เวียดนามเผยราคาส่งออกกาแฟร่วงตามสภาพเศรษฐกิจโลก

จากรายงานของหน่วยงานด้านการเกษตรแปรรูปและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรเวียดนาม (The Agro Processing and Market Development Authority) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 ปริมาณการส่งออกกาแฟของเวียดนามอยู่ที่ 1.17 ตัน คิดเป็นมูลค่าราว 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 11.8 และ 21.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามลำดับ ซึ่งเยอรมันและสหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำเข้ากาแฟรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 13.7 และ 9 ตามลำดับ อันที่จริงแล้ว ราคากาแฟของเวียดนามที่ลดลง เป็นผลมาจากแนวโน้มของราคากาแฟทั่วโลกลดลง นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกาแฟ ระบุว่าธุรกิจกาแฟเวียดนามได้ทำการส่งออกไปยัง 80 ประเทศ ด้วยมูลค่ารวมมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 14 และร้อยละ 10.4 ของมูลค่าการส่งออกกาแฟทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ส่งออกส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะเป็นเมล็ดกาแฟ (Coffee beaens) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90 ดังนั้น กำไรที่ได้มาจะไม่ได้สามารถเทียบกับยอดมูลค่าการส่งออกได้ รวมไปถึงทางหน่วยงานฯ มองว่าราคากาแฟในช่วงระยะสั้นนั้นจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากผลผลิตกาแฟลดลงในประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ และใยระยะกลาง-ยาว จะมีความต้องการกาแฟเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการผลักดันการนำเข้ากาแฟมากขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/535429/coffee-export-prices-plummet.html#a5vyTodulqym1mml.97    

ธุรกิจก่อสร้างในเวียดนามมีทิศทางการดำเนินงานเป็นบวก ในช่วงไตรมาสที่ 3

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 ผู้ประกอบการด้านการก่อสร้างส่วนใหญ่ร้อยละ 40.9 มองว่าผลประกอบการอยู่ในระดับทรงตัว/ไม่เปลี่ยนแปลง รองลงมาร้อยละ 36.4 ธุรกิจอยู่ในช่วงยากลำบาก และร้อยละ 22.7 ธุรกิจอยู่ในระดับดีมาก ตามลำดับ ซึ่งเป็นการสำรวจธุรกิจกว่า 5,500 แห่ง ที่อยู่ในภาคการก่อสร้าง และจากการสำรวจร้อยละ 66 ของกลุ่มรัฐวิสาหกิจมองว่าสถานการณ์ธุรกิจดีขึ้น ในช่วงกรกฎาคมจนถึงเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว นอกจากนี้ ผลของการสำรวจชี้ให้เห็นว่าธุรกิจส่วนใหญ่ร้อยละ 51.3 มีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น และร้อยละ 48.7 ต้นทุนการผลิตยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหรือลดลง สำหรับความต้องการจ้างงาน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ร้อยละ 81.5 ธุรกิจยังคงไม่ต้องการเพิ่มพนักงาน และร้อยละ 18.5 ธุรกิจต้องการพนักงานน้อยลง และทางสำนักงานฯ แนะนำให้ธนาคารพาณิชย์ช่วยลดขั้นตอนการปล่อยสินเชื่อ ลดระยะเวลาในการอนุมัติสินเชื่อ และเอื้ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในการเข้าถึงเงินทุน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/construction-firms-optimistic-about-business-performance-in-q3/160483.vnp

เวียดนามเผยยอดนำเข้ารถยนต์จากจีนร่วงลง

จากรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม เปิดเผยว่าเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว การนำเข้ารถยนต์จากประเทศจีนลดลง เนื่องมาจากการยกเลิกอัตราภาษีนำเข้าในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน โดยในปีที่แล้ว เวียดนามนำเข้ารถยนต์ทุกชนิดจากจีนกว่า 1,565 คัน ลดลงร้อยละ 87 เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีปริมาณรถยนต์ราว 11,800 คัน  และคาดว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณการนำเข้ารถยนต์ของเวียดนามอยู่ที่ 900 คัน หากจำแนกประเภทรถยนต์ ระบุว่าส่วนใหญ่เวียดนามนำเข้ารถบรรทุกจากจีน ในขณะที่ ความต้องการรถยนต์ชนิดดังกล่าวเพิ่มขึ้น และเวียดนามนำเข้ารถยนต์ไม่เกิน 9 ที่นั่ง จากอาเซียน เป็นผลมาจากการได้รับประโยชน์จากอัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 0 นอกจากนี้ สัดส่วนการนำเข้ารถยนต์ของเวียดนาม ส่วนใหญ่มาจากอาเซียนร้อยละ 88.8 ในขณะที่ จีนมีเพียงร้อยละ 1.9 ทางด้านกระทรวงฯ มองว่าในปีนี้ เวียดนามนำเข้ารถยนต์ ด้วยมูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา :    https://e.vnexpress.net/news/business/industries/car-imports-from-china-crash-3981546.html

