“สปป.ลาว” ใช้งบ 20 พันล้านกีบ เร่งป้องกันน้ำท่วม

นครเวียงจันทร์เตรียมใช้เงินวงเงินกว่า 20 พันล้านกีบ จะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนที่ทำให้ท่อระบายน้ำอุดตัน รวมถึงซ่อมแซมและขยายช่องระบายน้ำ จัดการกับพืชและเศษซากต่างๆ ที่อุดตันท่อระบายน้ำและควบคุมระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายโยธาธิการและขนส่งของนครเวียงจันทร์ กล่าวว่าสำนักงานกำลังร่วมมือกับสำนักงานจัดการและบริการเมืองเวียงจันทร์ และเจ้าหน้าที่จากเขต 9 ของเมืองในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะยาว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของงบประมาณข้างต้นนั้นยังเป็นการประมาณการเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากงานบางส่วนที่วางแผนไว้อาจไม่สามารถทำได้ในช่วงฤดูฝน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten163_City.php

ทางรถไฟสายเวียงจันทน์-หวุงอ่าง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือนพฤศจิกายน

การก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมเมืองเวียงจันทน์กับท่าเรือหวุงอ่างในจังหวัดห่าติ๋งตอนกลางของเวียดนาม คาดว่าจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทางรถไฟดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเส้นทางที่รัฐบาลสปป.ลาวและเวียดนามได้ตกลงที่จะร่วมกันพัฒนาซึ่งจะช่วยให้สปป.ลาวที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลสามารถเข้าถึงท่าเรือน้ำลึกเพื่อเพิ่มช่องทางการขนส่งอีกทางได้ โครงการรถไฟดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Lao Logistics Link ซึ่ง PetroTrade เป็นบริษัทในเครือของ PTL Holding Company Limited ได้รับไฟเขียวให้ร่วมมือกับรัฐบาลสปป.ลาวและเวียดนามเพื่อพัฒนา นอกจากเป็นการเชื่อมต่อระหว่างสปป.ลาวและเวียดนามแล้ว ทางรถไฟจะเชื่อมต่อตลาดขนส่งสินค้าของไทยและเมียนมาร์โดยตรงกับท่าเรือหวุงอ่าง ซึ่งสปป.ลาวถือหุ้นใหญ่ร้อยละ 60 ของโครงการและที่เหลือเป็นของรัฐบาลเวียดนาม ท่าเรือนี้อยู่ในตำแหน่งที่ดีเพื่อใช้เป็นประตูระหว่างเวียดนามตอนกลาง สปป.ลาวกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในการเชื่อมการค้ากัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Work53.php

รถไฟขบวนแรกสปป.ลาว-จีน จะทดสอบเดินขบวนในเดือน ส.ค.

การดำเนินการทดลองรถไฟสปป.ลาว-จีนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม ก่อนที่ทางรถไฟจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมปีนี้ อีกทั้งการก่อสร้างสถานีตามเส้นทางรถไฟทั้งหมดมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนกันยายนและตุลาคม โดยมีสถานีโดยสาร 10 แห่งในเวียงจันทน์, โพนหง, วังเวียง, กาซี, หลวงพระบาง, งา, ไซ, นามอร์, นาเตย และบ่อเต็น นอกจากนี้ยังมีสถานีขนส่งสินค้า 22 สถานีสำหรับการขนถ่ายสินค้า โครงการสร้างทางรถไฟมูลค่า 5.986 พันล้านดอลลาร์ (37.4 พันล้านหยวน) เริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 2559 ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญของแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางของจีน และแผนของรัฐบาลสปป.ลาวในการเปลี่ยนลาวจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลให้กลายเป็นทางเชื่อมทางบกภายในภูมิภาค

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_First_120.php

สปป.ลาว Lockdown เวียงจันทร์และปิดพรมแดนสกัด COVID-19 ที่เชื่อมโยงกับไทย

สปป.ลาว Lockdown เวียงจันทร์และปิดพรมแดนระหว่างประเทศในทุกด่าน หลังพบผู้ป่วยรายใหม่ 28 ราย(22.04.64) ซึ่งมีคามเชื่อมโยงมาจากไทย สร้างผลกระทบต่อด้านการค้าและกิจกรรมทางเศรษฐกิจบริเวณด้านชายแดน นายยกรัฐมนตรีได้มีลงนามมีคำสั่งประกาศให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงเวียงจันทน์ไม่ให้ออกจากเมืองและบุคคลภายนอกจะต้องได้รับอนุญาตในการเข้าไปด้านพรมแดนระหว่างประเทศถูกปิดยกเว้นรถบรรทุกที่บรรทุกสินค้าที่ยังสามารถขนส่งได้แต่อาจมีความล่าช้าจากมาตรการตรวจที่เข้มงวดอาจส่งผลกระทบต่อความล่าช้าด้านการขนส่งและคุณภาพของสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค อย่างรก็ตามรัฐบาทมุ่งมั่นที่จะจำกัดหรือหยดการแพร่เชื่อระลอกใหม่ให้ได้ตามระยะเวลาที่ประกาศ เพื่อป้องกันไม่ให้สปป.ลาวเข้าสู่วิกฤตด้านสาธารณสุขหากมีการระบาดจำนวนมาก

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/news/asia/covid-19-laos-lockdown-capital-vientiane-outbreak-tied-thailand-14672574

สปป.ลาวสร้างเมืองใหม่ในเวียงจันทน์

ทางการเวียงจันทน์กำลังดำเนินการสร้างเมืองใหม่ซึ่งจะเมืองที่ 10 ในนครเวียงจันทร์ ซึ่งเมืองใหม่จะตั้งอยู่ระหว่างเมืองปากงึ่มและเมืองชัยธานี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเวียงจันทน์ โดยจะมีหมู่บ้าน 24 แห่งรวมทั้งหมู่บ้าน 5 แห่งที่มีอยู่แล้วในเมืองปากงึ่ม และอีก 3 แห่งในเมืองชัยธานี งานพัฒนาเมืองเริ่มในปี 61 และขณะนี้ทางการกำลังเตรียมสร้างโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ เช่น อาคารสำนักงาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้ นายกเทศมนตรีนครเวียงจันทน์กล่าวว่าเมืองใหม่นี้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบชนบทมีพื้นที่ป่าและเนินเขาตลอดจนแม่น้ำ ยังมีตาดซอยวอย ซึ่งเป็นน้ำตกยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และพื้นที่ใกล้เคียงของเมืองปากงึ่มเป็นที่ตั้งของน้ำกัดยอละปา ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเช่นกัน การก่อสร้างเมืองใหม่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาของเวียงจันทน์ในปี 68 และแผนการพัฒนาชานเมืองให้เป็นย่านการค้าและที่อยู่อาศัย เมืองชัยธานีมีขนาดใหญ่และมีหมู่บ้านมากกว่า 100 แห่งซึ่งมีครัวเรือนกว่า 43,900 ครัวเรือน เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างชนบทจึงมีศักยภาพที่แข็งแกร่งสำหรับการเกษตรและการท่องเที่ยว การพัฒนาเมืองใหม่จะให้สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสาธารณะมากขึ้นสำหรับผู้อยู่อาศัยในเมืองชัยธานี และช่วยบรรเทาความแออัดของประชากรอีกด้วย

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/02/10/laos-to-create-new-district-in-vientiane

