เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ได้ร่วมอภิปรายในการสัมมนาเพื่อประชาสัมพันธ์จังหวัด บากเลียว

Thai Ambassador to Vietnam Supports Bac Lieu Province and Discusses Thailand-Vietnam Cooperation in Shrimp Industry
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2562 นายธานีแสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ได้ร่วมอภิปรายในการสัมมนาเพื่อประชาสัมพันธ์จังหวัดบากเลียว หรืองาน “Meet Bac Lieu”  ที่เมืองฮาลอง จังหวัดกว่างนิงห์ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

  1. จังหวัดกว่างนิงห์ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามและจัดการสัมมนาเพื่อนำเสนออุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้งของจังหวัดบากเลียว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเวียดนามทั้งส่วนกลางและระดับท้องถิ่น ให้พัฒนาเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้งเนื่องจากมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เหมาะสม เน้นการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อพัฒนาการเพาะพันธุ์กุ้งและเพิ่มผลผลิต ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทออสเตรเลีย เพื่อการค้าขายในประเทศ และการส่งออก
  2. เอกอัครราชทูตฯ กล่าวให้ความสำคัญกับการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-เวียดนามและความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งระหว่างกัน อีกทั้งชื่นชมความสามารถของจังหวัดต่าง ๆ ในเวียดนามในการส่งเสริมการค้าการลงทุนของจังหวัดได้อย่างสร้างสรรค์ เอกอัครราชทูตฯ ได้นำเสนอภาพรวมอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้งของไทย ซึ่งใช้เทคโนโลยีระดับสูง รักษาระบบนิเวศน์และคาดว่าจะเติบโตถึงร้อยละ 10 ในปีนี้ รวมทั้งการลงทุนทำฟาร์มกุ้งของไทยในเวียดนาม และโอกาสพัฒนาความร่วมมือและแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีด้านการเลี้ยงกุ้ง
  3. เวียดนามเป็นหนึ่งในห้าประเทศที่ส่งออกกุ้งมากที่สุดในโลก ในขณะที่ไทยส่งออกกุ้งมากเป็นหนึ่งในสิบ ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการส่งออกกุ้งระหว่างไทยกับเวียดนามด้วย
  4. เอกอัครราชทูตฯ ได้หารือกับผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ FLC เกี่ยวกับโอกาสในการเชื่อมโยงเส้นทางการบินใหม่ระหว่างจังหวัดกว่างนิงห์กับจังหวัดอุดรธานีด้วย

กัมพูชาเปิดตัว National Single Window

กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของกัมพูชาได้เปิดตัว National Single Window (NSW) เพื่อช่วยในการนำเข้าและส่งออก โดยเป็นสถานที่ที่อนุญาตให้ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการค้าและการขนส่งสามารถยื่นข้อมูลและเอกสารที่เป็นมาตรฐานเพียงจุดเดียว เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการนำเข้าหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตจะได้รับอนุญาตให้ลงทะเบียนโดยข้อมูลต่างๆจะถูกส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์เพียงครั้งเดียว ซึ่งเป้าหมายของ NSW คือการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง G2G ,G2B และ B2B โดย The General Department of Customs and Excise (GDCE) จะจัดการการวางแผนการพัฒนาและการดำเนินการของ NSW ตามนโยบายและทิศทางของรัฐบาล ซึ่ง ATIGA e-From D ซึ่งเป็นหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสำหรับการส่งออกและนำเข้าที่ใช้ภายในอาเซียน มีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งกระบวนการกวาดล้างขนส่งสินค้าลดต้นทุนประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการค้าและความสามารถในการแข่งขันระหว่างสมาชิกอาเซียนผ่าน Asean Single Window (ASW) ที่มา:https://www.khmertimeskh.com/50619318/cambodia-launches-national-single-window/

รัฐบาลสปป.ลาวจัดการปัญหาเร่งด่วน 8 ประการเพื่อกระตุ้นการพัฒนาประเทศ

รัฐบาลได้ตกลงที่จะดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 8 ประการพร้อมกับแผนการเร่งการพัฒนา ได้แก่การปรับปรุงบรรยากาศทางธุรกิจ,การแก้ไขราคาไฟฟ้า,การจัดการฟาร์มกล้วย,การควบคุมราคาสินค้า,การส่งเสริมและการจัดการการ ท่องเที่ยว,การแก้ปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดิน, โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในระหว่างการประชุมได้หารือเกี่ยวกับมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและเป้าหมายงบประมาณของรัฐในช่วงที่เหลือของปีนี้ นอกจากนี้รัฐบาลได้หารือเกี่ยวกับการรับมือกับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ การประชุมครั้งนี้มีการรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อผลักดันให้เกิดความรักชาติและกิจกรรมการพัฒนามากขึ้นและมีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คนรวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจ รัฐบาลจัดประชุมเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจมีบทบาทมากขึ้นในการพัฒนาชนบทและลดความยากจนด้วยการลงทุนในพื้นที่ชนบท จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาท้องถิ่นและสร้างโอกาสในการทำงานให้กับคนในท้องถิ่น ที่มา:http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_tackles_151.php

เมียนมางัดกลยุทธ์สู้ฟอกเงิน

กระทรวงการต่างประเทศเมียนย้ำถึงความจำเป็นในการกำกับดูแลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ระดับชาติในการต่อสู้กับการฟอกเงินและการก่อการร้ายทางการเงิน กลยุทธ์ดังกล่าวได้รับความช่วยเหลือด้านเทคนิคของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อการป้องกันที่มีประสิทธิภาพของการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ปัจจุบันมี 93 คดีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินมี 56 คดีที่แล้วเสร็จขณะที่ 15 รายอยู่ระหว่างการสอบสวน เมียนมาก่อตั้งคณะกรรมการกลางด้านการต่อต้านการฟอกเงินตั้งแต่สิงหาคม ปี 2557 โดยมีพลโท จ่อ ส่วย นั่งเป็นประธาน

