กัมพูชาพร้อมเข้าร่วมงาน World Expo 2020

รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชา เผยกัมพูชามีความพร้อมในการเข้าร่วม World Expo 2020 ซึ่งจัดขึ้นที่นครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 20 ต.ค 63 – 10 เม.ย 64 และจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสของกัมพูชาในการทดสอบตลาด และการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน

ที่มา : https://www.news1005.fm/view/5bfcf0dbe3f8e4e9010da6f4

28/11/61

AMK ของกัมพูชาขายหุ้น 80% ให้แก่ธนาคารไต้หวัน

ผู้ถือหุ้นรายใหม่ของ AMK Microfinance ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินรายย่อยที่เหลือเพียงไม่กี่แห่งที่มุ่งเน้นการให้สินเชื่อขนาดเล็กในชนบทแสดงความมุ่งมั่นในการรักษารูปแบบธุรกิจของ AMK บริษัทจะยังคงเน้นสินเชื่อขนาดเล็กสำหรับตลาดในชนบทด้วยขนาดเงินกู้เฉลี่ยเพียง 700 ดอลลาร์สหรัฐฯ AMK เป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่เหลืออยู่ในกัมพูชาที่ยังคงมุ่งเน้นไปที่สินเชื่อขนาดเล็ก การประกาศจากผู้ถือหุ้นรายใหม่เกิดขึ้นหลังจากที่ทาง บริษัทได้ประกาศในเดือนส.ค ว่าบริษัทได้ขายหุ้นอย่างเป็นทางการให้กับธนาคารเซี่ยงไฮ้เพื่อการพาณิชย์และการออมทรัพย์ (SCSB) จำนวน 80% โดยไม่คิดมูลค่า รายงานประจำปีเมื่อสิ้นปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่ายอดเงินกู้ทั้งหมดของ AMK อยู่ที่ 214 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดเงินฝากทั้งหมดอยู่ที่ 121.6 ล้านดอลลาร์ บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงในปีที่แล้ว – ลดลงเหลือ 5.27 ล้านดอลลาร์จาก 6.63 ล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า

ที่มา :  https://www.phnompenhpost.com/business/kingdoms-amk-sells-80-stake-taiwanese-bank

28/11/61

เคล็ดลับลงทุนในลาวจากเจ้าของ “วิวมอลล์” ศูนย์การค้าไทยที่ดังขีดสุดใน สปป.ลาว!

ดร.ณรงค์ ตนานุวัฒน์ นักธุรกิจไทยจากเชียงใหม่เจ้าของร้านโขงวิว และ วิวมอลล์ คอมมิวนิตี้ไลฟ์สไตล์แห่งแรกในเวียงจันทน์ ได้เผยเคล็ดลับสำคัญในการทำธุรกิจที่น่าสนใจไว้ดังนี้ 1.วิสัยทัศน์ผู้นำ การอุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติพลิกจากประเทศ Land Locked เป็น Land Link ได้ 2. สร้างคุณค่าจากที่ดิน ที่ควรใช้ในเชิงพาณิชย์มากที่สุดและเลือกจุดที่เป็นแยกจราจร 3. ต้องเข้าในวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ ต้องรู้เรื่องราวอย่างลึกซึ้ง ถึงเริ่มลงมือ 4.Location เป็นสิ่งสำคัญสุด เช่น การที่ร้านเปิดบนถนนสาย 13 ที่เชื่อมถนน 450 ปี จากเวียงจันทน์ตรงมายังสะพานมิตรภาพไทย – ลาว 5.ดึงวัฒนธรรมมาเป็นสินค้า เช่น บรรยากาศภายในจะประดับไปด้วยภาพศิลปะแบบล้านช้าง 6. สำรวจคู่แข่ง สร้างระดับและมาตรฐานให้เหนือกว่าคู่แข่ง 7. ดัชนีการจดทะเบียนรถยนต์ แขวงไหนจดทะเบียนเยอะให้ไปลงทุนแขวงนั้น บทสรุป สำคัญคือการไปลงทุนที่ใดไม่ควรเอาเปรียบและประเทศนั้นต้องได้รับประโยชน์ด้วย

