รัฐบาลสปป.ลาวสั่งห้ามการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั่วคราวทั่วประเทศ

สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (PMO) เพิ่งได้รับการปล่อยประกาศสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆและนายกเทศมนตรีนครหลวงเวียงจันทน์ในเรื่องการงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงวันหยุดปีใหม่อย่างเคร่งครัดโดยผู้จัดจำหน่ายซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ตลาดและองค์กรการค้าออนไลน์ห้ามมิให้มีการขายและจัดจำหน่ายสุราเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หากผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษตามบทบัญญัติของกฎหมาย โดยกฎระเบียบใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน (เริ่มเวลา 6 โมงเช้า) ซึ่งตรงกับวันแรกของวันหยุดปีใหม่ทางจันทรคติ จนสิ้นสุดเวลา 6 โมงเช้าของวันที่ 20 เมษายนทั้งนี้เป็นมาตรรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการระงับการแพร่ระบาดของสปป.ลาว เพราะการงดจำหน่ายเหล้าเบียร์จะช่วยลดการสังสรรค์ในเทศกาลวันปีใหม่ของชาวสปป.ลาวอันจะนำมาซึ่งการแพร่ระบาดอย่างหนัก ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตราการดังกล่าวออกมาเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19  ในขณะนี้ 

ที่มา : https://laotiantimes.com/2020/04/13/government-imposes-temporary-ban-on-sale-of-alcoholic-beverages-during-pi-mai/

มูลนิธิพงษ์สวาทช่วยให้โรงพยาบาล 103 แห่งต่อสู้กับโควิด -19

มูลนิธิพงษ์สวาทได้บริจาคเวชภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภคมูลค่าประมาณ 66.56 ล้านกีบให้แก่โรงพยาบาล 103 แห่งเพื่อช่วยในการต่อสู้กับโควิด -19 โดยเป็นสินค้าที่บุคลากรทางการแพทย์มีความต้องการในขณะนี้ได้แก่ ถุงมือแพทย์ เจลทำความสะอาดมือฆ่าเชื้อ มาสก์รวมถึงอาหารสำเร็จรูปไม่เพียงแค่การพัฒนาประสิทธิภาพด้านสาธารณะก่อนหน้านี้มูลนิธิพงษ์สวาทยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของสปป.ลาวและยังสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีส่วนสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม ทั้งนี้มูลนิธิมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งในการร่วมมือกับรัฐบาลสปป.ลาวในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสปป.ลาว

ที่มา : http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Phongsavanh78.php

รัฐบาลกัมพูชาดำเนินการเร่งด่วนด้านความมั่นคงทางอาหาร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานด้านเกษตรดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อรับรองความมั่นคงด้านอาหารของประเทศเพื่อตอบสนองต่อการระบาดของ COVID-19 โดยอธิบดีกรมวิชาการเกษตรให้ทำการบันทึกสต๊อกข้าวและข้าวในโรงสีชุมชน รวมถึงในแต่ละครัวเรือนเพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนของสถานการณ์อาหารและระบุพื้นที่ที่มีศักยภาพในการปลูกผักเพื่อทำการรับมือ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรยังเรียกร้องให้ทำการประมาณการปริมาณความต้องการซื้อเนื้อสัตว์ในประเทศในปี 2563 นอกจากนี้ยังได้สั่งให้หน่วยงานการประมงประเมินความต้องการและอุปทานของผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาตอบสนองความต้องการภายในประเทศ โดยราคาในตลาดต้องมีเสถียรภาพ รวมถึงเพื่อให้แน่ใจว่ามีสต็อกเพียงพอสำหรับคนในประเทศ ซึ่งความต้องการเนื้อสุกรจากประเทศกัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 2.9 ล้านตันต่อปี ปริมาณปศุสัตว์เพิ่มขึ้น 37% ในปี 2562 เมื่อเทียบกับปี 2561 ในแง่ปริมาณสต็อกข้าวตัวเลขทางการแสดงว่าในปี 2562 ผลผลิตรวมอยู่ที่ 10.88 ล้านตัน โดยมีส่วนเกิน 5.76 ล้านตัน ปลาจากธรรมชาติและปลาจากฟาร์มเลี้ยงก็เพิ่มขึ้นในปี 2562 เช่นกันอยู่ที่ 908,000 ตัน มีไว้เพื่อการบริโภคในปี 2562 เพิ่มขึ้น 21% เมื่อปี 2561