รัฐบาลสปป.ลาวอนุมัติขายที่ดินตลอดสองข้างทางถนน 450 ปี ในนครหลวงเวียงจันทน์

กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนครหลวงเวียงจันทน์ได้ออกประกาศเกี่ยวกับการขายที่ดิน 283,500 ตารางเมตรทั้งสองข้างของถนน 450 ปี ที่ดิน 93 แปลงภายใน 50 เมตรตลอดสองฝั่งของถนน 450 ปีจะถูกขายออกในอัตราตลาดโดยมีจุดประสงค์เพื่อระดมทุนเพื่อชำระคืนธนาคารแห่งสปป. ลาวสำหรับการก่อสร้างถนน นายคำไพ ศิลาสา  ประธานกลุ่มก่อสร้างดวงเฉลิมกล่าวในรายงานของ KPL News เมื่อวานนี้ว่าการก่อสร้างถนน 450 ปีและการขายที่ดินด้านใดด้านหนึ่งในภายหลัง ได้ตกอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานเทศบาลนครหลวงเวียงจันทน์ อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปสิบปีสามารถขายที่ดินได้เพียงร้อยละ 20 ของที่ดินทั้งหมดส่วนใหญ่เกิดจากการขาดโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่เหมาะสมเช่นน้ำประปาและไฟฟ้า ที่ดินส่วนใหญ่ยังคงไม่สำเร็จและไม่เป็นที่สนใจของผู้ซื้อและนักลงทุน เป็นเป้าหมายที่รัฐบาลจะเร่งสนับสนุนการลุงในด้านต่างๆเพื่อให้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่สนใจของนักลงทุน

ที่มา : https://laotiantimes.com/2020/12/23/government-approves-sale-of-land-along-vientianes-450-years-road/\

การเปิดใช้ทางด่วนเวียงจันทน์ – วังเวียงอาจล่าช้าออกไป

เจ้าหน้าที่ได้เลื่อนการเปิดใช้ทางด่วนเวียงจันทน์-วังเวียงที่มีระยะทางรวม 113.50 กิโลเมตรที่ สาเหตุของความล่าช้ามาจากงานในโครงการบางส่วนยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ผิดแผนไปจากเดิมที่จะมีการเปิดจราจรในวันชาติสปป.ลาว นายขัตติยศักดิ์ ไชยวงศ์หัวหน้าคณะกรรมการบริหารทางพิเศษกล่าวกับเวียงจันทน์ไทม์สเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “งานเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วร้อยละ 99.9 และมีแผนจะเปิดในเดือนนี้ แต่ตอนนี้กำหนดการเปิดตัวคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงสิ้นปีนี้” ถนนทางพิเศษดังกล่าวซึ่งมีอุโมงค์คู่ผ่านภูเขาจะทำให้เส้นทางสั้นลงจากเดิมถึง 43 กม. โครงการทางพิเศษนี้ได้รับการลงทุนจากนักลงทุนจีนซึ่งจะดำเนินการภายใต้สัญญาสัมปทาน 50 ปีโดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลสปป.ลาวถือหุ้นร้อยละ 5 ในโครงการ  โครงการทางด่วนพิเศษเป็นการตอกย่ำถึงความประสงค์ของสปป.ลาวที่จะนำพาตัวเองไปสู่ประเทศที่เชื่อมต่อกับนานาประเทศ “Land lock Land link” ซึ่จะนำพาสปป.ลาวสู่ประเทศที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตจากปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Opening235.php