ที่มา: https://www.bangkokbanksme.com/article/22007

11 มีนาคม 2561

อัพเดท ปัจจัยและโอกาสการลงทุนใน สปป.ลาว

จากบทสัมภาษณ์ของ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เวียงจันทน์ พบว่า ทั้ง 2 ประเทศมีมูลค่าการค้าขายตัว 5% แต่ติดลบในการส่งออกในภาคอุตสาหกรรม เพราะการเข้มงวดและโปร่งใสในโครงการสำคัญๆ เช่น เขื่อนไซยะบุรี ปีที่ผ่านมาได้มีการแก้กฎหมายการลงทุนทำให้มีต่างชาติทะลักเข้ามาลงเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะการคมนาคมและขนส่ง เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูงสปป.ลาว-จีน ที่แล้วเสร็จปี 2021 จากคุนหมิงถึงเวียงจันทร์ คาดว่าจะมีคนจีนเข้ามาไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนต่อปี ทั้งยังให้ความสำคัญกับภาคการเกษตร การศึกษา ระบบสาธารณสุข โดยเพาะด้านวัตถุดิบ SME ไทยควรเข้าไปหนุนด้านการผลิตและแพกเกจจิ้ง จะดีกว่าการนำสินค้าไปขายเอง และยังมีช่องทางลงทุนที่น่าสนใจ คือ การบริการด้านสุขภาพ พบว่าในปีที่จะถึงนี้กลุ่มทุนจากไทยไปเปิดโรงพยาบาลใน สปป.ลาว แล้ว ส่วนสินค้าความงาม และอาหาร พบว่าใช้สินค้าไทยสูง 60-70% และเรื่องของการศึกษาและธุรกิจแฟรนไชส์ยังไปได้ดี โดยปีที่ผ่านมาสมาคมแฟรนไชส์สามารถขายออกไปได้ถึง 10 แบรนด์

ที่มา: https://www.bangkokbanksme.com/article/22146

21 มีนาคม 2561

มีอะไรใหม่ ในหลวงพระบาง

ปี 2561 ที่ผ่านมา สปป.ลาวมีการเปลี่ยนแปลงด้านการบริหารราชการโดยการยกแขวงหลวงพระบางขึ้นเป็น นครหลวงพระบาง เพื่อยกระดับการพัฒนาและเชื่อมโยงกับเมืองสำคัญของภูมิภาค โดยครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การดูแลของ UNESCO มีประชากรทั้งสิ้น 71,812 คน เป็นเกษตรกรเพียง 5% มีศักยภาพในการลงทุน รองรับนักท่องเที่ยวได้ 550,000 คนต่อปี ทุกครัวเรือนสามารถเข้าถึงระบบสาธารณูปโภคได้ร้อยเปอร์เซ็น ซึ่งหลวงพระบางนั้นเป็นความหวังด้านการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว ปัจจุบันเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงจีน – สปป.ลาว โดยมี 1 สถานีของหลวงพระบางเป็นจุดจอดสำคัญ ซึ่งเชื่อมต่อกับการท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลำไย (LIMEC) ที่เชื่อมโยงด้านการค้า การลงทุน โลจิสติกส์ ฯลฯ กับประเทศไทยและเมียนมา เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า สปป.ลาวคาดหวังให้หลวงพระบางนครหลวงพระบางเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว เพราะ 7-8% ของจีดีพี เป็นการท่องเที่ยวที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา: กองความร่วมมือการค้าและการลงทุน กรมการค้าต่างประเทศ

30 เมษายน 2561

จับตา “เบียร์คราฟท์”: ธุรกิจเกิดใหม่ที่โดดเด่นในภาคใต้ของเวียดนาม โอกาสของผู้ผลิตเบียร์จากไทย

ปัจจุบันวัฒนธรรมการดื่มเบียร์ที่นิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้บริโภครุ่นใหม่และจำนวนชนชั้นกลางที่เพิ่มมากขึ้น อัตราการบริโภคเบียร์เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย มูลค่า 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ การบริโภคอยู่ที่ 4.84 ล้านลิตรต่อปี ในนครนครโฮจิมินห์เมืองพบว่ามีธุรกิจการผลิต “เบียร์คราฟท์” มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่เป็นของชาวตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอังกฤษ และมีชาวเวียดนามหันมาทำธุรกิจนี้มากขึ้น เพราะการบริโคของชนชั้นกลางหรือรุ่นใหม่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ยังตั้งตัวเองเป็นเมืองหลวงแห่งเบียร์คราฟต์ของภูมิภาคอาเซียน อาศัยความได้เปรียบในการผลิต ต้นทุนไม่สูง ใช้วัตถุดิบในประเทศ โอกาสของผู้ประกอบการคือ การจัดตั้งธุรกิจง่าย ไม่ยุ่งยาก ตลาดสามารถเติบโตได้อีก ที่ตั้งประเทศสามารถกระจายสินค้าได้ดี นักลงทุนไทยสามารถเข้ามาเปิดโรงงานผลิตหรือรับจ้างผลิตลักษณะ OEM เพื่อนำไปขายได้ทั้งในและต่างประเทศได้