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50712467/govt-call-for-urgent-action-on-food-security/

สถานการณ์ราคามะม่วงในกัมพูชา ณ ปัจจุบัน

กระทรวงเกษตรป่าไม้และการประมงได้ออกมาตรการเพื่อป้องกันการลดลงของราคาของมะม่วง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ตามที่กระทรวงระบุ ซึ่งกระทรวงกล่าวว่าในขณะที่รัฐบาลกัมพูชากำลังต่อสู้กับการแพร่กระจายของ Coronavirus โรคระบาดไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน แต่ส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลทำให้ราคาสินค้าเกษตรลดลง เพื่อป้องกันการลดลงของราคามะม่วงกระทรวงได้ประกาศมาตรการรวมถึงการกระตุ้นให้หน่วยงานด้านการเกษตรในจังหวัดต่างๆร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมเกษตรทำงานอย่างใกล้ชิดกับเกษตรกร ซึ่งกระทรวงยังกระตุ้นให้หน่วยงานระดับจังหวัดเตรียมการฝึกอบรมด้านเทคนิคให้กับเกษตรกรและเชื่อมโยงพวกเขาสู่ตลาดโดยการทำสัญญา ราคามะม่วงในปัจจุบันลดลงอย่างรวดเร็วและเราไม่สามารถคาดการณ์สถานการณ์ได้เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 อย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันราคาของมะม่วงอยู่ที่ 320 riels ต่อกิโลกรัมลดลงจาก 800 riels ในปี 2019 กระทรวงกล่าวว่าในปัจจุบัน บริษัท มะม่วงซื้อมะม่วงประมาณ 20 ถึง 30 ตันทุกวันโดยบริษัทผู้แปรรูปในประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50712431/mango-prices-must-stay-same/

เวียดนามเผยยอดขายรถจักรยานยนต์ไตรมาสแรก “ดิ่งลง”

จากรายงานของสมาคมผู้ผลิตรถจักรยานยนต์เวียดนาม (VAMM) ระบุว่ายอดขายในช่วงไตรมาสแรกทั้งสิ้น 731,077 คัน ลดลงร้อยละ 3.03 เมื่อเทียบกับปีก่อน แสดงให้เห็นว่าสมาชิกของสมาคม 5 แห่ง ได้แก่ Honda, Piaggio, Suzuki, SYM และ Yamaha จำหน่ายได้เพียง 244,000 คันต่อเดือน อย่างไรก็ตาม คนวงใน กล่าวว่าสภาพตลาดรถจักรยานยนต์เวียดนามในปัจจุบัน มียอดขายสูงกว่าจากตัวเลขรายงานของสมาคมเผยแพร่ เนื่องจากยังมีแบรนด์อื่นๆที่ไม่ได้เข้าร่วมสมาคมข้างต้น อาทิ Kymco, Ducati, Kawasaki, BMW, KTM, Benelli and Harley Davidson เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ายอดขายรถจักรยานยนต์จะดิ่งลง เป็นผลมาจากความอิ่มตัวของตลาดและเทรนด์ที่เริ่มลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าในปี 2561, 2562 และไตรมาสแรกปีนี้ ยอดขายลดลงร้อยละ 2.5, 4 และ 3.03 เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามลำดับ นอกจากนี้ ความเป็นอยู่ของคนเวียดนามที่ดีขึ้นและราคารถยนต์ลดลง ส่งผลให้คนหันมาซื้อรถยนต์มากขึ้นแทนรถจักรยานยนต์

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/motorcycle-sales-decrease-in-first-quarter/171624.vnp

