นทท. แห่จอง โรงแรม-เกสต์เฮาส์ ต้อนรับเทศกาลตะจานของเมียนมา
นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและนักท่องเที่ยวในประเทศจำนวนมากแห่จองห้องพักโรงแรมและเกสต์เฮาส์บนชายหาดงาปาลี รัฐยะไข่ สำหรับในช่วงวันหยุดเทศกาลตะจาน (เทศกาลสงกรานต์ของเมียนมา) ในช่วงเดือนเมษายน 2566 ที่จะมาถึง หาดงาปาลีเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมียนมา และคาดว่าจะคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาลตะจาน ตลอด 10 วัน โดยนาย U Tin Htut ผู้อำนวยการฝ่ายโรงแรมและการท่องเที่ยวของรัฐยะไข่ คาดการณ์ว่า ธุรกิจโรงแรมจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้วเนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นในช่วงวันหยุดมากขึ้น หลังจากสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลายเป็นปกติ นอกจากนี้ ยังได้ฝากให้นักท่องเที่ยวช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเพื่อให้หาดงาปาลีสะอาดและน่าท่องเที่ยวอยู่เสมอ
เดือนมค.-ก.พ.66 เมียนมาส่งแรงงานไปเกาหลีใต้ ผ่านโครงการ EPS ทะลุกว่า 1,000 คน
สถานทูตเมียนมาในกรุงโซล เผย ในเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีแรงงานเมียนมาถูกส่งไปยังเกาหลีใต้ผ่านโครงการระบบอนุญาตการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) จำนวน 1,040 คน ประกอบไปด้วยแรงงานฝ่ายผลิต 345 คน แรงงานฝ่ายผลิตเฉพาะทางแบบ CBT 28 คน แรงงานที่กลับเข้าไปทำงานในสถานประกอบการ/โรงงานเดิมที่เคยทำ 236 คน เกษตรและปศุสัตว์ 374 คน และการก่อสร้าง 57 คน โดยรัฐบาลเกาหลีใต้เปิดรับแรงงานเมียนมาอีกครั้งอย่างหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งปี 2565 ที่ผ่านมามีการส่งแรงงานไปเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม จำนวน 1,293 คน เดือนกันยายน จำนวน 1,169 คน เดือนตุลาคม จำนวน 728 คน และเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม อีก 599 คน
รัสเซียอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยว 6 เดือน สำหรับพลเมืองเมียนมา
กระทรวงการต่างประเทศของเมียนมา เปิดเผยว่า สหพันธรัฐรัสเซียอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยว 6 เดือนสำหรับพลเมืองของ 19 ประเทศ รวมไปถึงเมียนมา โดยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูสตินของรัสเซียได้ลงนามในกฤษฎีกาของรัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียฉบับที่ 372-r ที่ระบุว่าพลเมืองของ 19 ประเทศที่ได้อนุมัติวีซ่าท่องเที่ยวจะมีระยะเวลานานถึง 6 เดือน โดยประเทศที่ได้รับการอนุมัติวีซ่า ได้แก่ บาห์เรน บรูไน อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน กัมพูชา จีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี คูเวต สปป.ลาว มาเลเซีย เม็กซิโก เมียนมา โอมาน ซาอุดีอาระเบีย เซอร์เบีย ไทย เตอร์กิเย และฟิลิปปินส์
ราคาอ้างอิงน้ำมันปาล์มขายส่งตลาดย่างกุ้ง พุ่งขึ้น ! ในสัปดาห์นี้
คณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันเพื่อการบริโภคของเมียนมา เผย ราคาอ้างอิงน้ำมันปาล์มขายส่งของเมียนมา (วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566) ณ ตลาดย่างกุ้ง อยู่ที่ 4,600 จัตต่อ viss (1 viss เท่ากับ 1.66 กิโลกรัม) พุ่งสูงขึ้นจากราคาอ้างอิงของสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ 4,470 จัตต่อ viss เป็นผลมาจากผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกอย่างมาเลเซียและอินโดนีเซียจำกัดการส่งออกน้ำมันปาล์ม ส่งผลให้ราคาซื้อ-ขายในตลาดของเมียนมาอาจพุ่งขึ้นไปถึง 6,000-7,000 จัตต่อ viss ซึ่งสูงกว่าราคาอ้างอิงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี แต่เมียนมาสามารถผลิตได้เพียง 400,000 ตัน จึงจำเป็นต้องนำเข้าจากมาเลเซียและอินโดนีเซียประมาณ 700,000 ตันต่อปี เพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ
ราคาถั่วดำและถั่วแระ พุ่ง ! จากความต้องการของต่างประเทศที่สูงขึ้น
หอการค้าแห่งภูมิภาคย่างกุ้ง เผย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ราคาของถั่วแระอยู่ที่ 1,930,000 จัตต่อตัน ในขณะที่ราคาถั่วดำอยู่ที่ 1,762,000 จัตต่อตัน แต่ ณ ปัจจุบัน (25 กุมภาพันธ์ 2566) ความต้องการจากตลาดจีนและอินเดียเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาถั่วแระขยับขึ้นเป็น 2,126,500 จัตต่อตัน ส่วนราคาถั่วดำขยับขึ้นเป็น 1,860,000 จัตต่อตัน โดย 10 เดือนที่ผ่านมาในปีงบประมาณปัจจุบัน 2565-2566 (เดือนเมษายน 2565 ถึง เดือนมกราคม 2566) เมียนมามีรายได้จากการส่งออกถั่วทั้งหมด 1.5 ล้านตัน มีมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นการส่งอออกถั่วดำ 595,886.762 กิโลกรัม (489.688 ล้านดอลลาร์) และถั่วแระ 185,505.772 กิโลกรัม (144.611 ล้านดอลลาร์) ที่เหลือเป็นถั่วชนิดอื่นๆ โดยถั่วดำและถั่วแระส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปยังอินเดียและจีนเป็นหลัก