ประมงเมียนมาห้ามส่งออกปูเล็ก

สหพันธ์ประมงเมียนมาร์ (MFF) แจ้งต่อกระทรวงเกษตรปศุสัตว์และชลประทานว่าจะห้ามการส่งออกปูที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 100 กรัม (.22 ปอนด์หรือ 3.5 ออนซ์) เพราะการส่งออกปูแบบไม่จำกัดขนาดทำให้ต้องนำเข้าปูขนาดใหญ่แต่มีขนาดเล็กกว่า ส่งผลให้เกิดการขาดแคลน ก่อนหน้านี้รัฐบาลจำกัดการส่งออกปูที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 100 กรัม และผ่อนคลายการส่งออกและผู้ผลิตส่งออกสู่ตลาดโลกมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการปูเพิ่มขึ้นและมีผลต่อการขยายพันธุ์ของปูเช่นกัน ปัจจุบันสหพันธ์ประมงเมียนมาได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศในการเพาะพันธ์ปูนิ่มในเมืองละบุตา เขตอิรวดี ปัจจุบันการเพาะเลี้ยงปูอยู่ในเมืองอย่างย่างกุ้ง ตะนินตายี และอิรวดีรวมทั้งรัฐยะไข่ โดยส่งออกไปยังยุโรปและประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน

ที่มา: https://www.mmbiztoday.com/articles/mff-moves-impose-ban-export-small-crabs

บินเมียนมาร์แอร์เวย์เริ่มเที่ยวบินตรงไปหางโจว

จากรายงานของบริษัท สนามบินย่างกุ้งซึ่งดำเนินการท่าอากาศยานย่างกุ้ง (YIA) เมียนมาร์แอร์เวย์อินเตอร์เนชั่นแนล (MAI) เปิดตัวเที่ยวบินไปหางโจวจากมัณฑะเลย์และย่างกุ้ง เที่ยวบินปฐมฤกษ์ระหว่างมั ณ ฑะเลย์และหางโจวเริ่มวันที่ 17 กรกฎาคมในขณะที่เที่ยวบินย่างกุ้ง – หางโจวเริ่มต้นวันที่ 19 กรกฎาคม โดยใช้เครื่องบิน A319 หางโจวเป็นเมืองที่สองของจีนหลังจากกวางโจว สองสายการบินคาดว่าจะมีบทบาทในการขยายการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ ปี 62 จีนจะเป็นตลาดหลักของเมียนมา และวางแผนที่จะเพิ่มเครื่องบินเป็นสองเท่าภายในสิ้นปีนี้ ตั้งแต่เมียนมาได้ผ่อนคลายวีซ่าสำหรับนักเดินทางชาวจีนเมื่อปีที่แล้วพบว่ามีชาวจีนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงจากเมียนมาไปยัง 11 เมืองของจีนรวมถึง หวู่ฮั่น ซีฉวน เซี่ยงไฮ้ ซีอาน เฉิงตู และเซินเจิ้น

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-airways-international-starts-flights-hangzhou.html

ธุรกิจชายแดนไทย – เมียนมาขยายตัว

ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ถึง  5 ก.ค. ของปีงบประมาณปัจจุบันมีมูลค่ารวม 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการค้าผ่านประตูการค้าชายแดน 17 แห่ง แบ่งเป็นการส่งออก 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการค้าสูงสุดอยู่ที่ประตูมูเซ ซึ่งมีพรมแดนติดกับจีนเป็นจำนวนเงินรวม 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยการค้าที่ด่านทิกิ ที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทยซึ่งมีมูลค่าการค้า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันเมียนมาค้าขายชายแดนกับจีน ไทย อินเดีย และบังคลาเทศ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/bigger-border-business.html

ปตท. เปิดสถานีน้ำมันแห่งแรกในเมียนมาปลายปีนี้

บริษัทพลังงานของไทย อย่างปตท. ธุรกิจค้าปลีกและน้ำมัน (PTTOR) ประกาศการก่อสร้างคลังน้ำมันและเปิดสถานีบริการน้ำมันแห่งแรกในเมียนมาภายในสิ้นปีนี้และจะสร้างคลัง น้ำมันสำหรับน้ำมันและแอลพีจีรวมถึงโรงงานเชื้อเพลิงอื่น ๆ ด้วย เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท ได้ลงนามข้อตกลงกับ บริษัท ย่อยของกลุ่ม บริษัท Kanbawza KBZ จำกัด , Brighter Energy Co Ltd และ Brighter Energy Retail Co Ltd เพื่อลงทุนในสองโครงการดังกล่าว

