ญี่ปุ่นร่วมลงทุนในภาคพลังงานของกัมพูชา

บริษัท พลังงานหมุนเวียนของญี่ปุ่นสองแห่งวางแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแกลบและแผงโซลาร์เซลล์ในประเทศกัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยของแหล่งจ่ายพลังงานปกติของกัมพูชา ซึ่งรายงานโดยสำนักข่าวญี่ปุ่น NNA กล่าวว่าทั้งสอง บริษัท คือ Aura Green Energy Co และผู้ให้บริการระบบแผงเซลล์แสงอาทิตย์ WWB Corp. ได้ร่วมมือกันเพื่อเปิดตัวธุรกิจผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานโดยใช้ชีวมวลและพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชาภายในปี 2564 โดยการลงทุนในพลังงานทดแทนเช่นพลังงานเชื้อเพลิงแกลบจะช่วยให้ผู้ผลิตข้าวลดต้นทุนลง ซึ่งธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ในปี 2562 อนุมัติเงินกู้ 7.64 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างสวนพลังงานแสงอาทิตย์ 100 เมกะวัตต์ (mW) ในประเทศกัมพูชาเพื่อช่วยในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและกระจายพลังงานให้ทั่วถึงไปยังชุมชนมากขึ้น รวมถึงเป็นการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50718101/japan-jumps-in-on-energy/

วิกฤติโควิด-19 สกัดหลายประเทศอาเซียนเข้าสู่กลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง

รายงานของบริษัทวิจัยด้านเศรษฐกิจ Capital Economics ชี้ว่า การระบาดของโควิด-19 ในหลายประเทศทั่วโลก อาจส่งผลให้ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 8 จาก 10 ประเทศ มีการเจริญเติบโตติดลบ ยกเว้นแค่ 2 ประเทศ คือ เวียดนาม และเมียนมา โดย Capital Economics คาดการณ์ว่ามูลค่าผลผลิตรวมหรือ จีดีพี ของอาเซียนจะลดลงราว 10% ในปีนี้ จากที่เพิ่มขึ้นราว 5% เมื่อปีที่แล้ว โดยคาดว่า มาเลเซีย ฟิลิิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย จะมีการหดตัวของเศรษฐกิจมากที่สุดในอาเซียน มาจากการถดถอยของภาคการท่องเที่ยว ภาคการผลิต และการส่งออก ล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในอาเซียนที่พึ่งพาอุตสาหกรรมเหล่านี้ ขณะที่การจับจ่ายใช้สอยในประเทศก็ลดลงในช่วงที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อคดาวน์เช่นกัน นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำลงยังส่งผลกระทบต่อรายได้ของบรูไน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่ส่งออกน้ำมันเป็นสินค้าหลักด้วย รายงานคาดว่า อัตราการเจริญเติบโตที่ลดลงนี้จะทำให้หลายประเทศในอาเซียนยังไม่สามารถขยับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางได้ในปีนี้

ที่มา : https://www.voathai.com/a/asean-middle-income-status-coronavirus/5395838.html