Xaignavong Group Sole Company Limited ตั้งเป้าขยายอุตสาหกรรมท่อเฟส 2

15 ปีที่ผ่านมาของการนำเข้าอุปกรณ์เกี่ยวกับท่อไปยังสปป.ลาวมีมูลค่ามหาศาล นาย Langkone ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Xaignavong สังเกตเห็นว่ามีเงินตราต่างประเทศจำนวนมากไหลออกจากประเทศในขณะเดียวกันความต้องการสินค้าเหล่านี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเจตนารมณ์ในการลดการไหลออกของเงินตราต่างประเทศและช่วยสนับสนุนการพัฒนาที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการปรับปรุงอุตสาหกรรมให้ทันสมัยจึงเกิดการก่อตั้ง Toyo Industry Lao Factory Company Limited หรือ Toyo Pipe Factory ในปี 2559 ภายใต้บริษัทแม่อย่าง Xaignavong Group Sole Company Limited ปัจจุบัน Xaignavong Group กำลังจะมีการลงทุน 20 พันล้านกีบในเฟสที่สองของการก่อสร้างโรงงานท่อ นาย Langkone ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Xaignavong กล่าวกับเวียงจันทน์ไทม์สเมื่อวานนี้ว่าการก่อสร้างคาดว่าอุตสาหกรรม Toyo ใหม่จะแล้วเสร็จภายในแปดเดือนการผลิตทุกขั้นตอนจะทันสมัยเทียบเท่ามาตรฐานกอุตสาหกรรมท่อในภูมิภาคอาเซียนซึ่งในระยะสองจะมีการขยายพื้นที่ของโรงงานจาก 2 เฮกตาร์เป็น 3 เฮกตาร์ การลงทุนครั้งใหม่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในเวียงจันทน์และในประเทศอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญประการหนึ่งคือการสร้างโรงงานใหม่ในระยะที่สองจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นทำให้ บริษัทต้องกำชับการดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้และปฏิบัติตามนโยบายการพัฒนาสีเขียว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Xaignavong_224.php

แผนแม่บทใหม่มุ่งสร้างการพัฒนาเมืองที่น่าอยู่

แผนแม่บทการพัฒนาเมืองฉบับใหม่จะช่วยให้ทางการสามารถตอบสนองต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของเวียงจันทน์ในอนาคตแต่การพัฒนาระบบต่างๆในแต่ละแขวงกลับไม่เป็นระเบียบ เนื่องจากขาดการวางแผนอย่างละเอียดทำให้ต้องเผชิญกับปัญหาระบบสาธารณูปโภคที่ไม่สามารถรองรับประชากรในพื้นที่ได้  รวมถึงปัญหาของการแออัดของรถยนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกล่าวในการประชุมสมัชชาแห่งชาติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา “ถนนในเมืองหลวงไม่เป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานในขณะที่พื้นที่สาธารณะยังไม่ได้รับการพัฒนาจึงจำเป็นต้องจัดทำแผนแม่บทใหม่เพื่อให้เวียงจันทน์ได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ในภูมิภาค” แผนแม่บทฉบับใหม่จะครอบคลุมพื้นที่ 61,600 เฮกตาร์และ 288 หมู่บ้านคิดเป็นร้อยละ 16 ของพื้นที่ดินของเมือง เวียงจันทน์มีประชากรเกือบหนึ่งล้านคนมีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจและแนวโน้มจำนวนประชากรที่สูงขึ้น พื้นที่ในเมืองจะขยายไปสู่ชานเมืองตามถนนสายหลักอย่างรวดเร็ว หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอการแผ่ขยายออกไปในเมืองจะส่งผลให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ดีและบริการทางสังคมที่ไม่เพียงพอ

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_New_215.php

ทางด่วนเวียงจันทน์ – วังเวียงแล้วเสร็จสมบูรณ์แล้วกว่าร้อยละ 70

การก่อสร้างทางด่วนระยะทาง 113.50 กม. เชื่อมระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์และวังเวียงแล้วเสร็จสมบูรณ์แล้วกว่าร้อยละ 70 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องคาดว่าจะมีพิธีส่งมอบอย่างเป็นทางการในปลายปีนี้โดยโครงการจะก่อสร้างถนนรอดอุโมงค์คู่มีความยาวเกือบ 900 เมตรผ่านภูเขาซึ่งจะทำให้เส้นทางสั้นลง 43 กม. เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ถนนหมายเลข 13 ทางทิศเหนือ โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนภายใต้สัญญาสัมปทาน 50 ปีโดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดน่าจะอยู่ที่ 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และรัฐบาลลาวถือหุ้นร้อยละ 5 ในโครงการ การลงทุนดังกล่าวจะทำให้เกิดเส้นทางใหม่ที่เดินทางสะดวกสบายมากขึ้นส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งวังเวียงและเวียงจันทร์มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายการมีเส้นทางพิเศษจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวมากขึ้น

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Vientiane_Vangvieng_112.php