กัมพูชาจ่อส่งออกมะพร้าวไปยังปักกิ่งปีนี้

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 เม.ย.) กัมพูชาจัดพิธีลงนามส่งออกมะพร้าวไปยังจีนอย่างเป็นทางการ หลังคาดว่าจะมีการส่งออกมะพร้าวสดชุดแรกภายในปีนี้ ซึ่งพิธีจัดขึ้น ณ กรุงพนมเปญ นำโดย Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา ร่วมกับ Wang Yi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ซึ่งกัมพูชาและจีนเคยได้ลงนามในข้อตกลงด้านสุขอนามัยพืชเพื่อส่งออกมะพร้าวสดจากกัมพูชาไปยังจีนเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ปัจจุบันกัมพูชามีสวนมะพร้าวจำนวน 13 แห่ง และโรงงานแปรรูป 5 แห่ง ที่ได้รับสิทธิ์ในการส่งออกมะพร้าวโดยตรงไปยังประเทศจีน ด้านรายงานของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และป่าไม้ แสดงให้เห็นว่าในปี 2022 กัมพูชาได้ปลูกมะพร้าวในพื้นที่รวม 19,998 เฮกตาร์ โดยสามารถเก็บเกี่ยวมะพร้าวได้ 14,225 เฮกตาร์ หรือร้อยละ 71 สำหรับการผลิตมะพร้าวของกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 หรือคิดเป็นจำนวน 258,935 ตัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501476326/coconut-exports-to-beijing-to-commence-this-year/

‘เวียดนาม’ เผยไตรมาสแรกปี 67 เห็นสัญญาณเชิงบวกส่งออกดีขึ้น

นาย จั่น ทัน หฮาย (Tran Thanh Hai) รองผู้อำนวยการหน่วยงานการค้าต่างประเทศของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวว่ายอดการส่งออกและนำเข้าในไตรมาสแรกของปีนี้ มีมูลค่า 178.04 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) การส่งออก 93.06 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17%YoY และการนำเข้า 84.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.9%YoY ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้าราว 8.08 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ คุณ Bui Huy Son หัวหน้าฝ่ายวางแผนการเงินของกระทรวงฯ กล่าวว่ากิจกรรมการค้าของเวียดนาม โดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดยุโรปและอเมริกา ยังคงเผชิญกับความท้าทายและโอกาสอีกมากมายในปีนี้

นอกจากนี้ ผลประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) และอุปสงค์ตลาดโลก โดยเฉพาะยุโรปและอเมริกาที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อมีทิศทางชะลอตัวลงในช่วงปลายปี 2566 และมีแนวโน้มเข้าใกล้ระดับที่ธนาคารกลางตั้งเป้าไว้ในปี 2567

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-seeing-positive-export-signs-in-q1/283806.vnp

กัมพูชาส่งออกยางพาราแปรรูปเพิ่มขึ้นถึง 90% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2024

ข้อมูลการค้าล่าสุดจากกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ระบุว่า ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2024 กัมพูชาสามารถส่งออกยางพาราแปรรูป มูลค่า 215 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของการส่งออกยางพารากัมพูชา สวนทางกันกับผลผลิตยางพาราธรรมชาติทั่วโลกที่มีแนวโน้มลดลง ภายใต้ภาวะราคายางพุ่งสูงขึ้น สำหรับทั้งปี 2023 กัมพูชาสามารถทำรายได้จากการส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพารา 919 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 69.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ตลาดยางพาราของกัมพูชาส่วนใหญ่ส่งออกไปยัง จีน เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย และสหภาพยุโรป เป็นสำคัญ ด้านผู้เชี่ยวชาญมองว่าตลาดยางธรรมชาติยังคงเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจจีนที่เติบโตต่ำกว่าคาดในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ซึ่งจีนเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากสงครามยืดเยื้อระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และ อิสราเอล-ฮามาส รวมถึงต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501458804/cambodias-rubber-article-exports-rise-90-percent/

