สนง.สถิติแห่งชาติ คาด GDP เวียดนาม ปี 63 โต 2-3%

นาย Nguyen Bich Lam ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) กล่าวว่าในปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนามเติบโตร้อยละ 2-3 ซึ่งตรงกับที่กระทรวงวางแผนและการลงทุนคาดการณ์ไว้และใกล้เคียงกับทางธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 1.8 เมื่อต้นเดือนนี้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และจะกลับมาฟื้นตัวที่ร้อยละ 6.3 ในปีหน้า ชณะที่ การคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าว ยึดจากผลการดำเนินงานธุรกิจและการผลิตในเดือนสิ.ค.และในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ รวมถึงความสำเร็จของรัฐบาลในการรับมือโควิด-19 และการเร่งเบิกจ่ายการลงทุนของภาครัฐและสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจที่ดีขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ เวียดนามคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA ที่จะช่วยให้ภาคเกษตร ประมงและอุตสาหกรรมเติบโตได้ดียิ่งขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-gdp-to-grow-23-percent-this-year-former-gso-director/186314.vnp

มูลค่าการค้าเมียนมาสูงขึ้นแม้ COVID-19 ระบาด

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาเผย ณ เดือนสิงหาคม 63 หนึ่งเดือนก่อนปิดปีงบประมาณ 62-63 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศสูงถึง 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะมีการระบาดของ COVID-19 การส่งออกแตะที่ 16.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การนำเข้า 17.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขาดดุลการค้าประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกส่วนใหญ่ประกอบด้วยสินค้าสำเร็จรูปและสินค้าสำหรับการ ผลิต ตามด้วยผลิตผลทางการเกษตรทรัพยากรและแร่ธาตุที่ขุดได้ การนำเข้าประกอบด้วยสินค้าทุน เช่น อุปกรณ์ ยานพาหนะและเครื่องจักร ตลอดจนวัตถุดิบและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ประเทศคู่ค้าอันดับต้น ๆ ได้แก่ จีน ไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินเดีย สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย เกาหลี และเวียดนาม เมื่อเร็วๆ นี้ การค้าชายแดนได้รับผลกระทบ เช่น การค้าที่ท่าขี้เหล็กของรัฐฉานชายแดนระหว่างเมียนมาและไทยเพิ่งปิดไปส่วนไทยอนุญาตให้รถจากเมียนมาเพียง 6 คันเข้าอำเภอแม่สายของไทยได้ การค้าระหว่างเมียนมาและจีนยังต้องหยุดชะงักหลังจากชายแดนหลุ่ยลี่ (Ruili) ถูกปิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 63 หลังตรวจพบ COVID-19 หลุ่ยลี่เป็นจุดผ่านแดนสำคัญระหว่างจีนและเมียนมาใกล้กับมูเซของรัฐฉาน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-trade-volumes-rise-despite-covid-19.html

เล็งขยายลดภาษีน้ำมันเครื่องบินอีก6เดือน

สรรพสามิตเปิดทางลดภาษีน้ำมันเครื่องบินเหลือ 20 สตางค์ต่อลิตร อีก 6 เดือน กรณีการพิจารณาขยายเวลายกเว้นการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินในประเทศให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจสายการบินโลวคอสต์ว่า ล่าสุดผู้บริหารสายการบินโลวคอสต์ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาข้อเสนอของผู้ประกอบการในการขยายเวลาการยกเว้นภาษีดังกล่าวออกไป จากที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนก.ย.2563 อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิตเห็นว่าหากการปรับลดภาษีจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม และมีส่วนช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวได้มากขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ภาครัฐควรให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ สำหรับการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินที่จะสิ้นสุดในเดือน ก.ย. 2563 ภาษีน้ำมันอยู่ที่ 20 สตางค์ต่อลิตร จากเดิมลิตรละ 4.762 บาท

