พาณิชย์ นำร่องตั้งกองทุนหนุนการค้าไทย-ลาว สกัดชาติมหาอำนาจรุกหนัก

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สั่งการให้สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ ITD เร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง “กองทุนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation) ไทย-สปป. ลาว” เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitation) ระหว่างไทยกับ สปป. ลาว โดยการยกระดับประสิทธิภาพด้านการขนส่งสินค้าข้ามแดน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุนให้แก่นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ไทย และ สปป.ลาว ทั้งนี้ แนวคิดการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกทางการค้าไทย-ลาว เกิดจากการได้ลงพื้นที่พบปะกับนักธุรกิจไทยที่ได้เข้าไปทำการค้าและลงทุนใน สปป.ลาว ซึ่งมักพบปัญหาหลายอย่าง เช่น ต้นทุนในการติดต่อประสานงานในการค้าขายและต้นทุนการขนส่งสินค้าข้ามแดนสูง การขนส่งสินค้าทางเรือ และการจัดการเอกสารการค้าผ่านแดน รวมถึงการขออนุญาตนำเข้าส่งออกใช้เวลานาน การจัดเก็บค่าธรรมเนียม การตรวจคนเข้าเมือง การศุลกากร และการกักกัน มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและมีต้นทุนแฝงที่ค่อนข้างสูง ปัญหาเหล่านี้ถือเป็นข้อจำกัดที่ส่งผลกระทบต่อการค้าขายระหว่างกันของไทยและสปป.ลาว

ที่มา : https://www.matichon.co.th/economy/news_2434800

NA เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาต้นทุนพลังงานไฟฟ้า

รัฐบาลสปป.ลาวถูกเรียกร้องให้แก้ไขข้อเท็จจริงที่ว่าการซื้อไฟฟ้าจากผู้ประกอบการเขื่อนมีราคาสูงเกินไปแต่ขายในราคาที่ต่ำกว่าซึ่งขัดต่อหลักการทางธุรกิจทั่วไป สมาชิกสมัชชาแห่งชาติเวียงจันทน์และรองประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติสปป.ลาว ขอให้รัฐบาลชี้แจงเรื่องนี้และหาแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้ “ เราขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหานี้ในขณะที่กำลังมองหาตลาดเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการส่งออกไฟฟ้าของสปป.ลาวเพื่อลดภาระหนี้ของประเทศ” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน กล่าวว่ารัฐบาลจะพิจารณาการลงทุนในภาคพลังงานเพื่อทำความเข้าใจสาเหตุของปัญหาให้ดีขึ้ เราต้องยึดข้อตกลงเกี่ยวกับผลประโยชน์ของชาติหากนักลงทุนบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับต้นทุนการสร้างเขื่อนจะนำมาซึ่งปัญหาระยะยาว รัฐบาลจะประเมินต้นทุนการก่อสร้างเขื่อนที่แท้จริงอีกครั้งเพื่อให้การลงทุนเกิดประสิทธิภาพ สาเหตุที่รัฐบาลเข้ามากำหนดต้นทุนการสร้างเขื่อนที่แน่นอนเนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงจะทำให้ค่าไฟฟ้าสูงซึ่งปัจจุบันความต้องการพลังงานที่คาดการณ์ไว้สูงกว่าความต้องการที่แท้จริงรัฐบาลคาดการณ์ว่าโครงการอุตสาหกรรมจะต้องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากโดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษและกิจการเหมืองแร่ ดังนั้นหากต้นทุนด้านไฟฟ้าสูงจะทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ ได้รับผลกระทบและจะมีผลต่อการเติบโตต่อเศรษฐกิจ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_NA_220.php

รัฐบาลสปป.ลาวมั่นใจเศรษฐกิจปีหน้าฟื้นตัว

รัฐบาลสปป.ลาวมองเศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 4-4.5 ในปีหน้าแม้ยังไม่มีความแน่นอนจากการสถานการณ์ COVID-19 และปัญหาทางการเงินของสปป.ลาวที่กำลังเผชิญในปัจจุบัน เพื่อบรรเทาความตึงเครียด ด้านงบประมาณ รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการดึงดูดการลงทุนภาคเอกชนเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและความพยายามลดความยากจนตามเป้าหมายแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรัฐบาลยังมีพยายามเสริมสร้างการผลิตเชิงพาณิชย์ร่วมกับอุตสาหกรรมแปรรูปตลอดจนส่งเสริมการบริการตามทางรถไฟและระเบียงเศรษฐกิจอื่น ๆ นอกจากนี้รัฐบาลจะเปิดตัวระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้ในการจัดเก็บรายได้และเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในการใช้จ่ายงบประมาณรวมถึงการดูแลควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน อัตราเงินเฟ้อ เงินสำรองต่างประเทศเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจเป้าหมายหลักประการหนึ่งของรัฐบาลในช่วงห้าปีข้างหน้าคือการติดตามการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมโดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสมยั่งยืนและมีประสิทธิผล

