การปฏิรูปการธนาคาร การกระตุ้นการลงทุน มีส่วนผลักดันการเติบโตมากขึ้น
จากรายงานของธนาคารโลก (World bank) จีดีพีของเมียนมาคาดว่าจะเพิ่มเป็น 6.5% ในปี 2562-2563 โดยได้รับแรงส่งจากการลงทุนภาครัฐและการเลือกตั้งในปี 2563 หลังจากนั้นจะขยายตัว 6.6% แต่ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 6.2% จาก 6.8% ในปี 2018 เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ อัตราแลกเปลี่ยนผันผวน ต้นทุนสูงขึ้น การนำเข้าสินค้าทุนวและการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวลง ล่าสุดเมียนมาได้กระตุ้นนักลงทุนต่างชาติ โดยอนุญาตให้ธนาคารต่างประเทศขยายและปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจท้องถิ่นและประกอบธุรกิจประกันภัยได้ ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะโต 6.4% ซึ่งต่ำกว่า 6.8% ในปี 2561 และมองว่าศักยภาพอยู่ในระดับต่ำเพราะการก่อสร้างที่ลดลงและปัญหาสิทธิมนุษยชนในรัฐยะไข่นอกจากนี้ยังพบความเสี่ยงจากการถอนสิทธิ GSP ของสหภาพยุโรปซึ่งเป็นคู่ค้ารายสำคัญ