‘เวียดนาม’ กลายเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลโตเร็วสุดในอาเซียน

อแมนดา เมอร์ฟี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธนาคาร HSBC เปิดเผยว่าเวียดนามจะกลายมาเป็นตลาดชั้นนำของอุตสาหกรรมดิจิทัลทั้งธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ จากการประเมินชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนามเติบโตได้อย่างโดดเด่น โดยในปี 2566 มูลค่าของเศรษฐกิจดิจิทัล มีสัดส่วน 16.5% ต่อ GDP และมีบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลมากกว่า 1,500 แห่ง ทำรายได้จากตลาดต่างประเทศ เพิ่มขึ้นมากกว่า 7% เมื่อเทียบกับปี 2565

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 60% วางแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยีและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่ระบบการชำระเงินดิจิทัล อีคอมเมิร์ซและปัญญาประดิษฐ์ (AI)

นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์พบว่ากลุ่มประเทศในอาเซียน มีอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสูงที่สุดแห่งเดียวในโลก ในขณะเดียวกันรายได้จากอีคอมเมิร์ซ มีมูลค่าเกินกว่า 100 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-emerges-as-fastest-growing-digital-economy-in-asean-2274332.html

ออสเตรเลียกระชับความร่วมมือกับ สปป.ลาว และอาเซียน

การประชุมสุดยอดพิเศษอาเซียน-ออสเตรเลีย เมื่อเดือนที่แล้ว ออสเตรเลียได้ประกาศการลงทุนเพิ่มเติมจำนวน 222.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 146 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับแผนสนับสนุนการเติบโตของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง การให้ทุนระยะที่สองในอีกห้าปีข้างหน้าจะจัดการกับลำดับความสำคัญและความท้าทายที่มีร่วมกัน โดยมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงความมั่นคงทางน้ำ การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจ และการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ นอกจากนี้ โครงการ Partnerships for Infrastructure ของออสเตรเลีย จะขยายเงินทุน 140 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สิ่งนี้จะสนับสนุนลำดับความสำคัญของภูมิภาค เช่น ความร่วมมือลาว-ออสเตรเลีย ในด้านการเชื่อมโยงพลังงานและการขนส่ง แผนเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าออสเตรเลียจริงจังกับการกระชับความร่วมมือกับอาเซียนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และทำงานร่วมกับ สปป.ลาว เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/04/08/australia-strengthens-partnerships-with-laos-asean/

กัมพูชาพร้อมจัด “Cambodia-ASEAN Business Summit 2024” เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ

การประชุมสุดยอดธุรกิจกัมพูชา-อาเซียน 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-2 เมษายน ณ โรงแรม Sofitel Phnom Penh Phokeethra โดยมีเป้าหมายในการรวบรวมผู้นำทางธุรกิจ นักนโยบาย และนักคิดชั้นนำจากทั่วภูมิภาคอาเซียน เพื่อหารือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงที่เพิ่มขึ้นของอาเซียน รวมถึงความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัล นอกจากนี้ยังจะพูดถึงความท้าทายในการสร้างการเติบโตอย่างทั่วถึง โดยแนวคิดการจัดประชุมในครั้งนี้มุ่งหวังที่จะเป็นตัวเร่งในการปลดล็อกศักยภาพอันมหาศาลของภูมิภาคอาเซียน บนโครงสร้างการจัดงาน 3 แกนหลัก ได้แก่ การเชื่อมโยงเครือข่ายทางธุรกิจ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ทางการค้าการลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน การเปิดประตูสู่อาเซียน ด้วยการผลักดันศักยภาพของกัมพูชาที่จะก้าวไปสู่การเป็น Regional Hub ทางการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน และการปรับใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัล ด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในอาเซียน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501465511/cambodia-asean-business-summit-to-kickstart-today/

เมียนมาเป็นประธานการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจริเริ่มเพื่อบูรณาการอาเซียน (IAI) ครั้งที่ 72

ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (MoFA) ระบุว่า U Aung Myo Myint ผู้แทนของเมียนมาประจำอาเซียน เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจริเริ่มเพื่อการบูรณาการอาเซียน (IAI) ครั้งที่ 72 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ภายในการเสวนาได้มีการหารือถึงสัญญาณของความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนงาน IAI 4 (พ.ศ. 2564-2568) และมีการหารือถึงโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ของการดำเนินการตามแผนงาน III สมาชิกของ IAI Task Force อนุมัติโครงการใหม่ 16 โครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Work Plan IV ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งจะได้รับความช่วยเหลือจากสิงคโปร์ เยอรมนี ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และอินเดีย นอกจากนี้ ยังหารือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของผู้ประสานงานระดับชาติจากกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ในการทำงานติดตามผลผลิตสำหรับแผนงาน IAI IV และความช่วยเหลือจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจสำหรับอาเซียนและเอเชียตะวันออก (ERIA) เพื่อพัฒนากรอบยุทธศาสตร์ Priority Economic Deliverable (PED) ของลาวในปีนี้

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-chairs-72nd-initiative-for-asean-integration-iai-task-force-meeting/

ไทยอันดับ 1 ประเทศผู้ผลิตยานยนต์มากที่สุดในอาเซียน ด้านการแพทย์ดีที่สุดระดับโลก

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศวิสัยทัศน์ 8 ด้าน ให้ไทยก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในภูมิภาค มุ่งมั่นส่งเสริมทุกด้านที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ และเป็นด้านที่ไทยมีศักยภาพ โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) และศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Hub) ทั้งนี้ เห็นความคืบหน้าจาก ไทยครองอันดับ 1 ประเทศผลิตรถยนต์มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2566 และผลการจัดอันดับ 250 โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลกประจำปีพ.ศ. 2567 (250 World’s Best Hospitals 2024) ที่จัดให้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ของไทย อยู่ในอันดับที่ 130 (สูงกว่าปีที่แล้วที่เคยอยู่ในอันดับที่ 182)

ที่มา : https://www.naewna.com/politic/795150#google_vignette

รัฐมนตรีสหภาพแรงงานและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 30

คณะผู้แทนเมียนมานำโดย ดร.คาน ซอ รัฐมนตรีสหภาพแรงงานและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 30 ซึ่งจัดขึ้นที่หลวงพระบาง สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 8-9 มีนาคม 2567 รัฐมนตรี โดยการประชุมดังกล่าวมีนายมาลัยทอง คมมสิต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สปป. ลาว เป็นประธาน และมีรัฐมนตรีเศรษฐกิจจากอาเซียน และติมอร์เลสเต เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจ (SEOMs) และผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน สมาชิกสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน เลขาธิการอาเซียน รองเลขาธิการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเจ้าหน้าที่ ในช่วงแรกของการประชุม สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนได้นำเสนอลำดับความสำคัญสำหรับปี 2567 และข้อเสนอแนะสำหรับการเสริมสร้างการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ส่วนในช่วงที่ 2 ของการประชุม รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้หารือและให้แนวทางกิจกรรมต่างๆ ที่จะดำเนินภายใต้เสาหลักเศรษฐกิจอาเซียน ตามผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 43 รวมถึง ลำดับความสำคัญสำหรับปี 2024 ประเด็นการลงนามข้อตกลงเศรษฐกิจอาเซียน ความคืบหน้าของการเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน และ ความคืบหน้าของการเจรจากรอบความตกลงเศรษฐกิจอื่นๆ อย่างไรก็ดี เขายังแสดงความจำเป็นที่จะต้องเร่งการเจรจาเพื่อให้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (3.0) ยกระดับการเจรจาให้แล้วเสร็จภายในปี 2567 เกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) นอกจากนี้ รัฐมนตรีสหภาพเมียนมาเน้นย้ำว่า กำลังทำงานร่วมกับประเทศสมาชิก ในฐานะประเทศสมาชิก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาหลักการของความเสมอภาค พันธกรณีร่วมกัน และความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mifer-union-minister-attends-30th-asean-economic-ministers-retreat-meeting/

ภาคเอกชน ขอ ธปท.ดูอัตราดอกเบี้ย ชี้ไทยสูงกว่าประเทศอื่นในอาเซียน

นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่อยู่ระดับ 2.5% ซึ่งสูงในรอบ 10 ปี ว่า อยากเสนอแนะต่อคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แบงก์ชาติ ให้พิจารณาอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถือว่าอยู่ในอัตราที่สูง และยังไม่มีกลไกกำกับดูแลว่า ควรจะอยู่ที่อัตราเท่าไหร่ หากเปรียบเทียบตัวเลขระหว่างเงินกู้ไทยเทียบกับประเทศอาเซียน ปรากฎว่า อัตราดอกเบี้ยของประเทศไทยสูงกว่ามาก ดังนั้น อาจต้องพิจารณาระดับที่เหมาะสม

