การเมืองกดความเชื่อมั่นผู้บริโภค ต่ำสุดรอบ16เดือน

โพลหอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.อยู่ระดับ 79.2 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ต่ำสุดในรอบ 16 เดือน กังวลเสถียรภาพทางการเมืองหลังเลือกตั้ง ภาวะเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลกและกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ว่า อยู่ที่ระดับ 79.2 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ต่ำสุดในรอบ 58 เดือน อย่างไรก็ตามปัจจัยลบที่สำคัญของเดือนเม.ย.คือการปรับลดคาดการณฺ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย(จีดีพี)ของ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เหลือโต 3.8% จากเดิมที่คาดโต 4.0% หลังคาดว่าการส่งออกปีนี้จะเหลือโตแค่ 3.4% จากเดิมคาดไว้ที่ 4.5% ซึ่งเป็นผลจากทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลก รวมทั้งนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/economic/707085

ดัชนี CPI เวียดนามในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติ (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.71 นับว่าเป็นการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา และดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.31 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 2.93 ต่อปี ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพของเศรษฐกิจเวียดนาม แม้ว่าจะเผชิญกับความผันผวนของราคาสินค้าและการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเบนซิน โดยในบรรดากลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ 9 ใน 11 ประเภทมีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งประกอบด้วยกลุ่ม การขนส่ง (4.29%) ที่อยู่อาศัย และวัสดุก่อสร้าง (0.6%) อุปกรณ์ของใช้ในครัวเรือน (0.11%) กลุ่มวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว (0.1%) เครื่องดื่มและบุหรี่ (0.08%) เครื่องแต่งกาย (0.06%) การศึกษา (0.05%) การแพทย์และบริการสุขภาพ (0.01%)  สินค้าและบริการอื่นๆ (0.15%) นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ดัชนี CPI ไม่นับรวมกลุ่มอาหารสด พลังงาน การดูแลสุขภาพ และการบริการด้านการศึกษา) ในเดือนเมษายนปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.09 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม และร้อยละ 1.88 เมื่อเทียบต่อปี

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/519391/four-month-cpi-growth-lowest-in-three-years-gso.html#STCCdHRAfS3fedFg.97

ตัวเลขผู้ป่วยเมียนมา พุ่งเป็นล้านในปี 61

จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาแห่งรัฐบาลเมียนมา พบว่าผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลของรัฐในปี 2561 มีจำนวนถึง 3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 1.8 ล้านคนในปี 2556 โดยรัฐบาลจัดสรรงบฯ เพียงร้อยละ 3.65 ของงบประมาณประจำปีในการดูและด้านสุขภาพของประชากรซึ่งต่ำมากตามมาตรฐานระดับโลก ปัจจุบันอายุขัยเฉลี่ยชาวเมียนมาอยู่ที่ 64.7 ปี ซึ่งต่ำที่สุดในกลุ่มอาเซียน แต่อัตราการตายของมารดาสูงเป็นอันดับสองในอาเซียนที่ 282 ราย และต่อการตั้งครรภ์ทุกๆ 100,000 ราย จะมีผู้หญิงประมาณ 2,800 คนที่เสียชีวิตระหว่างตั้งครรภ์หรือคลอด ภาวะทุพโภชนาการเป็นที่แพร่หลายในประเทศโดยมีเด็กอายุต่ำกว่าห้าขวบหนึ่งในสามจะมีปัญหาการขาดสารอาหารในช่วงเจริญเติบโตตามที่ได้ระบุไว้ในแผนด้านสุขภาพของปี 2017 – 2027

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/number-inpatients-govt-hospitals-grows-million.html

สปป.ลาว, อาเซียนกลับมาใช้ยาแผนโบราณ

ในการประชุมอย่างต่อเนื่องของคณะทำงานที่ปรึกษาอาเซียนเรื่องมาตรฐานและคุณภาพด้านยาและผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพที่ 31 โดยผู้เข้าร่วมประชุมจะรายงานความคืบหน้าของกิจกรรมของพวกเขาและแบ่งปันแผนการในอนาคตในสนามเช่นเดียวกับการหารือการใช้งานที่ถูกต้องของข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาแผนโบราณในอาเซียน ทั้งนี้ในปี 2012 ยุทธศาสตร์การแพทย์แผนลาวแห่งชาติได้รับการอนุมัติแล้ว เป้าหมายของกลยุทธ์นี้คือการส่งเสริมการใช้พืชสมุนไพรทั้งเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพและเพื่อเพิ่มมูลค่าที่มีศักยภาพสำหรับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_Asean_101.php

กัมพูชากับผลประโยชน์มหาศาล จากโครงการ BRI ของจีน

Moody’s Investors Service มองกัมพูชาว่าได้รับการจัดอันดับคงที่ในระดับ B2 เนื่องจากเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากโครงการ Belt and Road ของประเทศจีน องค์กรบริการทางการเงินกล่าวว่า BRI เป็นการลงทุนในโครงการขนส่งและพลังงานขนาดใหญ่ที่ช่วยขยายกำลังการผลิตโดยการเติมเต็มโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ แต่ขนาดและเงื่อนไขการลงทุนของ BRI สามารถขยายความเสี่ยงในระดับมหภาคให้กับประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและนโยบายที่อ่อนแอ สำหรับประเทศที่การเงินและไม่ได้จัดสรรแหล่งเงินทุนจากโครงการ BRI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มหนี้สินในระยะยาวและดุลของการชำระเงินของประเทศนั้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50600312/cambodia-to-benefit-substantially-from-chinas-bri-moodys/

