“หุ้นเวียดนาม” ยังถูก-ปัจจัยหนุนต่อเนื่อง แนะทยอยสะสมหวังผล ‘ระยะยาว’

โดย กฤษฎิ์ รัตนธีระธาดา I WEALTHY THAI

Wealthy Thai ได้รวบรวมมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ จากหลากหลายสถาบัน มาฉายภาพพื้นฐานเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเวียดนาม

‘วิน พรหมแพทย์’ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนพรินซิเพิล จำกัด ได้ให้ความคิดเห็นว่า การฟื้นตัวของตลาดหุ้นเวียดนามที่เยอะกว่าประเทศเพื่อนบ้านนั้น เพราะการควบคุมสถานการณ์ระบาดไวรัส COVID-19 ได้ดี โดยไม่มีท่าทีของตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ รวมทั้งผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดไวรัส COVID-19 ที่น้อยมาก จากการเคลื่อนไหวของรัฐบาลที่ล็อกดาวน์ประเทศก่อนประเทศเพื่อนบ้าน จึงทำให้ผลกระทบต่อจีดีพีไม่มากนัก ซึ่งตัวเลขจีดีพีของประเทศเวียดนามเป็นไม่กี่ประเทศที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ยังคงเป็น ‘บวก’ โดยคาดการณ์จีดีพีปีนี้จะเติบโตได้ 4% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 7-8%

“ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามเอง ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าลงทุน เนื่องด้วยระดับ P/E ที่ 14 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ที่จะสามารถดึงดูดฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติแล้ว ยังมีปัจจัยสนับสนุนอื่นอย่างการปรับเกณฑ์ ETF ใหม่ของรัฐบาล ที่จะช่วยดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ง่ายขึ้น และการเป็นแหล่งฐานผลิตระดับต้นๆ ที่ผู้ประกอบการให้น้ำหนักการย้ายฐานผลิตเป็นอันดับต้นๆ หากเกิดประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ”

‘คมสัน ผลานุสนธิ’ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด ได้ให้ความคิดเห็นว่า ในระยะยาวตลาดหุ้นเวียดนามถือว่าน่าสนใจทั้งพื้นฐานเศรษฐกิจที่ยังเติบโตได้ในสถานการณ์ระบาด ‘ไวรัส COVID-19’ และปัจจัยสนับสนุนอย่างสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เวียดนามถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงอาจได้เห็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมใหม่ๆ ในเวียดนาม อย่างอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น

“อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดไปต่อได้ แต่ในระยะสั้นก็ยังต้องระมัดระวังการแรงขายเพื่อกำไรหลังจากตลาดปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างสูง ซึ่งในช่วงนี้ที่ตลาดปรับตัวลงก็ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะทยอยสะสมได้เช่นกัน”

สำหรับ “ตลาดหุ้นเวียดนาม” ใน ‘ระยะยาว’ ยังเป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักลงทุน สามารถทยอยสะสมได้ แต่อย่างไรก็ตามใน ‘ระยะสั้น’ นักลงทุนอาจจะระมัดระวังแรงขายเพื่อทำกำไร หลังจากที่ดัชนีฟื้นตัวขึ้นมาค่อนข้างเยอะในช่วงที่ผ่านมา อาจเห็นการย่อตัวลงมาพักฐานของตลาดได้เช่นกัน

ที่มา : https://www.wealthythai.com/web/contents/WT200600126