อินเดียเพิ่มการนำเข้าถั่วดำจากเมียนมา

จากข้อมูลเดือนต.ค. ที่ผ่านมาอินเดียนำเข้าถั่วดำจำนวนมากจากเมียนมา อินเดียกำหนดระบบโควตาสำหรับพืชจากเมียนมาโดยมี 3 บริษัทได้รับอนุญาตจากรัฐบาลอินเดียให้นำเข้าจากเมียนมา ช่วง ต.ค.ราคาถั่วดำอยู่ที่ประมาณ 80,000 จัตต่อตัน แต่ตอนนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านจัตต่อตัน รายงานระบุว่าผลผลิตในอินเดียต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้และมีการซื้อจากเมียนมา 3,000 ถึง 4,000 ตันต่อสัปดาห์ตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา อินเดียซื้อกรัมดำจำนวนมากภายใต้ระบบโควต้าในราคาที่ต่ำกว่าแต่ตอนนี้อินเดียซื้อในราคาที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรปศุสัตว์และการชลประทานพบว่า 77% ของการเพาะปลูกส่งออกไปยังอินเดีย โดยจะเพาะปลูกในเดือนมี.ค.และเม.ย. และเก็บเกี่ยวในเดือนก.ย.หรือต.ค. พืชที่ปลูกส่วนใหญ่อยู่ในเขตมะกเว, เขตอิรวดี, ย่างกุ้ง, มั ฑะเลย์ และเขตสะกาย

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/india-buying-more-black-gram-myanmar.html

บริษัทผลิตน้ำผึ้งเมียนมาชนะเลิศเหรียญทองสำหรับน้ำผึ้งที่ผลิตในท้องถิ่น

บริษัทในเครือ Smile Happy Co Ltd ได้รับการตอบรับจากสมาคมระหว่างประเทศของผู้เลี้ยงผึ้งในการเข้าร่วมงาน World Beekeeping Awards ที่จัดขึ้นในระหว่างการประชุม Apimondia ครั้งที่ 46 ที่เมืองมอนทรีออลประเทศแคนาดา เมื่อ ก.ย.ที่ผ่านมา และได้รับรางวัลเหรียญทองสำหรับแบรนด์ IM Honey บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 43 ปัจจุบันส่งออกน้ำผึ้งไปยังแคนาดา ซาอุดิอาระเบีย ญี่ปุ่น และไทย ปีหน้ามีแผนส่งน้ำผึ้งเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมสมาคม Apicultural แห่งเอเชียในเวียดนาม ทั้งนี้มีผลิตภัณฑ์ศักยภาพในการเติบโตเนื่องจากการบริโภคค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น โดย Smile Happy Co ร่วมกับสมาคม Apicultural ในการฝึกอบรมและการพัฒนาอุตสาหกรรม ในการเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งไปยังสหภาพยุโรป ภาคการเลี้ยงสัตว์ของประเทศได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้ในกฎหมายอาหารของยุโรปและร่วมมือกับ German Corporation งาน Apimondia International Apicultural Congress ครั้งที่ 46 มีผู้เข้าร่วมกว่า 6,000 คนจาก 80 ประเทศ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/local-company-wins-gold-medal-locally-produced-honey.html

บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด คว้ารางวัล ASEAN Business Awards (ABA) 2019 (อาเซียน บิสิเนส อวอร์ดส 2019) อีกก้าวของความสำเร็จ

บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าลำลองแบรนด์แกมโบล (GAMBOL) และ คาเนีย (cania) แบรนด์รองเท้าชั้นนำของไทย เข้ารับรางวัล ASEAN Business Awards (ABA) 2019 ประเภท ASEAN Winner : Rubber-Based (หมวด ธุรกิจเกี่ยวกับยาง) ในงานประชุมสุดยอดผู้นำธุรกิจ ASEAN Business and Investment Summit 2019 หรือ ABIS 2019 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้มอบรางวัล ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับการประชุมครั้งนี้เป็นเวทีคู่ขนานสำคัญของการจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน(ASEAN Summit) ที่จัดขึ้น เป็นประจำทุกปี เกณฑ์การตัดสินรางวัลแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ และ SMEs สำหรับคณะกรรมการตัดสิน ABA (Panel of Judges) นั้น ประกอบด้วยผู้แทนจากสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ประเทศละ 1 ท่าน รางวัลนี้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2550 โดยสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน เพื่อยกย่องเชิดชูธุรกิจที่มีความโดดเด่นในอาเซียน และแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในการวางรากฐานและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ

ที่มา: https://www.ryt9.com/s/prg/3065610

อุตสาหกรรมประกันภัยของกัมพูชากับการเติบโตที่แข็งแกร่ง

อุตสาหกรรมประกันภัยในกัมพูชายังคงมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นโดยมีเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นอีกกว่า 14% ในช่วงครึ่งปีแรก โดยประธานสมาคมประกันภัยกัมพูชา (IAC) กล่าวว่าเบี้ยประกันภัยรวมในอุตสาหกรรมประกันภัยเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 35% ต่อปีในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้อำนวยการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกล่าวว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนเบี้ยประกันขั้นต้นมีมูลค่าถึง 49.3 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเบี้ยประกันชีวิตไปพุ่งแตะ 66.3 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 55.3% ซึ่งกัมพูชามีบริษัทประกันภัยแบบทั่วไป 13 แห่ง บริษัทประกันชีวิต 11 แห่ง และ บริษัทประกันภัยขนาดเล็กอีก 7 แห่งตามรายงานจากกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง โดยจากรายงานการลงทุนของอาเซียนปี 2562 เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า FDI ในกัมพูชาส่วนใหญ่จะเป็นภาคการผลิตและบริการโดยเฉพาะด้านการเงินและการประกันภัย โดยภาคบริการคิดเป็นกว่า 79% ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในประเทศกัมพูชา

ที่มา :https://www.khmertimeskh.com/50658069/insurance-industry-sees-strong-growth/

คาดมีนักท่องเที่ยวราว 4 ล้านคนในงาน Water Festival ในกัมพูชา

กระทรวงการท่องเที่ยวระบุว่านักท่องเที่ยวหลายล้านคนทั้งในและต่างประเทศ คาดว่าจะมาเที่ยวเทศกาล Water Festival ที่จัดขึ้นในกรุงพนมเปญในปีนี้ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่นชายฝั่งทะเลและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ก็คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เช่นกัน โดยโฆษกของ Top Sopheak กล่าวว่าจะมีนักท่องเที่ยวกว่า 4 ล้านคนเดินทางมากรุงพนมเปญเพื่อชมการแข่งเรือและกิจกรรมต่างๆที่จะจัดขึ้น ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวได้ร่วมมือกับสถาบันที่เกี่ยวข้อง โดยได้ทำงานเพื่อให้กระบวนการของเทศกาล Water Festival ดำเนินไปอย่างราบรื่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจุดหมายปลายทางอื่นๆ เช่น Preah Sihanoukville, Kep, Kampot, Koh Kong, Siem Reap และพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกัมพูชาก็คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสามวัน โดยเทศกาล Water Festival เป็นงานประจำปีและในปีนี้จะเริ่มตั้งแต่ 10 – 12 พฤศจิกายน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50658553/4-million-tourists-expected-at-water-festival/

รัฐบาลสปป.ลาว วางแผนที่จะรับสมัครข้าราชการใหม่ 2,000 คนในปีหน้า

รัฐบาลสปป.ลาว วางแผนที่จะรับสมัครข้าราชการใหม่ 2,000 คน ในปี 63 ตัวเลขนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ออกจากตำแหน่งในปี 62 โดยรองนายกรัฐมนตรีคาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 4,000 คนที่จะเกษียณ รัฐต้องจัดทำแผนเพื่อให้มั่นใจว่ามีเจ้าหน้าที่เพียงพอที่จะสนองความต้องการในอนาคตของประเทศ และได้เรียกประชุมสมาชิกสมัชชาแห่งชาติเพื่ออนุมัติแผนของรัฐบาล ซึ่งได้เตรียมงบประมาณสำหรับจำนวนข้าราชการในปีหน้าแล้ว ปัจจุบันจำนวนข้าราชการอยู่ที่ประมาณ 184,000 คนคิดเป็นร้อยละ 2.8 ของประชากรซึ่งเกินความจำเป็น  แม้ว่ารัฐบาลมีแผนที่จะรับสมัครข้าราชการจำนวนมากขึ้นในปีหน้า แต่ในอนาคตยังคงมีความตั้งใจที่จะลดจำนวนลง อย่างไรก็ตามกระทรวงกำลังดำเนินการเพื่อพิสูจน์ตัวเลขจริงโดยการออกบัตรประจำตัวเพื่อให้แน่ใจจำนวนคนที่ยังคงทำงานของรัฐบาล

ที่มา: http://vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_246.php

เวียดนามส่งออกใบชา 14,200 ตัน ไปยังไต้หวัน ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้

เวียดนามเผยปริมาณการส่งออกใบชาไปยังประเทศไต้หวัน 14,200 ตัน คิดเป็นมูลค่า 22.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 และ 8.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน ปี 2562 โดยประเทศไต้หวันเป็นผู้นำเข้าใบชารายใหญ่ของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 84.1 ของมูลค่าการนำเข้ารวม ขณะที่ ประธานสมาคมชาเวียดนาม ระบุว่าเวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกใบชา ประมาณ 125,000 เฮกตาร์ ส่วนใหญ่อยู่ในทางตอนเหนือของประเทศไทย ซึ่งเวียดนามเป็นประเทศที่มีพื้นที่เพาะปลูกใบชาขนาดใหญ่ที่สุดในอันดับ 2 ของโลก มีการบริโภคชาในประเทศอยู่ที่ 45,000 ตันต่อปี และปริมาณการส่งออก 145,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 245 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/vietnam-exports-14200-tonnes-of-tea-to-taiwan-in-nine-months-405969.vov

ราคาเนื้อหมูพุ่งสูงขึ้นในรอบ 5 ปี

จากข้อมูลของสมาคมปศุสัตว์เวียดนาม เปิดเผยว่าราคาเนื้อหมูในเวียดนามพุ่งระดับสูงขึ้นอยู่ที่ 71,000 ด่อง (3 เหรียญสหรัฐฯ) ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูแอฟริกา นับว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ซึ่งทางข้อมูลของบริษัทด้านอาหาร Vissan ระบุว่าราคาเนื้อหมูส่วนใหญ่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับ 64,000 ด่องต่อกิโลกรัม (2.76 เหรียญสหรัฐฯ) ทั้งนี้ รัฐบาลได้สั่งให้กระทรวง และหน่วยงานในท้องถิ่นและจังหวัด พยายามควบคุมราคาเนื้อหมูให้มีเสถียรภาพ และคุมสต๊อกเนื้อหมูให้เพียงพอไปจนถึงสิ้นปีนี้ หากปริมาณเนื้อหมูไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง นอกจากนี้ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่าปริมาณสุกรลดลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในเดือนตุลาคม เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส

ที่มา: https://e.vnexpress.net/news/business/industries/pork-prices-hit-5-year-high-4008921.html