ญี่ปุ่นยังคงให้ความช่วยเหลือและกู้เงินจำนวน 43 ล้านเหรียญสหรัฐแก่กัมพูชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างกัมพูชา และเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา จะลงนามในบันทึกการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการขยายการสนับสนุนของรัฐบาลญี่ปุ่นในการดำเนินโครงการ 2 โครงการในกัมพูชา  การสนับสนุนของรัฐบาลญี่ปุ่นนั้นรวมถึงเงินกู้ยืมสูงสุดจำนวน JYP 3,599,000, OOO (ประมาณ 31.56 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อการดำเนินงานตามโครงการฟื้นฟูและปรับปรุงและระบายน้ำตะวันตกโตนเลสาบครั้งที่ 2 และให้ความช่วยเหลือจนถึงระดับสูงสุดของ JYP 1,340,000,000 (ประมาณ 11.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางไฟฟ้า (EDI) สำหรับการปรับปรุงท่าเรือ” ตามการแถลงข่าว

ที่มา :  http://en.freshnewsasia.com/index.php/en/localnews/13037-2019-02-19-03-52-47.html

19.02.62

CDC ให้ใบอนุญาตแก่ 5 โครงการด้วยการลงทุนมากกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สภาเพื่อการพัฒนาของกัมพูชา (CDC) อนุญาตให้โครงการลงทุนใหม่ 5 โครงการในกัมพูชา ด้วยการลงทุนรวมกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐและสร้างงาน 9,594  ได้แก่ โครงการสร้างโรงงานผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษทิชชู, โครงการสร้างโรงงานผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า , โครงการพัฒนาการท่องเที่ยว “TEMI” ประกอบด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาว 800 ห้องศูนย์ธุรกิจกอล์ฟบังกะโลบ้านพักตากอากาศรีสอร์ทและสวนสาธารณะ , โครงการที่สร้างโรงแรมระดับห้าดาว 300 ห้องตั้งอยู่ในสีหนุวิลล์มีเงินลงทุนประมาณ 88.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และโครงการสร้างโรงงานผลิตถุงมือทุกชนิดตั้งอยู่ที่จังหวัดกำปงสปือมีการลงทุนประมาณ 7.7 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : http://en.freshnewsasia.com/index.php/en/localnews/13046-2019-02-19-08-39-10.html

20/02/62

 

เขตศก.พิเศษรอบ3วืดเป้า

อธิบดีกรมธนารักษ์ เผยหลังจากกรมธนารักษ์เปิดประมูลสรรหาเอกชนร่วมลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) 3 จังหวัด ได้แก่ นครพนม มุกดาหาร และหนองคาย กำหนดยื่นข้อเสนอลงทุนภายในวันที่ 15 ก.พ. 62 นครพนม มีผู้ซื้อซอง 5 ราย แต่ยื่นเพียง 1 ราย คือ บริษัท เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ส่วนมุกดาหารและหนองคาย มีผู้มาซื้อซองจังหวัดละ 4 ราย แต่ทั้ง 2 จังหวัดไม่มีใครยื่นซองเลย ทั้งนี้  SEZ ที่เหลือคงไม่มีจุดขายพอที่จะดึงดูดนักลงทุน ถึงจะตั้งเป็น SEZ แต่จะให้เอกชนลงทุนผลิตอะไร ตลาดที่จะรองรับคือใคร หากผลิตเพื่อส่งออก ศักยภาพของตลาดประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ได้ใหญ่มาก หากส่งไปประเทศอื่นก็ต้องขนสินค้ากลับมาที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งมีต้นทุนค่าขนส่ง การจัดหาวัตถุดิบ ส่วนเรื่องหวังค่าแรงงานถูกวันนี้คงไม่ใช่แล้ว ที่สำคัญ ทั้งเมียนมา กัมพูชา สปป.ลาว มีนโยบายตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเช่นเดียวกับไทย และให้สิทธิประโยชน์ลด แลก แจก แถม ดีกว่าด้วย

ที่มา :  หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 21 – 24 ก.พ.62

20/02/62

ภาคการประมงของเวียดนามตั้งเป้าหมายการส่งออก 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 62

จากรายงานของประธานสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเปิดเผยว่า ภาคการประมงของเวียดนามในปีนี้จะมีโอกาสมากขึ้นในการฟื้นตัวการส่งออก โดยปลาสวาย (Tra fish) ครองส่วนตลาดหลักและยังคงรักษายอดการส่งออกในปี 61 ส่วนการส่งออกกุ้งมีสัญญาไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากภาษีการต่อต้านการทุ่มตลาดอยู่ในช่วงพิจารณา (POR 12) นอกจากนี้ ข้อตกลงหุ้นส่วนภูมิภาคแปซิฟิก (CPTPP) มีผลทำให้ภาษีนำเข้าได้เป็นศูนย์

ที่มา : http://vovworld.vn/en-US/news/fishery-sector-targets-10-billion-usd-export-in-2019-724426.vov