ที่มา: http://www.xinhuanet.com/english/2019-06/28/c_138181923.htm

6 เดือนแรกของปี 62 GDP เวียดนามโต 6.76%

จากงานแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาของผู้อำนวยการสำนักงานสถิติทั่วไปเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม เป็นผลมาจากความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวม การส่งออกข้าวที่แข็งแกร่ง และอัตราการว่างงานที่มีแนวโน้มลดลง หากจำแนกออกเป็นภาคการผลิตอุตสาหกรรม พบว่าภาคแปรรูปและการผลิตยังคงเป็นภาคอุตสาหกรรมหลักของการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 เป็นต้น โดยภาคเกษตรกรรมป่าไม้ และประมง ต้องเผชิญกับอุปสรรคมาจากคลื่นความร้อนที่ยาวนาน ทำให้ผลผลิตในการเก็บเกี่ยวพืชพันธ์ลดลง รวมไปถึงการระบาดของไข้หวัดสุกรแอฟริกาที่ส่งผลต่อสุขภาพสุกร ในขณะเดียวกันทางรายงานของ Nikkei ระบุว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเวียดนาม (PMI) อยู่ในระดับ 52 ซึ่งสูงกว่าประเทศในแถบภูมิภาค เนื่องมาจากยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคเวียดนาม (CPI) ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.64 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับว่าเป็นการขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/522033/gdp-climbs-676-per-cent-in-six-months.html#sBbbI1Z41ylOJCVT.97

โลจิสติกส์ด่านพรมแดนห้วยโก๋นโตพุ่ง

โลจิสติกส์ด่านพรมแดนห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่านโต เผยสถิติรถเข้า-ออกด่าน ปี 62 พบรถขาเข้ารวม 14,186 คัน ส่วนรถขาออกรวม 14,885 คัน เร่งยกระดับเป็นด่านศุลกากรห้วยโก๋น กรมศุลกากรมีแผนที่จะยกระดับด่านพรมแดนห้วย ก๋น ด่านศุลกากรห้วยโก๋นในรูปแบบ One Stop Service ปัจจัยจากการคาดการณ์ว่ามูลค่าการค้า โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทางการเกษตรกับ สปป.ลาวที่มีปริมาณการขนส่งที่สูงขึ้น การพัฒนาถนนเชื่อมต่อจาก จ.น่าน ไปยังเมืองหลวงพระบาง ในเส้นทางหงสา-เชียงแมน ที่จะส่งผลให้การท่องเที่ยวมีการเติบโตขึ้นอย่าง ส่วนสถิติการค้าชายแดนด่านศุลกากรทุ่งช้าง ปี 62 ตั้งแต่เดือน ต.ค.61-พ.ค.62 นั้น มีมูลค่านำเข้ารวม 1.56 หมื่นล้านบาท และ มูลค่าส่งออกรวม 2.87 พันล้านบาท เมื่อเมียบกับสถิติการค้าชายแดน ปี 61 (ต.ค.60-ก.ย.61) อยู่ที่มูลค่านำเข้ารวม 2.15 หมื่นล้านบาท และมูลค่าส่งออกรวม 4.86 พันล้านบาท สำหรับสินค้านำเข้ามูลค่าสูงสุด 5 อันดับในปี 62 พบว่า 1.พลังงานไฟฟ้า มูลค่านำเข้า 1.39 หมื่นล้านบาท 2.แท่งฉนวนสำหรับติดตั้งสาย มูลค่า 31 ล้านบาท 3.เครื่องตรวจวัดกระแสไฟฟ้า มูลค่า 19 ล้านบาท 4.ชุดอุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ มูลค่า 17 ล้านบาท และ 5.ถังเครื่องมือ มูลค่า 9.88 ล้านบาท ขณะที่สินค้าส่งออกมูลค่าสูงสุด 5 อันดับ พบว่า 1.น้ำมันปิโตรเลียม มูลค่า 1.46 พันล้านบาท 2.ปูนซีเมนต์ มูลค่า 180 ล้านบาท 3.ท่อนและเส้นอื่นๆทำด้วยเหล็ก มูลค่า 64 ล้านบาท 4.จานเบรค มูลค่า 59 ล้านบาท และ 5.ชุดเกียร์ มูลค่า 45 ล้านบาท ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/717492

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเวียดนามสูงสุดเป็นประวัติการณ์

จากรายงานผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของสถาบันนีสเส็น (Nielsen) เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) ในไตรมาสแรกของปี 2562 เวียดนามสามารถแซงอันดับที่ 3 อย่างประเทศอินโดนีเซียได้ เป็นรองแค่ฟิลลิปปินส์ และอินเดีย ซึ่งในไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 เวียดนามมีสถิติอยู่ที่ระดับ 129 นับว่าเป็นการขยายตัวสูงที่สุดในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเวียดนามเพิ่มขึ้น มาจากความมั่งคงทางการเงินและสุขภาพที่ดีของชาวเวียดนาม ส่งผลให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนเติบโตได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการค้าส่งค้าปลีกจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/521913/viet-nam-consumer-confidence-index-rises-to-record-high.html#wDKEo1B1KLqwbxIw.97