ฟาร์มสัตว์ปีกของเวียดนามมีโอกาสลงทุนไป ยังตลาดต่างประเทศ

จากรายงานของกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เผยว่า ผู้ประกอบการสัตว์ปีกของเวียดนาม มีโอกาสสำคัญในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง เป็น ผลมาจากระดับของปริมาณการผลิตที่สูง ซึ่งตลาดเป้าหมายของผู้ประกอบการเวียดนามสำหรับเนื้อไก้ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน และฟิลิปปินส์ ส่วนตลาดที่มีศักยภาพ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ เป็นต้น แต่ทางด้านผู้เชี่ยวชาญกังวลเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารที่เข็มงวดของประเทศผู้นำเข้า ดังนั้น ผู้ประกอบการเวียดนามควรต้องลงทุนด้านเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ทางหน่วยงานรัฐดำเนินสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและสภาพแวดล้อมต่อการทำฟาร์มของผู้ประกอบการ โดยสถิติของมูลค่าการส่งออก พบว่ามูลค่าการส่งออก สัตว์ปีกเกิน 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 61

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/519312/high-supply-gives-viet-nams-poultry-firms-chance-to-reach-export-markets.html#XoW3uohd6GtFO2H2.97

Memories Group เข้าซื้อ 3 โรงแรมในย่างกุ้ง

Memories Group จดทะเบียนในสิงคโปร์ ได้เข้าถือหุ้น 15.3% ใน Strand Hotel International และถือหุ้น 50% ใน Myanmar Hotel International Company หลังจากที่ได้เข้าไปบริหารโรงแรม Strand โรงแรม Inya Lake และโรงแรม G Yangon SHIL ยังถือหุ้น 80% ใน Myanmar Cruise International Ltd เจ้าของบริษัทเรือสำราญ โดยซื้อหุ้นกับ Oakframe Investment และบริษัทโฮลดิ้ง ชื่อ Sun Hung Kai & Co ของฮ่องกงในการการเข้าซื้อกิจการ โดยการออกหุ้นกู้แปลงสภาพอายุ 3 ปี มูลค่า 3.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดอกเบี้ย 5% ต่อปีให้กับ Oakframe กลุ่มเมมโมรี เป็นหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของ บริษัท เมียนมาร์เมียนมาร์อินเวสต์เมนต์ จำกัด และ Yoma Strategic Holdings ปัจจุบันการให้บริการครอบคลุม 7 แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ พุกาม ทานินทารี ขะยิ่น ย่างกุ้ง และคายาห์ ปีที่แล้วเมียนมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.55 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วจำนวน 3.44 ล้านคน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/memories-group-acquires-three-yangon-hotels.html

จีนพูดคุยกับประธานาธิบดีสปป.ลาว เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์

เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) คณะกรรมการกลางและประธานาธิบดีจีนจัดเจรจากับประธานาธิบดีสปป.ลาว ซึ่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคปฏิวัติประชาชนลาว โดยผู้นำทั้งสองตกลงที่จะเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความพยายามในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับทั้งสองประเทศและทำงานร่วมกันสำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคี หลังจากการเจรจาผู้นำทั้งสองได้ลงนามในแผนปฏิบัติการระหว่าง CPC และพรรคปฏิวัติประชาชนลาวในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตเพื่อมนุษยชาติร่วมกันสำหรับทั้งสองประเทศ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Xi.php

ย่างกุ้งระดมทุนเชดเชยเพื่อเวนคืน ที่ดินเกษตรกรกว่าสี่หมื่นล้านจ้าด

รัฐบาลย่างกุ้งระดมทุนโดยการขายที่ดินเพื่อนำมาจ่ายเงินให้กับเกษตรกร 40,000 ล้านเหรียจ้าด (26.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อชดเชยการเวนคืนที่ดิน แต่ข้อแม้คือจะขายให้กับผู้ซื้อที่จะใช้สำหรับธุรกิจเท่านั้นและไม่อนุญาตให้ซื้อเพื่อเก็งกำไร ซึ่งทางรัฐบาลมองว่าหากไม่มีการลงทุนทำธุรกิจย่างเช่น โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม การปรับปรุงขั้นพื้นฐานอย่างการขุดลอกคูน้ำ สะพาน เป็นการสร้างความเสียหายให้กับรัฐ โดยค่าชดเชยจะจ่ายตามราคาตลาดและเกษตรกรสามารถซื้อที่ดินในราคาตลาด และที่ดินดังกล่าวต้องไม่นำไปขายต่อหรือเก็งกำไร

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/yangon-raise-k40-billion-compensation-selling-land.html

ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ในย่างกุ้ง รอรับความช่วยเหลือจากญี่ปุ่น

รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาสำหรับโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเมืองย่างกุ้ง (YUMT) กระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร (MOTC) และสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ได้ร่างแผนพัฒนาสำหรับการขนส่งในเมืองย่างกุ้งจากปี 2559 ถึงปี 2578 เพื่อการขยายตัวของเมืองใหญ่และการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนวงแหวน และเครือข่ายทางรถไฟเพื่อรองรับประชากรที่จะเพิ่มเป็น สองเท่าในปี 2040 โครงการ YUMT เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่น JICA, MOTC และรัฐบาลท้องถิ่นในย่างกุ้ง โดยมีเส้นทางรถไฟ 27 กม. จากถนนเหนือ – ใต้ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองดาลา และเมืองมิงกะลาดง และ 25 กม. บนถนน East-West ที่เชื่อมต่อหล่ายธะยา และ Toekyaung Lay และสำหรับโครงการนี้รัฐบาลญี่ปุ่นให้เงินกู้ ODA ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ระยะเวลาชำระคืน 40 ปี

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/yangons-mass-rapid-transit-receive-japan-aid.html