ที่มา : http://mizzima.com/article/ptt-open-first-petrol-station-end-year

USAID ร่วมมือสมาคมกาแฟเมียนมาช่วยผู้ผลิตในประเทศ

องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID) ร่วมมือกับสมาคมกาแฟเมียนมา (MCA) ช่วยเหลือผู้ผลิตกาแฟท้องถิ่นในการเข้าถึงตลาดกาแฟนานาชาติและการปลูกกาแฟคุณภาพสูง โดยกู้ยืมเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรกว่า 8,000 คนนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตและเพาะปลูกเพื่อให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้ ทางด้าน USAID สนับสนุน MCA ตั้งแต่ปี 2556 ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกามีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านเมียนมาไปสู่การเปิดกว้างเศรษฐกิจรวมถึงเพิ่มการค้าและการลงทุนในระดับทวิภาคีโดยใช้ห่วงโซ่คุณค่าของ USAID จำนวน 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อการพัฒนาชนบทและกิจกรรมต่างๆ

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/usaid-partnership-helps-local-coffee-producers-tap-intl-market.html

ส.ขอนแก่นบุกเมียนมา ขยายธุรกิจผลิตอาหาร

ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ลุยเมียนมา จัดตั้งบริษัทร่วมทุนดำเนินการผลิตอาหารพื้นเมืองไทยและผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป โดยลงทุนร่วมกับนายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทยเมียนมาและผู้ก่อตั้งสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเมียนมา – ไทย โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อลงทุนในกรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ภายใต้ชื่อ บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ (เมียนมา) จำกัด ทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท เนื่องจากเห็นถึงการเติบโตในตลาดผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปที่จะขยายตัวมากขึ้นในอนาคต โดยจะลงทุนในโครงการก่อสร้าง ปรับปรุงอาคารโรงงาน และติดตั้งเครื่องจักรในการผลิต เพื่อการเติบโตในระยะยาว เชื่อว่าจะทำให้บริษัทได้รับผลประโยชน์รวมทั้งโอกาสขยายตลาดและเป็นการกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดในประเทศ

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/tpd/3016099

ผลการสำรวจค่าจ้างเมียนมาเพิ่มมากกว่าครึ่งของแรงงานในอุตสาหกรรม

จากผลการสำรวจของหอการค้าและอุตสาหกรรมฝรั่งเศส – เมียนมา (CCI) พบว่าจาก 500 บริษัทใน 10 อุตสาหกรรมมีการเพิ่มต่าแรงตั้งแต่ 1 – 5% มากกว่า 54% จากบริษัททั้งหมด พบว่าแรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 11 – 15% อุตสาหกรรมการเงินเพิ่ม 1 – 5% ด้านสุขภาพ 1 – 10% ส่วนแรงงาน 42% ของแรงงานสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มถึง 6 – 10% ซึ่ง CCI เทียบกับการสำรวจของปีที่แล้วการสำรวจในปีนี้ได้ปรับปรุงการคำนวณ ค่ามัธยฐานและฐานเงินเดือนโดยเฉลี่ยทำให้ผลลัพธ์มีความแม่นยำมากขึ้น และ CCI เผยด้วยว่าการสำรวจเงินเดือนเฉพาะอุตสาหกรรมมากขึ้น เช่น การสำรวจเงินเดือนของอุตสาหกรรมโรงแรมของปี 2562

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/wage-survey-showed-more-half-workers-received-increments.html

