รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะลดการขาดดุลงบประมาณ

รัฐบาลสปป.ลาวได้ประกาศว่าจะพยายามลดการขาดดุลงบประมาณลงเหลือเพียง 3,098 พันล้านกีบในปี 2565 ซึ่งเท่ากับ 1.61 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) คำมั่นสัญญาดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลพยายามย่างมากในการลดภาระหนี้สาธารณะในช่วงเวลาที่ประสบปัญหาในการหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลน เพื่อเพิ่มรายได้ประชาชาติ รัฐบาลจะปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีให้ทันสมัย ​​และพิจารณาเกณฑ์ในการเก็บภาษีที่จ่ายสำหรับเชื้อเพลิงนำเข้า อุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้านำเข้าอื่นๆ ตลอดจนภาษีและค่าธรรมเนียมที่มาจากการทำเหมืองและโรงไฟฟ้าพลังน้ำ นอกจากนี้ กระทรวงการคลังจะแก้ไขค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับที่ดินและจำนวนภาษีเงินได้จากการโอนสิทธิการถือครองที่ดินตามมูลค่าที่ดินที่คาดการณ์ไว้ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ ในส่วนของรายจ่าย รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับโครงการที่มีลำดับความสำคัญสูง และคำนึงถึงความประหยัดและประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากรทางการเงิน รัฐบาลจะลดการใช้จ่ายในกิจกรรมบางอย่าง เช่น การเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดและต่างประเทศ การประชุม สัมมนา และกิจกรรมทางสังคม รัฐบาลได้ให้คำมั่นว่าจะลดการขาดดุลงบประมาณลงต่อไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการเงินรอบด้าน และลดภาระหนี้ของประเทศในอนาคตอันใกล้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt09.php

เวียดนามเผยช่วงครึ่งแรกของ ม.ค. ขาดดุลการค้า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามรายงานสถิติของกรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าเวียดนามขาดดุลการค้า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งแรกของเดือนมกราคม มูลค่าการนำเข้าและส่งออกรวมอยู่ที่ 26.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าว มูลค่าการส่งออกของเวียดนามรวม 12.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการนำเข้า 13.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกของเดือนมกราคม เวียดนามมีสินค้าส่งออก 4 กลุ่มที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ เครื่องจักรและชิ้นส่วน 1.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พุ่ง 72% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รองลงมาโทรศัพท์และชิ้นส่วน, คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ และเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ ในขณะที่ มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/nation-records-trade-deficit-of-us250-million-in-first-half-of-january-832166.vov

เมียนมาขาดดุลงบประมาณปี 2563-2564 ประมาณ 6.8 ล้านล้านจัต

ประธานาธิบดีอู วิน หมินท์ คาดเมียนมาจะขาดดุลงบประมาณที่ 6.8 ล้านล้านจัตในปีงบประมาณ 2563-2564 หรือ 5.4% ของ GDP  มีรายได้ประชาชาติรวม 27.8 ล้านล้านจัตในปีงบประมาณ 2563-2564 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้นถึง -34.6 ล้านล้านจัต ค่าใช้จ่ายจะรวมถึงการใช้จ่ายเพื่อการฟื้นฟูผลกระทบจาก COVID-19 และการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายน รวมถึงด้านศึกษาการ สุขภาพ โครงสร้างพื้นฐาน และการเกษตร การใช้จ่ายด้านประกันสังคมและสวัสดิการเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาในขณะที่โครงการสำหรับคนพิการก็เพิ่มมากขึ้นไปด้วย ในปีงบประมาณนี้รายได้จากภาษีคาดจะลดลง แต่รัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ส่วนกองทุนฉุกเฉินที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปีที่แล้วมียอดรวม 100 พันล้านจัต เพิ่มเป็น 150 พันล้านจัต ในปี 2563-2564 ขณะเดียวกันการจัดสรรงบการใช้จ่ายสำหรับรัฐและภูมิภาคนั้นเพิ่มขึ้นจาก 267 พันล้านจัต เป็น 2.3 ล้านล้านจัต การขาดดุลคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.4% ของ GDP ในปีงบประมาณ 2563-2564 เมื่อเทียบกับ 5.9% ในปีงบประมาณปัจจุบัน 2562-2563 คาดว่าจะมีรายได้รวม 25.3 ล้านล้านจัตและมีค่าใช้จ่ายรวม 32.3 ล้านล้านจัตทำให้ขาดดุล 7 ล้านล้านจัต

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/budget-deficit-fiscal-2020-21-myanmar-k68-trillion.html