17/02/62

ดอกเบี้ยเงินฝากเวียดนามยังคงตัว

จากการคาดการณ์ของ Saigon Securities Inc. (SSI) มองว่าแนวโน้มจะแตกต่างจากเมื่อเดือนที่แล้วซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่าแรงกดดันจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในปี 62 เนื่องจากมีอัตราเงินเฟ้อที่สูง นโยบายการเงินที่รัดกุม การค้าทั่วโลกและสงครามเป็นตัวเร่ง จากสภาวะดังกล่าวเชื่อว่าดอกเบี้ยเงินฝากจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยทรงตัวอยู่ที่ 4.8-5.5% ต่อปี ในระยะเวลาน้อยกว่า 6 เดือน 5.5-7.5% ต่อปี ในระยะเวลา 6 ถึง 12 เดือนและ 6.8- 8.0% ต่อปี จาก 12 -13 เดือน ในช่วงตรุษจีนพบว่ามีการอัดฉีดเงินเข้าระบบ 66.87 ล้านล้านดอง (2.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 4.8-5.0% ต่อปี

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/deposit-rate-forecast-to-stay-steady-over-next-few-months/146696.vnp

16/02/62

จังหวัดจ่าวิญเพิกถอนโครงการที่ล่าช้า

จังหวัดจ่าวิญ เร่งพัฒนาทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน สภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อมการลงทุน เพื่อดึงดูดนักลงทุนและความสามารถในการแข่งขัน ปีที่ผ่านมาจังหวัดจ่าวิญที่มีพื้นที่ในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมีโครงการที่ถูกยกเลิกไป 13 โครงการ และมีโปรเจคใหม่ผุดขึ้น 89 มากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 37 โครงการ ทั้งนี้ยังให้การตอบรับตัวแทนจาก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน เยอรมนี เบลเยี่ยม รัสเซียและไทย ในการเข้ามาเพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมในการลงทุนในพื้นที่ จ่าวิญเป็นที่ตั้งของโครงการ 269 โครงการ ต่างประเทศลงทุน 39 โครงการ ทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 3.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ 257 โครงการในประเทศมูลค่า 101.72 ล้านล้านดอง (4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ)

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/tra-vinh-province-resolved-to-revoke-delayed-projects/146685.vnp

16/02/62

รัฐบาลเมียนมาขึ้นค่าไฟฟ้า

กระทรวงไฟฟ้าและพลังงาน เตรียมเสนอให้รัฐสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส) ทราบถึงความจำเป็นในการขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าก่อนที่ แต่ยังไม่ทราบอัตราใหม่และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเดือนเม.ย ที่จะถึงนี้ เพราะในปัจจุบันรัฐบาลใช้งบประมาณในการอุดหนุนการใช้ไฟฟ้าอยู่ ถือเป็นการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าเป็นครั้งแรก ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารปี 59

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/ministry-brief-mps-power-rate-hikes.html

15/02/62

สปป.ลาว จีนลงนามข้อตกลงโครงการความร่วมมือ 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รัฐบาลสปป.ลาวและจีนได้ลงนามในข้อตกลงการระดมทุนเพื่อสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ภายใต้กรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศและเอกอัครราชทูตจีนประจำสปป.ลาว ได้มีการลงนามในข้อตกลงกับกองทุนพิเศษ ปี 61 ซึ่งรัฐบาลสปป.ลาวและจีนวางแผนที่จะเบิกจ่ายในปีนี้มีมูลค่าประมาณ 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐและจะใช้ไปกับ 21 โครงการ ซึ่งรัฐบาลสปป.ลาว ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการและการกีฬา กระทรวงไปรษณีย์ โทรคมนาคม และการสื่อสาร กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้เพื่อดำเนินโครงการความร่วมมือเหล่านี้ ซึ่งจีนต้องการกระชับความสัมพันธ์กับประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อขยายความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจภายในภูมิภาคแม่น้ำโขง

ที่มา:http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos_China_ink_41.php

18/02/62

นักธุรกิจอินโดนีเซียสนับสนุนให้ทำธุรกิจในกัมพูชา

เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำกัมพูชา Sudirman Haseng สนับสนุนรัฐวิสาหกิจ (SOEs) และนักธุรกิจชาวอินโดนีเซียเริ่มทำธุรกิจและลงทุนในกัมพูชาเนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างรวดเร็ว  กัมพูชาคงสนับสนุน SOE และผู้ประกอบการชาวอินโดนีเซียเพื่อเข้าสู่กัมพูชา ยังมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับผู้ประกอบการและรัฐวิสาหกิจที่จะทำธุรกิจและลงทุนในกัมพูชา โดยเฉพาะเพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจ SOE และอินโดนีเซียเข้ามามีบทบาทและลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะโทรคมนาคมและท่อส่งก๊าซในกัมพูชา การลงทุนไม่จำเป็นต้องเป็นเงินจากอินโดนีเซียโดยปกติแล้วจะร่วมมือกับธนาคารข้ามชาติ แต่ บริษัท อินโดนีเซียที่ทำโครงการนี่ยังถือว่าเป็นการลงทุนในอินโดนีเซียเพราะดำเนินการโดย บริษัท อินโดนีเซียเท่านั้นแหล่งทางการเงินไม่จำเป็นต้องอยู่ในประเทศ ( อินโดนีเซีย)

ที่มา : https://en.antaranews.com/news/122310/indonesian-enterprises-businessmen-encouraged-to-do-business-in-cambodia

16/02/62