สปป.ลาวและเวียดนามตั้งเป้าหนุนการค้าเพิ่มขึ้น 15%

รัฐบาลสปป.ลาวและเวียดนามจะหนุนการค้าสองทางอย่างน้อย 15% ในปีนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะขยายความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการเพื่อความร่วมมือสปป.ลาว – เวียดนาม กล่าวว่าการบรรลุเป้าหมายการค้าระดับทวิภาคีในปีพ. ศ. 2562 ทั้งสองฝ่ายจะต้องปรับปรุงขั้นตอนการข้ามชายแดนและจุดตรวจเพื่อประหยัดเวลา เพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัย จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการส่งเสริมการลงทุนในภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะพลังงาน เหมืองแร่และการเกษตร เพื่อเพิ่มการส่งออกจากสปป.ลาวไปยังเวียดนาม และตกลงที่จะร่วมมือกันในด้านต่างๆโดยเฉพาะด้านการศึกษาและการกีฬา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พลังงานและเหมืองแร่ รวมถึงข้อมูลวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวโครงการหลักรวมถึงการพัฒนาระบบขนส่งที่ดียิ่งขึ้น

ที่มา :   http://annx.asianews.network/content/laos-vietnam-target-15-increase-trade-92174

26/02/62

Axiata อัจฉริยะมีกำไร 67 ล้านดอลลาร์

Smart Axiata ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของกัมพูชามีกำไรสุทธิ 67.6 ล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว ลดลงเล็กน้อยจากปี 60 จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เอื้ออำนวย กำไรสุทธิของ Smart Axiata ในปี 60 อยู่ที่ 68.1 ล้านดอลลาร์ บริษัท มีรายรับเพิ่มขึ้น 7% เป็น 287.5 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ebitda กำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 6% เป็น 134.8 ล้านดอลลาร์ สมาร์ทวางแผนที่จะทำสัญญาประมาณ 80 ล้านดอลลาร์ ในค่าใช้จ่ายด้านทุนในปีนี้สำหรับการขยายเครือข่ายและเปิดใช้งานเทคโนโลยีมือถือขั้นสูง คาดว่าจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับความเป็นผู้นำข้อมูลมือถือมากขึ้น จากข้อมูลของกระทรวงโพสต์และการสื่อสารโทรคมนาคม เผยว่าจำนวนซิมการ์ดที่ลงทะเบียนให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของกัมพูชา มีจำนวน 19.3 ล้านคน ภายในสิ้นปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นเกือบ 4% จากปลายปี 60 คิดเป็นร้อยละ 120 ของประชากรทั้งหมดของกัมพูชามากกว่า 16 ล้านคน บริษัท ยังรายงานด้วยว่ามีส่วนร่วมในการจัดเก็บภาษีให้กับรัฐบาลกัมพูชาเป็นจำนวน 500 ล้านดอลลาร์

ที่มา :  https://www.phnompenhpost.com/business/smart-axiata-posts-67m-profit

27/02/62

อิออนลงทุนในกลุ่มธุรกิจการเงินในเวียดนาม

บริษัท อิออนไฟแนนเชียลเซอร์วิส (เอเอฟเอส) จำกัด เจ้าของเครือข่ายค้าปลีกอิออนของญี่ปุ่นต้องการขยายบริการทาง โดยการควบรวมและซื้อกิจการ โดยมองว่าเป็นปลายทางการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาค มีการวางแผนทุ่มงบ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศเพิ่มจำนวนห้างสรรพสินค้า 30 แห่งและสร้างงานให้กับแรงงานท้องถิ่น 50,000 คน ยอดค้าปลีกรวมของสินค้าและบริการในเวียดนาม ในปี 2018 เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากปีก่อน

ที่มา :   https://vietnamnews.vn/economy/506015/aeon-to-invest-in-vns-financial-sector.html#1EmI5RdeMDYfBE0i.97

25/02/62

สิงคโปร์ติดอันดับต้น ๆ ของการลงทุนในรัฐยะไข่

นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่อย่าง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ จีน และอินเดีย ส่วนใหญ่ลงทุนในภาคพลังงาน ส่วนนักลงทุนในท้องถิ่นลงทุนในโรงแรมและการท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสิงคโปร์เป็นอันดับต้น ๆ ในการลงทุนมากที่สุด ภายในหนึ่งเดือนมีมูลค่าจากการลงทุนรวม 14.223 พันล้านรูปี มีการจ้างงานมากกว่า 590 คน การลงทุนผลักดันให้รัฐยะไข่เป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาของเศรษฐกิจประเทศในอนาคต นอกจากนี้เขตเศรษฐกิจพิเศษยังมีส่วนสำคัญในพัฒนาทางเศรษฐกิจ โอกาส การจ้างงานและเชื่อมต่อการลงทุนกับ SMEs โดยสิงคโปร์ลงทุน มูลค่า 20.6 พันล้านเหรียญ และจีนลงทุน 20.3 พันล้านดอลลาร์ สิงคโปร์มีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศมากกว่า 26% ในเมียนมา และจีนถือหุ้น 25% ของการลงทุนต่างประเทศทั้งหมด

ที่มา :  https://elevenmyanmar.com/news/singapore-tops-the-investment-list-in-rakhine-state

