‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ อาจโตไม่ถึง 6.5% ตามที่ตั้งเป้าไว้

นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้กล่าวปราศรัยในการประชุมของรัฐสภา เมื่อวันที่ 23 ต.ค.66 ว่าเวียดนามตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่า 5% ในปีนี้ ในขณะที่หน่วยงานภาครัฐให้คำมั่นว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 6.5%

ทั้งนี้ ในเดือน ก.ย. กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) ได้เสนอสมมุติฐานของสถานการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ 3 กรณี และพบว่าในกรณีที่ดีที่สุด เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวที่ 6% ในปี 2566 เวียดนามจำเป็นที่จะต้องให้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ขยายตัว 10.6% ซึ่งนับเป็นอัตราการเติบโตสูงในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น หากเศรษฐกิจเวียดนามไม่สามารถบรรลุตามที่ตั้งเป้าไว้ที่ 6.5% ก็ไม่น่าแปลกใจ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-s-economy-6-5-growth-rate-target-maybe-unattainable-2210345.html

‘พาณิชย์’ เผย ‘รัฐสภา’ เห็นชอบให้สัตยาบันความตกลง RCEP แล้ว คาดมีผลบังคับใช้ปีนี้

กระทรวงพาณิชย์เผย รัฐสภาเห็นชอบการให้สัตยาบันความตกลง RCEP เรียบร้อยแล้ว เตรียมเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกประกาศและแนวปฏิบัติรองรับการใช้ประโยชน์ คาดมีผลบังคับภายในปีนี้ ย้ำผู้ประกอบการและผู้บริโภคได้ประโยชน์จริง โดยในที่สุดรัฐสภาของไทยมีมติ ‘เห็นชอบ’ การให้สัตยาบันความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) แล้วเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจาก จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำเสนอข้อมูล เหตุผล ความจำเป็น และประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการให้สัตยาบันในข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับความตกลง RCEP เนื่องจากเห็นว่าเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนของไทย โดย RCEP จะเป็น FTA ฉบับที่ 14 ของไทย ซึ่งจะช่วยสร้างแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการในการเข้าสู่ตลาดขนาดใหญ่ มีประชากรกว่า 2,200 ล้านคน สินค้าส่งออกหลายรายการของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรจะได้รับการลดและยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรจากประเทศผู้นำเข้า โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งจะเปิดตลาดใน RCEP ให้ไทยเพิ่มเติมจาก FTA ที่มีอยู่ เช่น สินค้าประมง, แป้งมันสำปะหลัง, สัปปะรด, น้ำมะพร้าว, น้ำส้ม, อาหารแปรรูป, ผักและผลไม้แปรรูป เป็นต้น

ที่มา : https://thestandard.co/parliament-agreed-to-ratify-the-rcep-agreement/