จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ของโรงแรมในรัฐกะเหรี่ยงขยายตัวขึ้นกว่า 100% ในช่วง 9 เดือน

ตามการระบุของคณะกรรมการโรงแรมและการท่องเที่ยวแห่งรัฐกะเหรี่ยง ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ โรงแรมและเกสต์เฮ้าส์ในรัฐกะเหรี่ยงมีรายได้กว่า 2,500 ล้านจ๊าด และมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงรัฐกะเหรี่ยงมากขึ้นถึง 100% โดยนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาในรัฐกะเหรี่ยงรวม 134,359 คนในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสร้างรายได้ให้โรงแรมและเกสท์เฮาส์จำนวน 2,557.751 ล้านจ๊าด ทั้งนี้ในรัฐกะเหรี่ยงมีจำนวนโรงแรมและเกสท์เฮาส์เพิ่มขึ้นเป็น 60 แห่ง โดยมีห้องพักรวม 2,159 ห้องในปีนี้ เทียบกับเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ในปี 2564 ที่มีสถานประกอบการเพียง 49 แห่งและมีห้องพักรวม 1,673 ห้อง มีอัตราการออกใบอนุญาตยังเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.45 นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 32,260 คนในช่วง 9 เดือนแรกในปี 2564 เป็น 134,359 คนในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/kayin-state-witnesses-100-surge-in-visitor-arrivals-hotel-revenue-in-9-months/#article-title

กองทัพพม่าโจมตีทางอากาศทำชาวบ้านในรัฐกะเหรี่ยงหนีเข้าไทยกว่า 3,000 คน

กองทัพพม่าเปิดฉากโจมตีทางอากาศใน 5 พื้นที่ของอ.มูตรอ (Mutraw) ใกล้ชายแดน รวมทั้งค่ายผู้พลัดถิ่น ตามการระบุขององค์กรสตรีกะเหรี่ยง ขณะนี้ชาวบ้านกำลังซ่อนตัวอยู่ในป่า และมากกว่า 3,000 คน ข้ามเข้าไปในฝั่งไทยเพื่อหลบภัย ทั้งนี้สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสรายงานว่ามีคนเดินทางเข้ามาถึงฝั่งไทยราว 3,000 คน ทหารของฝ่ายสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ถูกสังหารอย่างน้อย 2 นาย ในการโจมตีทางอากาศของกองทัพพม่าเมื่อวันเสาร์ (27) พลเรือนอย่างน้อย 3 คน ถูกสังหารในหมู่บ้านที่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงควบคุมอยู่ ตามการระบุของกลุ่มประชาสังคม โดยกองกำลังติดอาวุธกล่าวก่อนหน้านี้ว่ากลุ่มได้โจมตีฐานทัพทหารใกล้ชายแดน และทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน การโจมตีทางอากาศถือเป็นการโจมตีครั้งสำคัญที่สุดในรอบหลายปีในภูมิภาคนี้ ด้วยสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงได้ลงนามข้อตกลงหยุดยิงในปี 2558 แต่ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นหลังกองทัพโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนของอองซานซูจีเมื่อวันที่ 1 ก.พ. สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงกล่าวว่ามีประชาชนหลายร้อยคนอาศัยหลบภัยอยู่ในพื้นที่ หลังหลบหนีออกจากพื้นที่ทางภาคกลางของประเทศท่ามกลางความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่มา: https://mgronline.com/indochina/detail/9640000029681