คณะกรรมการป้องกันและควบคุมของ Covid-19 ขอความร่วมประชาชนในการดาเนินการป้องกัน Covid-19 อย่างเคร่งครัด

คณะกรรมการระดับชาติที่รับผิดชอบการป้องกันและควบคุมของ Covid-19 (Taskforce) ได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วประเทศดำเนินการตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีอย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยไวรัสเพิ่มขึ้นเป็น 9 คนในปัจจุบัน ทั้งนี้รัฐบาลได้กำหนดมาตรการสำคัญเพื่อจากัด การเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนจนถึงวันที่ 19 เมษายน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ต่อสู้กับ Covid-19 รวมถึงงานสาคัญอื่น ๆ มาตรการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเนื่องจากรัฐบาลเชื่อว่าหากยังมีการพบปะกันของประชาชนในระยะยาวจะทำให้มีการแพร่เชื้อไวรัสสู่ผู้อื่นได้ ทั้งนี้ปัจจุบันไม่เพียงแค่การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 เท่านั้นที่สปป.ลาวกาลังเผชิญแต่ปัญหาในเรื่องฝุ่น P.M. 2.5 ก็ยังพบว่ามีค่าเกินมาตราฐานในหลายพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณที่ติดชายแดนทางตอนเหนือของไทย ทำให้มาตราการที่ออกมาดังกล่าวจะต้องครอบคลุมในการแก้ปัญหาค่าฝุ่นที่เกินมาตราฐานด้วย รัฐบาลเชื่อว่าหากประชาชนให้ความร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้ปัญหาที่เผชิญในปัจจุบันบรรเทาลงและกลับมาฟื้นตัวได้ในอนาคต

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Taskforce.php

รัฐบาลสปป.ลาวแจ้วสถานทูตต่างประเทศในสปป.ลาวถึงมาตราการป้องกัน COVID -19

รัฐบาลสปป.ลาวได้จัดการประชุมระหว่างรัฐบาลและสถานทูตต่างประเทศ ผู้แทนทางการทูตและองค์กรระหว่างประเทศในสปป.ลาวเพื่อทำความเข้าใจและวางแผนแก้ไขปัญหาที่พวกเขาอาจเผชิญในระหว่างการปิดตัวของสปป.ลาวเพื่อต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโควิด -19 โดยในที่ประชุมมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนาย Saleumxay Kommasith เป็นประธานได้กล่าวว่า“ เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อสื่อสารกับต่างชาติที่อาศัยและทางานในสปป. ลาวในมาตรการใด ๆ ที่รัฐบาลจะดาเนินการต่อไปเพื่อตอบสนองต่อ Covid-19 โปรดทราบว่าเราจะดำเนินการผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศของเราหากรัฐบาลดำเนินมาตรการเพิ่มเติม ” คาสั่งของนายกรัฐมนตรีใหม่นี้ครอบคลุมถึงมาตรการที่เข้มงวดเกี่ยวกับการข้ามประเทศและการเดินทางภายในประเทศลาว ทั้งนี้เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชนชาวสปป.ลาวและผู้อยู่ในสปป.ลาวทุกคน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos64.php

รัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดมาตรการป้องกันไวรัส covid-19

เมื่อวันที่ 29 มีนาคมได้มีการประชุมของคณะรัฐมนตรีในการออกมาตราป้องกันภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าจะมีการปิดด่านระหว่างประเทศทั้งหมดและห้ามมิให้มีการเคลื่อนไหวสาธารณะโดยมีระยะเวลาควบคุม 3 สัปดาห์หรือมากกว่านั้นหากกรณีการแพร่ระบาดยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่จะมีบ้างอาชีพหรือบริการบ้างอย่างที่ได้รับการยกเว้นให้ยังมีการดำเนินการได้ตามปกติได้แก่ ทหาร ตำรวจ แพทย์และพยาบาล ผู้ให้บริการไฟฟ้าและน้ำประปา นักดับเพลิงตลอดจนผู้ให้บริการโทรคมนาคมและอาสาสมัครป้องกันไวรัส รวมถึงบริการด้านการขนส่งสินค้าต่างๆ ยังได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้ต่อไปเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและลดการพบปะกัน ทั้งนี้มาตราการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ประเทศไทยมีการสั่งปิดสถานประกอบต่างๆในประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดทำให้แรงงานสปป.ลาวทะยอยกลับบ้านเกิดจำนวนมากซึ่งรัฐบาลมีความกังวลว่าแรงงานที่มาจากไทยอาจมีการนำเชื้อไวรัสมาแพร่ระบาด ทำให้ต้องมีมตราการที่เข้มงวดขึ้นกว่าเก่าเพื่อป้องกันการรุกรามของไวรัส หากสถานการณ์ยังมีแนวโน้มหนักขึ้นรัฐบาลจะมีมาตราการที่เข้มข้นขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_63.php