รัฐคะยาเตรียมสร้างโรงหลอมเหล็ก

เมียนมาและจีนร่วมมือสร้างโรงหลอมโลหะมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในหลอยก่อเมืองหลวงของรัฐกะยาทางตะวันออกของเมียนมา ผอ.ฝ่ายการลงทุนและการบริหาร บริษัท (DICA) กล่าวว่า บริษัท ร่วมทุน Global Global Industrial Company (GSIC) ได้รับอนุญาตให้สร้างโรงหลอมโลหะในเขตอุตสาหกรรมหลอยก่อ สามารถสร้างงานได้ถึง 500 ตำแหน่ง ในโรงหลอมซึ่งจะใช้ในการหล่อ ดีบุก ทังสเตน และวุลแฟรม คาดว่าจะเพิ่มมูลค่าให้กับการทำเหมืองในรัฐเนื่องจากโลหะมีค่ามากขึ้นและราคาที่สูงขึ้นของวัตถุดิบ อีกทั้งรัฐบาลยังให้การสนับสนุนโครงการนี้ นับเป็นครั้งที่สองในรัฐคะยาภายหลังจากที่ บริษัท เมียนมาร์โกลเด้นโบนันซ่า ได้รับอนุญาตให้สร้างโรงหล่อ โดยร่วมมือกับ 5 บริษัทในเหมืองแห่งที่ 2 ของรัฐคะยาซึ่งมีรัฐเป็นเจ้าของโดยมี GSIC ร่วมอยู่ด้วย กำลังผลิตทั้งหมดได้ 400 ตัน ตั้งแต่ ต.ค. 61 – มิ.ย. 62 สำหรับการลงทุนอุตสาหกรรมเหล็กนั้นส่วนใหญ่เป็นเพื่อการส่งออกโดยเฉพาะ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/kayah-state-get-us50-million-metal-refinery.html

โครงการท่าเรือคาลาดันเชื่อมเมียนมา – อินเดีย เสร็จสมบูรณ์

จากข้อมูลของสถานทูตอินเดียเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ณ เมืองย่างกุ้ง การก่อสร้างท่าเรือน้ำของซิตตเวและปะและวะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการการขนส่งหลายรูปแบบระหว่างเมียนมากับรัฐบาลอินเดียในโครงการ Kaladan Multi-Modal โดยใช้งบลงทุน 484 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะเชื่อมโยงกัลกัตตาไปยังซิตตเวในรัฐยะไข่แล้วเชื่อมโยงซิตตเวผ่านเส้นแม่น้ำไปยังปะและของรัฐชินถึง เมือง Zorinpui ในรัฐมิโซรัมทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียได้แล้วเสร็จลง ทั้งนี้รัฐบาลอินเดียยังได้เชิญองค์กรหรือบริษัทที่สนในลงทุนด้านท่าเรือการซ่อมบำรุง ส่วนถนนของโครงการจากปะและวะ ถึงเมือง Zorinpui ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างซึ่งจะช่วยสนับสนุนการค้าทวิภาคีระหว่างเมียนมาและอินเดีย โครงการนี้เริ่มในปี 2551 จากการลงนามในข้อตกลงของทั้งสองประเทศ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/kaladan-projects-port-and-river-terminal-completed.html

เมียนมาอนุญาต 5 บริษัทลงทุนในประเทศ

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและบริหารบริษัท (DICA) เปิดเผยว่าที่ผ่านมาอนุญาตให้องค์กรธรกิจ วิสาหกิจการลงทุนทั้งในและต่างประเทศจำนวนห้าแห่งเข้ามาลงทุนในประเทศ ประกอบด้วยในประเทศ 5.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และต่างประเทศที่มีทุนจดทะเบียน 93.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสามารถจ้างงานได้มากกว่า 530 ตำแหน่งในท้องถิ่นของภาคการผลิต การก่อสร้าง และการบริการอื่น ๆ จากตัวเลขของ DICA มูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศ 80.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 1,725 บริษัท นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2531-2532 ถึงวันที่ 31 พ.ค.ของปีงบประมาณ 2561-2562 โดยน้ำมันและก๊าซสามารถดึงดูดการลงทุน 27.94% ของการลงทุนต่างประเทศทั้งหมดส่วนภาคพลังงาน 26.4% และภาคการผลิต 13.59% ด้านภูมิภาคอย่างย่างกุ้งดึงดูดเงินลงทุน 60% ตามด้วยมัณฑะเลย์ 30% และที่เหลือเป็นภูมิภาคอื่นๆ

ที่มา : http://www.xinhuanet.com/english/2019-07/11/c_138218102.htm