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_219.php

Asean Sustainable Tourism Solutions Expo กระตุ้นการท่องเที่ยวในภูมิภาค

งาน Asean Sustainable Tourism Solutions Expo ครั้งที่ 3 งานแสดงสินค้าดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญและเอกลักษณ์ของสินค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผู้เข้าร่วมงานเป็นตัวแทนของหมวดหมู่ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธีมของงานได้แก่ ของใช้ในโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พลาสติกทางเลือก พลังงาน นอกจากนี้ภายในงานยังได้มีการอภิปรายในสามหัวข้อได้แก่ “ อนาคตของการท่องเที่ยวในอาเซียนและลาว “ การเดินทางที่ปลอดภัย: ความสำคัญของสุขภาพและความปลอดภัยในพิธีสารการฟื้นตัวที่มีประสิทธิภาพ” และ“ การสร้างแรงงานการท่องเที่ยวที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น” หัวข้อที่นำมาอภิปรายในงานจะเน้นไปในเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพในอีกแง่งานแสดงสินค้าดังกล่าวเป็นแคมเปญหนึ่งที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวให้เกิดในประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้การส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt217.php

รัฐบาลสปป.ลาวประกาศลดโครงการที่ได้รับทุนเพื่อลดภาระหนี้

งบประมาณส่วนสำคัญที่จัดสรรให้สำหรับโครงการที่ได้รับทุนจากรัฐจะถูกตัดในปีหน้าเพื่อให้รัฐบาลสามารถรักษาสภาพคล่องทางการเงินได้ แต่โครงที่ยังมีความจำเป็นอย่างโครงการที่เกี่ยวข้องกับการลดความยากจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาฝีมือแรงงาน โครงการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และโครงการพัฒนาสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกจะยังได้รับการสนับสนุนต่อไป Mr. Sonexay Siphandone รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนกล่าวว่า “เราต้องจำกัดจำนวนโครงการใหม่เพื่อลดการก่อหนี้เรื้อรังและช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดทางการเงินที่เกิดขึ้นจากโครงการที่ผ่านมา” สิ่งนี้ก่อให้เกิดความกังวลภายในรัฐสภาเกี่ยวกับเป้าหมายต่างๆที่รัฐบาลจะต้องบรรลุในช่วง 5 ปีข้างหน้าเนื่องจากงบประมาณที่ลดลงสำหรับโครงการซึ่งเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของรับบาลสปป.ลาว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt217.php

สปป.ลาวอาจไม่สำเร็จการหลุดพ้นจากสถานะประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดในปี 67

รองนายกรัฐมนตรีสปป.ลาว กล่าวกับสมาชิกสมัชชาแห่งชาติว่า องค์การสหประชาชาติกำลังประเมินความเป็นไปได้ที่สปป.ลาวจะหลุดพ้นจากสถานะประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDC) ในปี 67 ซึ่งสปป.ลาวจำเป็นต้องรวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียดมากขึ้น การวิเคราะห์ผลกระทบของการระบาดอย่างละเอียดต่อการหลุดพ้นจากสถานะ LDC สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการพัฒนาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เกณฑ์ที่กำหนดโดยสหประชาชาติในการหลุดพ้นจากสถานะ LDC ที่ประเทศต่างๆจะต้องบรรลุเป้าหมายบางประการ ที่เกี่ยวข้องกับดัชนีสินทรัพย์มนุษย์ (HAI) ซึ่งประเมินเป้าหมายด้านสุขภาพและการศึกษาความเปราะบางทางเศรษฐกิจ (EVI) และรายได้ประชาชาติมวลรวม (GNI) ต่อหัว การทบทวนของสปป.ลาวในปี 62 พบว่าประเทศนั้นมีคุณสมบัติ GNI ต่อหัวและ HAI ตรงตามข้อกำหนด แต่ดัชนีความเปราะบางทางเศรษฐกิจ (EVI) ไม่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด -19 สปป.ลาวต้องเผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาหลายประการรวมถึงผลกระทบที่สำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดย คาดว่าอัตราการเติบโตจะอยู่ที่ 3.3 % ในปีนี้ แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าสปป.ลาวต้องพัฒนาพื้นที่ชนบทและขจัดความยากจนทั่วประเทศ

ที่มา :  https://laotiantimes.com/2020/11/05/laos-may-graduate-from-least-developed-country-in-2024/