นักลงทุนเปิดบัญชีใหม่มากขึ้นในเดือนมีนาคม

นักลงทุนเปิดบัญชีใหม่ในประเทศมากถึง 21,265 บัญชี ในเดือนมีนาคมซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2561 ดัชนี VN-Index สูงถึง 1,200 คะแนนตามที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ Vi Namt Nam (VSD) จำนวนรวมบัญชีบุคคลธรรมดา 21,176 บัญชีและบัญชีองค์กร 89 บัญชีในเดือนมีนาคม ตลาดเคลื่อนไหวในเชิงบวก รวมถึงดัชนี VN-Index ของตลาดหลักทรัพย์HồChí Minh ได้ถึงจุดสูงสุด 1,015 จุดซึ่งเป็นระดับสูงสุด นับตั้งแต่ตุลาคม 2561 ซึ่งส่งผลกระทบเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของตลาดส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากต้องเปิดบัญชีใหม่  นักลงทุนมักจะแห่กันไปเปิดบัญชีใหม่เมื่อ VN-Index แตะระดับสูงสุด ในเดือนมีนาคมปีที่แล้วมีการเปิดบัญชี 40,554 บัญชีซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดตลอดกาล หลังจากนั้นไม่นานเมื่อต้นเดือนเมษายน VN-Index ได้กำหนดจุดสูงสุดตลอดเวลาไว้ที่ 1,204 จุด แต่ดัชนีก็กลับตัวและปรับตัวโดยไม่แสดงแนวโน้มที่ชัดเจน ณ สิ้นไตรมาสแรกจำนวนบัญชีหลักทรัพย์ในไวตั้มมีจำนวน 2.23 ล้านบัญชี จากจำนวนนั้น 2.2 ล้านบัญชีเป็นนักลงทุนในประเทศและเกือบ 30,000 บัญชีเป็นนักลงทุนต่างชาติ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/518531/investors-open-many-new-accounts-in-march.html#gsKFVGXBzWKZAhSs.97

สหภาพการขนส่งโว แท็กซี่ท้องถิ่นเจอการแข่งขันไม่เป็นธรรมจากแอพต่างประเทศ

ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมาที่ผู้ให้บริการรถโดยสารระหว่างประเทศบุกตลาดรถแท็กซี่ในเมียนมา และปีที่ผ่านมา Uber ได้ถอนตัวออกไปคงเหลือไว้แต่ผู้ให้บริการจากสิงค์โปร์อย่าง Grab ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ในตอนนี้ ทำให้บริษัทแท็กซี่ท้องถิ่นอย่าง Hello Cabs และ Oway Ride ไม่สามารถกับแข่งขันได้ทั้งด้านทุน การบริหารและการตลาด และการได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เอื้อต่อการลงทุน ต่อมาสหภาพแรงงานคนงานขนส่งย่างกุ้ง (YDTWU) ได้เรียกร้องถึงความไม่เป็นธรรมต่อรัฐบาลเพื่อเร่งช่วยเหลือแท็กซี่ท้องถิ่น แต่ปัจจุบันหลายๆ บริษัทในเมียนมาเริ่มพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อมาตอบโจทย์อย่าง OK Taxi Myanmar และ Get Ride ซึ่งเป็น บริษัท ท้องถิ่นทั้งสองแห่งได้เปิดตัวแอพมือถือแบบธุรกิจรถยนต์ร่วมโดยสาร (Ride-hailing) ในย่างกุ้ง

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/transport-union-says-local-taxi-firms-face-unfair-competition-foreign-apps.html

จีนวางแผนลงทุนสร้างโรงงานในกัมพูชา

บริษัท GuangBo Group จากจีน วางแผนที่จะสร้างโรงงานเกี่ยวกับอุปกรณ์การศึกษา ซึ่งเป็นการลงทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกัมพูชา เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าจีนยังสนใจลงทุนในกัมพูชาที่มีเขตเศรษฐกิจพิเศษ 19 เขตที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินแก่นักลงทุนเป็นเวลา 9 สามารถเป็นเจ้าของได้ 100% และมีโอกาสส่งออกไปยังตลาดในอาเซียนสหรัฐอเมริกาและประชาคมยุโรปภายใต้สิทธิพิเศษทางการค้า ปัจจุบันกัมพูชาเร่งสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการ ลงทุน เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาผีมือแรงงาน และกฎระเบียบที่เป็นมิตรกับนักลงทุน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50595364/chinese-company-to-invest-in-plant/