การท่องเที่ยวสปป.ลาวที่กำลังเติบโตจากนักท่องเที่ยวจีน

กระทรวงข้อมูลวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวได้เปิดเผยตัวเลข การท่องเที่ยวล่าสุดแสดงให้เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสปป.ลาวในปี 62 มีมากขึ้น โดยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเยอะที่สุด 4.7 ล้านคนเพิ่มขึ้น 14.44% จากปี 2561 ส่วนหนึ่งของการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวในปีที่ผ่านเกิดจาก แคมเปญระหว่างประเทศลาว – ​​จีนซึ่งได้รับความร่วมมือจากจีนเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนจากประเทศจีนมาเที่ยว สปป.ลาวมากขึ้น ขณะนี้รัฐบาลได้เริ่มวางแผนสำหรับการที่จะกระตุ้นให้การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในปี 63 โดยจะมีการดำเนินการในเรื่องการให้บริการที่ดีขึ้นทั้งด้านสถานที่ท่องเที่ยวและความสะดวกสบายสำหรับการข้ามพรมแดน นอกจากนี้การรักษาระดับของค่าเงินกีบให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในปี63 โดยรัฐบาลหวังที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 4.7 ล้านคนและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 63

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_New_17.php

บริษัทขนส่งไทยระงับเส้นทางมายังสปป.ลาว

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา บริษัท ขนส่ง จำกัดประเทศไทย (บขส.) ระงับการให้บริการรถบัสระหว่างประเทศหนึ่งในนั้นคือเส้นทางจากไทยไปยังเขตรอยต่อสปป.ลาว-ไทย การระงับการเดินทางดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตราการลดความเสี่ยงในแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทำให้แรงงานสปป.ลาวหลายรายต้องตกงาน จึงมีการหลั่งไหลกับสปป.จำนวนมากในขณะเดียวกันรัฐบาลไทยมีข้อกำหนดวันที่จะปิดพรหมแดนทำให้แรงงานสปป.ลาว มีความต้องการกลับยังประเทศในสถานการณ์แบบนี้แต่ก็มีบางส่วนไม่ได้กลับไปเพราะคิดว่าตัวเองอาจมาจากกลุ่มเสี่ยงการกลับบ้านไปอาจทำให้ไปแพร่ระบาดเชื้อไวรัสในสปป.ลาวได้  ซึ่งจากมาตราการดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลต่อแรงงานสปป.ลาวในไทยแต่ยังส่งผลต่อผลประกอบของุรกิจโดยตรง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านที่ได้รับผลกระทบจากการที่นักท่องเที่ยวลดลงจนถึงปัจจุบันที่มีมาตราการดังกล่าวออกจึงตอกย้ำความย่ำแย่ของบริษัท แต่ถึงอย่างไรในช่วงสถานการณ์แบบนี้บริษัทน้อมรับทำตามมาตราการของนโยบาย

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/thailand/general/1886425/buses-to-laos-cambodia-suspended

จีนให้ความช่วยเหลือสปป.ลาวในการต่อต้าน Covid-19

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทั่วโลกและมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดเป็นวงกว้างออกไปอีก สปป.ลาวถือเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำโดยล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อ 3 คน แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ละเลยโดยมีมาตราการการป้องกันเข้มงวดขึ้นและได้รับความช่วยเหลือจากชาติพันธมิตรอย่างจีนซึ่งได้ส่งมอบชุดตรวจจับไวรัส 2,000 ชุด ชุดป้องกัน 5,000 ชุดรวมถึงหน้ากาก N95 400,000 ชุดสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการช่วยในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 นอกจากนี้หน่วยงานท้องถิ่นในประเทศจีนเช่นยูนนาน หูหนาน ฉงชิ่ง ซานตงและเซี่ยงไฮ้ได้เข้าร่วมกับสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเอเชีย – จีนพันธมิตรผู้ประกอบการจีนและได้รับการสนับสนุนจากธนาคารไอซีบีซีในเวียงจันทน์และชุมชนชาวจีนในสปป.ลาว ในการแก้ปัญหาทั้งการระบาดของไวรัสและบรรเทาผลกระทบของภาคธุรกิจที่ได้รับจากการเกิดโรคระบาด ในอีกแง่ยังเป็นการสร้างสัมพันธที่ดีต่อทั้ง 2 ประเทศอีกด้วย

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Chinese_62.php