เวียดนามส่งออกผักผลไม้ไตรมาสแรก 836 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) ระบุว่ามูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่ 836 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 10.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์สำคัญที่มีมูลค่าลดลง ได้แก่ แก้วมังกร กล้วย ลำไย แตงโม ทุเรียนและเห็ดหอม เป็นต้น จีนยังคงเป็นผู้นำเข้าผักและผลไม้รายใหญ่ที่สุดจากเวียดนาม ด้วยมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 29.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในขณะเดียวกัน ตลาดอื่นๆ ยังมีการเติบโตเล็กน้อยตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนมีนาคม อาทิ อินโดนีเซีย ไทย สปป.ลาว รัสเซียและกัมพูชา ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เผยว่าในปี 2562 ภาคอุตสาหกรรมผักผลไม้เผชิญกับความลำบาก เนื่องจากจีนมีข้อกำหนดที่เข็มงวดในการนำเข้าหลายอย่างจากเวียดนาม ผ่านการกักตุนสินค้าและการตรวจสอบย้อนกลับ อย่างไรก็ตาม หลายตลาดยังมีการเติบโตที่ดีอยู่ อาทิ อาเซียน สหรัฐฯและสหภาพยุโรป

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/fruit-vegetable-exports-reach-836-million-usd-in-q1/171613.vnp

ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในเมียนมา เพิ่มขึ้นอีก 53 ราย

กระทรวงสาธารณสุขรายงานเมื่อวันที่ 13 เมษายนมีผู้ติเชื้อ COVID-19 ในประเทศแล้ว 12 รายทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อ เป็น 53 ราย จำนวน 12 รายเป็นคนที่เข้ารับการกักตัวที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่าง ๆ มีอาการ เช่น ไข้ ไอ และเจ็บคอเป็นต้น จำนวนผู้ป่วย COVID-19 ที่ตรวจพบใหม่สูงสุดในวันเดียวนับตั้งแต่มีรายงานผู้ป่วย 2 รายแรกเมื่อวันที่ 23 มีนาคม จากจำนวนผู้ป่วย COVID-19 ทั้งหมด 53 รายมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 รายและรักษาหายแล้ว 2 ราย

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-reports-another-surge-covid-19-cases-52.html

สศช.ขอเอกชนเคาะข้อเสนอเร่งด่วนใน 1 สัปดาห์

สศช. ประชุมคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนนัดแรก ให้แบ่ง 5 กลุ่มกลับไปจัดลำดับความสำคัญข้อเสนอมาคุยอีกครั้ง 20 เม.ย.นี้ ก่อนรวบรวมเสนอรัฐบาล นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นัดแรก ว่า ที่ประชุมฯ ได้รับทราบข้อเสนอของภาคเอกชนทั้งหมดทุกกลุ่มที่เสนอมาในการประชุมครั้งนี้ แต่เนื่องจากข้อเสนอมีหลายเรื่อง จึงจัดกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องด้นต่างๆ กลับไปกลั่นกรอง และจัดลำดับความสำคัญว่าข้อเสนอนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะทำหรือไม่ หรือมีความคุ้มค่ามากเพียงใด จากนั้นจึงให้รวบรวมข้อเสนอมาหารือกันอีกครั้งในวันที่ 20 เม.ย.นี้ จากนั้น สศช.จะพิจารณาอีกครั้งว่า ข้อเสนอที่เสนอมานั้นเรื่องใดทำได้ทันที หรือเรื่องให้ต้องนำไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน หากข้อเสนอใดมีความพร้อมจะเสนอให้ครม.พิจารณา พร้อมทั้งยังเปิดพื้นที่สาธารณะในการรับฟังความคิดเห็นผ่าน Facebook “ร่วมด้วยช่วยคิด” ซึ่งจะได้รวบรวมประมวลและนำเสนอครม.ต่อไปด้วย. สำหรับการทำงานทั้ง 5 กลุ่ม แบ่งเป็น กลุ่มมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) ,กลุ่มมาตรการเพื่อการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ ,กลุ่มมาตรการเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ,กลุ่มมาตรการเพื่อภาคเกษตร และกลุ่มมาตรการเพื่อการแก้ไขปัญหาด้วยดิจิทัล

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/768722