สินค้าเกษตรผลิตภัณฑ์ประมงและเสื้อผ้าให้แก่ฮ่องกงโดยเฉพาะในขณะที่นำเข้าจากอุปกรณ์โทรคมนาคม

ที่มา : http://mizzima.com/article/trade-between-myanmar-and-hong-kong-hits-usd-2385-million

การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ

และสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ให้ความสำคัญกับแนวทางการดำเนินงาน ขององค์กรเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคอมมิวินท์ครั้งที่ 11 และแ … เมื่อวันพุธที่ผ่านมารัฐบาลพม่า ได้ลง นามในแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติมีอัตราการเพิ่มขึ้น 7.93% ในขณะที่ความต้องการลดลงจาก ร้อยละ 28 ในปี 51 เป็นร้อยละ 20 ในปีที่ 58 และร้อยล 13 ในปี 60 หาจนทำการวิเคราะห์เชิงลึกหัวเรื่อง: การเติบโตทางเศรษฐกิจของสปป

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Restructure_277.php