ข้าวกัมพูชาไปยังสหภาพยุโรปลดลง 32%

กัมพูชาส่งออก 51,550 ตัน ไปยังสหภาพยุโรปภายในสามเดือนแรกของปี 62 ลดลงร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับ 76,760 ตันในช่วงเวลาเดียวกันในปี 61 สำนักเลขาธิการรายงานการส่งออกข้าว การลดลงของข้าวกัมพูชาไปยังตลาดสหภาพยุโรป เกิดจากภาษีของสหภาพยุโรปที่กำหนดไว้สำหรับข้าวกัมพูชาและเมียนมา ซึ่งส่งออกไปยัง 28 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ภาษีมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค 62-64 จะมีค่าใช้จ่าย 175 ยูโรต่อตันในปีแรก 150 ยูโรในปีที่สองและ 125 ยูโรในปีที่สาม รายงานระบุว่าในปี 61 ทั้งปี กัมพูชาส่งออกข้าวเกือบ 300,000 ตันไปยังยุโรปคิดเป็น 43% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด 630,000 ตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าอ้างว่ากัมพูชามีแนวโน้มที่จะสูญเสีย $ 50 ล้านต่อปี จีนและเวียดนาม ให้โควต้าจำนวน 700,000 ตัน แก่กัมพูชาท่ามกลางภาษีข้าวของสหภาพยุโรป รายงานแสดงให้เห็นว่า ข้าวของกัมพูชาไปยังจีนภายในสามเดือนแรกของปี 62 เพิ่มขึ้น 81% โดยเพิ่มขึ้นจาก 41,410 ตันเป็น 75,215 ตัน

ที่มา : http://en.freshnewsasia.com/index.php/en/localnews/13665-2019-04-10-04-36-42.html

เมียนมาส่งออกชาเขียวไปเยอรมัน

ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมมินดายา (PTC) เผย เมียนมาจะส่งออกชาเขียวอินทรีย์ไปยังเยอรมันภายในเดือนกันยายนนี้ จำนวน 1.5 ตัน ประกอบไปด้วย 2 สายพันธุ์คือ Shwe Pi Oo และ Moe โดยราคาส่งออกจะอยู่ที่ 15,000 จ้าด ต่อ 1.6 กิโลกรัม ราคาท้องถิ่นจะอยู่ที่ 12,000 จ้าด ต่อ 1.6 กิโลกรัม ส่วนทางด้านภูมิภาคตะวันออกสมาคมผู้ปลูกและผู้ขายชาชาวปะหล่องกำลังเตรียมส่งออกชาเขียวไปยังจีน คาดว่าราคาจะอยู่ที่ 15000-25000 จ้าด ต่อ 1.6 กิโลกรัม แต่ปัจจุบันพบว่ากำลังเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานเพราะค่าแรงต่ำ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-export-green-tea-germany.html

เวียดนาม-เนเธอร์แลนด์ มุ่งสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

จากรายงานของการประชุมรองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ระบุว่าหน่วยงานรัฐบาลทั้งเวียดนามและเนเธอร์แลนด์กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถร่วมมือทางการค้าได้มากขึ้น ในปัจจุบันเนเธอแลนด์เป็นผู้ลงทุนรายใหญ๋ที่สุดในเวียดนามจากภูมิภาคสหภาพยุโรป โดยมีทุนจดทะเบียน 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีบริษัทระดับโลกที่มาลงทุน ได้แก่ Heineken ,Unilever และ Shell เป็นต้น จากข้อมูลทางสถิติการค้า พบว่า มูลค่าการค้าทวีภาคี (เวียดนาม-เนเธอแลนด์) มากกว่า 7.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.6 ของมูลค่ารวมการส่งออก-นำเข้าของทั้งสองประเทศ และร้อยละ 14.6 ของมูลค่ารวมการส่งออก-นำเข้าของเวียดนามไปยังสหภาพยุโรป นอกจากนี้ ทางหน่วยงานรัฐบาลเวียดนามได้ส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เพื่อให้เนเธอแลนด์สามารถลงทุนในด้านต่างๆ อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การเกษตร ชลประทาน เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/518518/viet-nam-netherlands-look-to-boost-economic-co-operation.html#RgelRcyt4kAwOTWE.97

สองบริษัทถูกเลือกให้สร้าง ตลาดมัณฑะเลย์แห่งใหม่

Capital Development Ltd และ Mandalar Consortium Co Ltd เป็นสองบริษัทที่ได้รับเลือกให้ออกแบบและก่อสร้างตลาดมิงกาลาในย่านใจกลางเมือง เพื่อทดแทนที่ตลาดที่เสียหายจากการถูกไฟไหม้ในปี 2559 ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับร้านค้า 297 แห่ง คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างบริเวณตลาดเดิมภายในปีนี้

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/two-companies-picked-build-new-mandalay-market.html