ที่มา: ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์

2 มีนาคม 2561

ม.หอการค้าแนะให้ SMEs ตจว.เข้าถึงช็อปช่วยชาติเพื่อประโยชน์แท้จริง

ผศ.ดร.ธนวรรธน์  พลวิชัย  รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย และ ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยมาตรการช็อปช่วยชาติของรัฐบาลปีนี้นั้น มองว่าควรให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) และกลุ่มธุรกิจทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อยู่ในต่างจังหวัด เพราะปัญหาเศรษฐกิจไทยเป็นปัญหาที่มาจากเศรษฐกิจต่างจังหวัดที่พึ่งพิงสินค้าเกษตรเป็นหลัก  จึงควรมีมาตรการช็อปช่วยชาติที่ให้ทุกคนเข้าถึงมาตรการ  ไม่ว่าจะเป็นการเพย์เม้นท์ของบัตรสวัสดิการคนจน  โดย ม. หอการค้าทำการสำรวจทั่วประเทศ ความสามารถของผู้บริโภคเป็นบวกมา 2-3 เดือนติดต่อกัน และที่สำคัญทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีทิศทางดีขึ้น ทั้งนี้มาตรการช็อปช่วยชาติจะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง จะต้องไม่จำกัดอยู่ที่ธุรกิจขนาดใหญ่ ควรจะเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีได้เข้าถึงด้วย

ที่มา: http://www.thansettakij.com/content/353186

 

ไตรมาส 4 ปี61 คาดท่องเที่ยวมูลค่า 58,025 ล้านบาท เลือกเที่ยวเมืองรองเพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ไตรมาสสุดท้ายของปี คนกรุงเทพฯ เดินทางท่องเที่ยวในประเทศน่าจะก่อให้เกิดรายได้คิดเป็นมูลค่า 58,025 ล้านบาท เติบโตประมาณร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย มาจากจำนวนทริปที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ผลสำรวจ จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวในประเทศ ในช่วงไตรมาส 4 ปี61 นี้ พบว่า แม้มีการกระจายตัวไปเมืองต่างๆ มากขึ้น แต่ร้อยละ 58.8 ของกลุ่มตัวอย่าง ยังคงเลือกเดินทางท่องเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา และชลบุรี เป็นต้น ขณะที่อีกร้อยละ 41.2 เลือกเดินทางท่องเที่ยวไปยังเมืองรอง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจในช่วงเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาสสุดท้าย คนกรุงเทพฯ เดินทางท่องเที่ยวในประเทศน่าจะก่อให้เกิดรายได้เป็นมูลค่า 58,025 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา: https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/business/Pages/z2941.aspx

เผย 11 เดือนไฟเขียวต่างด้าวลงทุนในไทยหมื่นล้านบ.

พาณิชย์เผย 11 เดือนอนุญาตคนต่างชาติลงทุนในไทย 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% ชี้เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนและเทคโนโลยีสูง อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อนุมัติให้คนต่างด้าวลงทุนในไทยช่วง 11 เดือนปี 61 จำนวน 252 รายลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4% เงินลงทุน 10,733 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51%  เนื่องจากมีการลงทุนธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง เช่น บริการออกแบบทางวิศวกรรมและติดตั้งเหล็กโครงสร้างรูปพรรณและผลิตภัณฑ์คอนกรีต บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง ฯลฯ ในเดือน พ.ย. 61 พบว่ามีต่างด้าวได้รับอนุญาต 23 ราย เงินลงทุน 262 ล้านบาท และมีการจ้างงานคนไทย 150 คน ส่วนใหญ่มาจากประเทศญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์ รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีเฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/679267