ที่มา : https://ch3plus.com/news/economy/ch3onlinenews/388225

‘ธุรกิจแคนาดา’ เร่งศึกษาตลาดเวียดนาม ดันโอกาสสินค้าและบริการ

สำนักงานพัฒนาการส่งออกของแคนาดา (EDC) ได้ประสานงานกับสำนักงานการค้าเวียดนามในการจัดกิจกรรมสัมมนา ระหว่างวันที่ 27-29 มี.ค. มีคณะผู้แทนธุรกิจของแคนาดา 150 ราย เพื่ออัปเดตสถานการณ์เศรษฐกิจเวียดนาม และประเมินผลการดำเนินงานในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ทั้งนี้ เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของแคนาดาในกลุ่มประเทศอาเซียน มีมูลค่าการค้าทวิภาคีราว 14 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2566 นอกจากนี้ยังเป็นคู่ค้าสำคัญของแคนาดาในข้อตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ซึ่งได้นำโอกาสให้กับสินค้าและบริการของแคนาดาในการเข้าถึงตลาดเวียดนามและอาเซียน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/canadian-enterprises-learn-about-vietnamese-market/279723.vnp

สปป.ลาว จับตาการเชื่อมโยงพลังงานกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียนอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น

สปป.ลาว หวังที่จะกระชับความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อเอาชนะความท้าทายในการพัฒนาพลังงานกับประเทศอาเซียนอื่นๆ โดยมีความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาคที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซึ่งจะหารือในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านพลังงานของอาเซียนในเดือนมิถุนายน 2567 นอกจากนี้ ที่ประชุมยังจะหารือถึงแนวทางในการเปลี่ยนผ่านไปสู่แหล่งพลังงานทดแทนใหม่ๆ เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ หน่วยงานด้านพลังงานของภูมิภาคจะหารือถึงความสำคัญของการบูรณาการโครงข่ายไฟฟ้าของอาเซียน เพื่อรับประกันเสถียรภาพด้านพลังงานระหว่างประเทศสมาชิก และความจำเป็นที่จะต้องก้าวไปข้างหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ หน่วยงานด้านพลังงานของลาวแจ้งให้สมาชิกอาเซียนคนอื่นๆ เกี่ยวกับแผนพลังงานที่มีลำดับความสำคัญของตนในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสพิเศษด้านพลังงานของอาเซียน ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดหลวงพระบางเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_36_Laos_eyes_y24.php

รัฐบาลเพิ่มแต้มต่อสินค้าเกษตรไทยด้วย FTA ดันครองเบอร์ 1 ส่งออกในอาเซียน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตั้งใจขับเคลื่อนนโยบายเพื่อยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศผ่านการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Area: FTA) อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อดึงดูดการค้า การลงทุนจากต่างชาติ เดินหน้าทำการค้าเชิงรุก และผลักดันให้เกิดการขยายตลาดสินค้าเกษตรไทยในต่างประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าหากเดินหน้าผลักดันความร่วมมือ FTA ให้เต็มศักยภาพจะเพิ่มตัวเลขการค้าการลงทุนได้มหาศาล ถือเป็นโอกาสสร้างแต้มต่อทางการแข่งขันให้ไทยในตลาดโลก ซึ่งขณะนี้ ไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน และเป็นอันดับ 7 ของโลก และส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน และเป็นอันดับที่ 11 ของโลก ในปี 2023 โดยตลาดคู่ค้า FTA ที่มีการส่งออกขยายตัวทางการค้าสูง ได้แก่ จีน ซึ่งขยายตัว 11% คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 42% ของการส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทย ตามมาด้วยตลาดอาเซียนที่ขยายตัว 5% ด้านสินค้าเกษตรและสินค้าเกษตรแปรรูปที่เป็นสินค้าศักยภาพที่ขยายตัวได้ดีในการส่งออกของไทยไปยังตลาดคู่ค้า FTA อันดับ 1 ยังคงเป็น ข้าว ที่มีการขยายตัวมากถึง 92% ในตลาดอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย

ที่มา : https://www.naewna.com/business/787985