25/02/62

ธุรกิจชายแดนเมียนมาร้องแก้นโยบายการค้าให้คล่องตัวขึ้น

ตัวแทนผู้ประกอบการค้าชายแดนและสภาหอการค้าชายแดนเมียนมาหารือกันเกี่ยวกับกฎระเบียบการค้าชายแดนที่ได้รับผลกระทบ อย่าง การประมงและอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ โดยอุตสาหกรรมการประมงมีการเสนอให้ร่วมมือแบบภาคีกับจีนในการเลี้ยงและส่งออกปลาดุก ซึ่งในปัจจุบันมีการห้ามเลี้ยง จับสัตว์น้ำในเขตอิรวดีและมัณฑะเลย์ ส่วนการส่งออกนำเข้าชิ้นส่วนยายยนต์นั้นต้องเจอปัญหาการนำเข้ารถที่มีการดัดแปลงมาก่อนแล้ว และจากการหารือได้มีข้อเสนอให้ป้องกันตลาดภายในประเทศจากการทุ่มตลาดโดยการขึ้นภาษีนำเข้าจากที่อยู่ในระดับต่ำเพื่อเป็นการรักษาตลาดในประเทศ และยังเสนอให้เปิดประตูชายแดนเมียนมา – จีน เพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันชาวเมียนมาที่ไปทำงานที่จีนต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 7 วัน ในการยื่นเอกสาร โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะอยู่ราวๆ 80 หยวน (15,000 จ๊าต)

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/businesses-call-policy-changes-enable-smoother-operations.html

25/02/62

มูลค่านำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคเมียนมาแตะ 1.261 พันล้านดอลลาร์

จากรายงานพบว่าระหว่างปี 61-62 ลดลง 110 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วใน 60-61 ระหว่างวันที่ 1 ต.ค 61 -15 ก.พ 62 มีการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภครวม 14.585 ล้านดอลลาร์จากภาครัฐ และ 1.247 พันล้านดอลลาร์จากภาคเอกชน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีการนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมของภาครัฐลดลง 24.682 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนภาคเอกชนลดลง 85.655 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วภาครัฐนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค มูลค่า 39.267 ล้านดอลลาร์ และการนำเข้าของเอกชนจะเป็นผลิตภัณฑ์คล้ายคลึงกันหรือแบบเดียวกัน มีมูลค่า 1.332 พันล้านดอลลาร์ รวมเป็นเงิน 1.371 พันล้านดอลลาร์

ที่มา :  http://www.mizzima.com/article/imports-consumer-goods-hit-us1261-billion

25/02/62

เมียนมาเร่งหลายโครงการแก้ปัญหาจราจร

เมียนมาเร่งสร้างหลายโครงการเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรที่แออัด โดยเฉพาะช่วงเวลาคับขัน หลายฝ่ายเสนอให้รัฐบาลควรสร้างสะพานลอยที่แยกถนนแปรและวงเวียนหันตาวดี ซึ่งการสร้างสะพานลอยจะช่วยลดปัญหาการจราจรที่แออัดและลดเวลาในการเดินทาง โดยแผนพัฒนาการก่อสร้างต่างๆ ในย่างกุ้งหนึ่งจะได้รับความช่วยเหลือจากญี่ปุ่นด้วยการปล่อยสินเชื่อสำหรับโครงการที่ปรับปรุงการจราจรตามถนนสายหลัก เช่น ถนนเปย์ ถนนเจดีย์กาบาเรย์ ถนนสแตรนด์ ถนนย่างกุ้ง – ปะเต็นและถนนปาซานกันดาตอนบน รวมทั้งการปรับพื้นพื้นผิวสีของถนน ไปจนถึงการตรวจสอบสัญญาณไฟจราจร

ที่มา :  https://www.mmtimes.com/news/multiple-projects-reduce-traffic-city.html

25/02/62

สปป.ลาว พร้อมมั้ยกับการเป็น แบตเตอรี่แห่งเอเชีย

ภายหลังจากภัยพิบัติที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน เซน้ำน้อย รัฐบาลลาวยังสร้างเขื่อนมากขึ้นแต่ก็ออกกฎระเบียบที่เข้มงวดสำหรับการสร้างและการดำเนินงานของเขื่อนเพื่อให้แน่ใจถึงความปลอดภัย โดยรัฐยืนยันว่าการลงทุนในเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำนั้นสามารถกระจายน้ำให้กับทุกภาคส่วนรวมถึงการผลิตกระแสไฟฟ้า ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นและสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ รายงานเปิดเผยว่าปี 2018 มีเขื่อนพลังน้ำ 53 แห่ง โดย 21 แห่งเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีกำลังการผลิตไม่เกิน 15 เมกะวัตต์ในขณะที่อีก 32 แห่งมีขนาดใหญ่ และจะมีเขื่อนอีก 36 แห่งที่กำลังก่อสร้างและแล้วเสร็จในปี 2563 แต่อาจมีค่าใช้จ่ายแอบแฝง เช่น สูญเสียวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อม ด้านนักลงทุนต่างชาตินั้นเห็นด้วยกับนโยบายนี้นั่นทำให้เห็นถึงอิทธิพลที่มีต่อรัฐบาล ปัจจุบัน กฟผ.ยืนยันซื้อ 1,120 เมกะวัตต์จากเขื่อนไซยะบุรี และ 269 จากเขื่อนน้ำงิบในปลายปีนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีการซื้อไฟฟ้าจากสปป.ลาวถึง 3,877 เมกะวัตต์คิดเป็นร้อยละ 9.16 ของการใช้ทั้งประเทศ

ที่มา :  http://www.nationmultimedia.com/detail/national/30364687

25/02/62