ที่มา: https://www.posttoday.com/economy/news/633556

INFOGRAPHIC : เวียดนามกลับมาเปิดเที่ยวบินพาณิชย์ระหว่างประเทศ 6 เส้นทาง

เที่ยวบินระหว่างประเทศจะกลับมาเปิดภายในเดือนกันยายน 2563 หลังจากช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ยกเลิกการบิน เนื่อจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ (COVID-19) โดยการเปิดเที่ยวบินดังกล่าว จะช่วยสร้างแรงหนุนใหม่ให้กับตลาดการบินที่ซบเซา จากการระบาดระลอก 2

เที่ยวบินต่างประเทศที่เวียดนามเปิดรับมีดังต่อไปนี้

  1. โซล  (เกาหลีใต้)
  2. โตเกียว (ญี่ปุ่น)
  3. ไทเป (ไต้หวัน, จีน)
  4. กว่างโจว (จีน)
  5. เวียงจันทน์ (สปป.ลาว)
  6. พนมเปญ (กัมพูชา)

ความถี่ : ไม่เกิน 2 เที่ยวบิน/สัปดาห์/เที่ยวบินละกลุ่ม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/six-intl-commercial-flights-resumed/185223.vnp

รัฐบาสปป.ลาว พยายามหาวิธีป้องกันผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกตกต่ำ

ในการประชุมประจำเดือนของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17-18 ก.ย. เจ้าหน้าที่ได้รับการกระตุ้นให้ดำเนินมาตรการอย่างเคร่งครัดและติดตามผู้คนที่เข้ามาในสปป.ลาวอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 ระลอกสอง เจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งให้วิเคราะห์ผลกระทบที่เป็นไปได้ของการตกต่ำของเศรษฐกิจโลกที่มีต่อสปป.ลาว กำหนดนโยบายและมาตรการที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการอย่างเข้มแข็งเพื่อต่อต้านการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนและการประพฤติมิชอบทางสังคมที่เพิ่มขึ้น ให้สื่อมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ได้รับมอบหมายให้ทำงานร่วมกับกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และท่องเที่ยวและหน่วยงานอื่น ๆ ชี้แจงประเด็นที่เป็นความกังวลของสาธารณชน มีการผลักดันให้หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐมีการจัดเก็บรายได้มากขึ้น ได้มีการอภิปรายร่างรายงานแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า กระทรวงการวางแผนและการลงทุนได้รับคำแนะนำให้ทำงานร่วมกับกระทรวงการคลังและภาคส่วนอื่น ๆ เพื่อสรุปรายงานการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 9 เดือนสำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี สมาชิกคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบในหลักการแผนแม่บท 5 ปีเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลตั้งแต่ปี 64-68 ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพของการบริหารงานของรัฐและเสริมสร้างการบริหารจัดการขององค์กรเอกชน นอกจากนี้ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับข้าราชการพลเรือนในปี 63 การมีข้าราชการใหม่ในปี 64 และร่างยุทธศาสตร์ชาติเพื่อส่งเสริมโอกาสในการจ้างงานในพื้นที่ชนบท

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_seeks_183.php

กระทรวงการวางแผนและการลงทุนส่งเสริมกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFP) เพื่อพัฒนาสตรี

ซึ่งได้จัดฝึกอบรมการเสริมสร้างศักยภาพและทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพของสตรีให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวง 33 คนในเวียงจันทน์เมื่อเร็ว ๆ นี้ การฝึกอบรมมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นความสำคัญของการมีส่วนร่วมการเป็นผู้นำและการตัดสินใจของสตรี นางคำจันทร์วงศ์ เส็งบุญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเป็นประธานร่วมในการฝึกอบรมกับผู้แทน UNFPA กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทุกคนต้องมีสิทธิและโอกาสเท่าเทียมกัน โดยปราศจากความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติ ความเสมอภาคและการเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ข้อตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและยังเป็นส่วนสำคัญในทุกมิติของการพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืน

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Planning_183.php