เวียดนามจำเป็นต้องต่อสัญญาตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศ

เวียดนามจำเป็นต้องต่อสัญญาตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น และให้มีการยกระดับของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทางข้อมูลของผู้อำนวยการบริษัท โจนส์ แลง ลาซาลส์ (JLL) เปิดเผยว่าการปฏิรูปกฎหมายจะพัฒนาในด้านความโปร่งใสในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาสนใจลงทุนมากยิ่งขึ้น เนื่องมาจากการหาแหล่งพื้นที่ในการลงทุนนั้น มีความยากลำบากในการพัฒนา และลงทุนในอีกหลายปีข้างหน้า ซึ่งทางหน่วยงานรัฐฯ ได้มองเห็นถึงประเด็นดังกล่าว และดำเนินในการปรับปรุงกรอบของกฎหมายการลงทุนในตลาดอสังหาฯ ในขณะที่ นักเศรษฐศาสตร์ Nguyen Tri Hieu ระบุว่าธุรกิจในท้องถิ่นได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจให้ดีมากขึ้น เพื่อจะเข้าในตลาดหลักทรัพย์ และร่วมมือกับกองทุนต่างชาติ รวมไปถึงต่อยอดโครงการให้ประสบความสำเร็จ แสดงให้เห็นว่าบริษัทอสังหาฯในประเทศ จำเป็นต้องมีเงินทุนจากต่างชาติ นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติของสำนักงานลงทุนต่างชาติ ระบุว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ นักลงทุนต่างชาติมีความสนใจที่จะลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและแปรรูปมากที่สุด ด้วยมูลค่า 15.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติรวม รองลงมาภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคการค้าปลีกและค้าส่ง ตามลำดับ

ที่มา :    https://en.vietnamplus.vn/vietnam-needs-to-renew-property-market-to-lure-more-foreign-capital/160437.vnp

เวียดนามเผยยอดขายรถยนต์ดิ่งลง ในเดือนสิงหาคม

จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์เวียดนาม (VAMA) เปิดเผยว่าในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ลดลงร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนที่แล้ว ด้วยปริมาณรถยนต์ 21,480 คัน ทางด้านยอดขายรถยนต์ทุกประเภทลดลงร้อยละ 21 โดยแบ่งออกเป็นประเภทยานยนต์ ดังนี้ รถยนต์ที่นั่ง (Passenger Car) รถยนต์เชิงพาณิชย์ (Commercial Ones) รถยนต์เฉพาะกิจ (Special use-vehicles) ลดลงร้อยละ 21, 12, และ 37 ตามลำดับ โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หากแยกประเภทรถยนต์ พบว่ารถยนต์ที่นั่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ในขณะที่ ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ และรถยนต์ใช้งานเฉพาะด้าน (Special Purpose Vehicle) ลดลงร้อยละ 1.6 และ 28 ตามลำดับ ซึ่งบริษัทรถยนต์ “THACO” ประสบความสำเร็จในการขายรถยนต์ในช่วงเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 5,975 คัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29.3 ของส่วนแบ่งการตลาดรวม รองลงมาโตโยต้า ฟอร์ด และฮอนด้า ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ยอดขายดังกล่าวไม่ได้สะท้อนถึงอำนาจในการซื้อยานยนต์ของประเทศ เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวยังไม่ได้รวมยอดขายของผู้ผลิตรายอื่น ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของ VAMA นอกจากนี้ ภายในงานมอเตอร์โชว์ ปี 2562 นับว่าเป็นโอกาสอันดีของผู้บริโภคในการเลือกซื้อรถยนต์ที่มีชื่อเสียง และสามารถเข้าถึงการส่งเสริมการตลาดได้

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/automobile-sales-decrease-in-august-403009.vov

เวียดนามเผยยอดมูลค่าการส่งออกผักผลไม้ 2.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากข้อมูลของสำนักงานเกษตรกรรมแปรรูป และการส่งเสริมการตลาด (Agrotrade) ภายใต้กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการส่งออกผักผลไม้ของเวียดนามอยู่ที่ 2.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 5.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศจีนยังคงเป็นผู้นำเข้าผักผลไม้รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70.5 ของมูลค่าการส่งออกผักผลไม้ของเวียดนามโดยรวม ด้วยมูลค่า 1.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รองลงมาสหรัฐอเมริกาที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 ด้วยมูลค่า 84.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ตามลำดับ นอกจากนี้ ทางด้านสำนักงานเกษตรแปรรูปฯ (Agrotrade) คาดว่าสถานการณ์การส่งออกจะเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เนื่องมาจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก ความตึงเครียดของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจของการค้าและการลงทุน เป็นต้น

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7908002-fruit-veg-exports-reach-us$2-53-billion-in-eight-months.html