อินโดนีเซียเตรียมนำเข้าข้าว 22,500 ตัน จากกัมพูชา เพื่อรองรับเทศกาล Eid al-Fitr

รัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนที่จะนำเข้าข้าว 22,500 ตัน จากกัมพูชา เพื่อเติมเต็มคลังข้าวภายในประเทศ รองรับความต้องการบริโภคในช่วงก่อนเทศกาลอีฎิ้ลฟิตริ (Eid al-Fitr) ตามที่สำนักงานอาหารแห่งชาติ (National Food Agency – Bapanas) แถลง โดยให้ความสำคัญกับข้าวที่ผลิตภายในประเทศเป็นอันดับแรก แต่ในครั้งนี้ทางการได้ตัดสินใจว่า บูลอก (Bulog – บริษัทโลจิสติกส์ของรัฐบาล) จะทำการจัดซื้อข้าวจากต่างประเทศ ว่าจะนำเข้าข้าว 22,500 ตัน จากกัมพูชา กล่าวโดย Arief Prasetyo Adi หัวหน้า Bapanas กล่าว ณ กรุงจาการ์ตา สำหรับปีที่แล้วรัฐบาลอินโดนีเซียได้แจกจ่ายข้าวสารช่วยเหลือประชาชนกว่าผู้ซึ่งได้รับประโยชน์กว่า 22 ล้านคน เป็นระยะเวลา 7 เดือน ขณะที่ปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าที่จะแจกจ่ายเป็นระยะเวลา 6 เดือน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501459050/indonesia-to-import-22500-tonnes-rice-from-cambodia-for-eid-al-fitr/

มันสำปะหลังเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของ สปป.ลาว ในเดือนมกราคม 67

มูลค่าการส่งออกของ สปป.ลาว ในเดือนมกราคม 2567 มีมูลค่า 561 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 749 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมันสำปะหลังเป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่ง ภายใต้มูลค่า 94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกท่าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ แร่ทองคำและทองคำแท่ง มูลค่า 44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ มูลค่า 39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยางพารา มูลค่า 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ตลาดส่งออกหลัก คือ จีน โดยมีมูลค่าการค้าประมาณ 198 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศไทยและเวียดนาม มีมูลค่าประมาณ 134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 129 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ ด้านการนำเข้า น้ำมันดีเซลเป็นสินค้านำเข้ามากที่สุด คิดเป็นมูลค่า 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลิตภัณฑ์เคมี อุปกรณ์เครื่องจักรกล ยานพาหนะทางบก และเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็มีส่วนช่วยอย่างมากต่อการนำเข้าของประเทศ โดยตลาดนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ประเทศไทย มูลค่าการนำเข้า 309 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศจีน 298 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเวียดนาม สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เป็นแหล่งนำเข้าที่สำคัญในอันดับรองลงมา

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/03/19/cassava-leads-lao-exports-in-january-2024-amid-trade-deficit/

ฮุน มาเนต เผยยอดส่งออกกัมพูชาเติบโต 16.57% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 ถึง กุมภาพันธ์ 2024 กัมพูชาสามารถส่งออกสินค้ามูลค่ารวมกว่า 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่าร้อยละ 16.57 ที่มูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ โดยถ้อยแถลงนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในโอกาสที่เป็นประธานการประชุมสภาคลัง (Council of Ministers) ณ พระราชวังสันติภาพ (Peace Palace) เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2024 ซึ่งสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชา ได้แก่ เสื้อผ้า ข้าว ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า ผัก ผลไม้ รองเท้า ยางพารา เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ขณะที่ประเทศคู่ค้าสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ จีน เวียดนาม สหรัฐฯ ไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย แคนาดา สหราชอาณาจักร และอีกหลายประเทศ โดยการเติบโตของมูลค่าการส่งออกแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจกัมพูชาเริ่มขยายตัว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501456766/pm-in-the-past-six-months-cambodia-exported-11-8-billion/

การค้าต่างประเทศของเมียนมาทะลุ 27 พันล้านดอลลาร์ใน 11 เดือน

ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์ การค้าภายนอกของเมียนมากับพันธมิตรต่างประเทศมีมูลค่ามากกว่า 27.758 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 1 มีนาคม ในปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน โดยที การส่งออกของเมียนมามีมูลค่ามากกว่า 13.378 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 14.379 พันล้านดอลลาร์ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566 ถึง 1 มีนาคม พ.ศ. 2567 อย่างไรก็ดี มูลค่าการค้าทางทะเลของเมียนมาในปีงบประมาณนี้เกินกว่า 20.55 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่การค้าชายแดนมีมูลค่า 7.207 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขการค้าในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาลดลงกว่า 3.605 พันล้านดอลลาร์ หากเทียบกับที่บันทึกไว้ในช่วงเดียวกันของปีงบประมาณที่แล้วที่มีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 31.36 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-foreign-trade-surpasses-us27b-in-11-months/

กัมพูชาส่งออกขยายตัว 22.7% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี

มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาเติบโตกว่าร้อยละ 19.2 ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2024 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ก่อน โดยมีมูลค่าการค้ารวม 8.12 พันล้านดอลลาร์ เผยแพร่โดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 คิดเป็นมูลค่ารวม 3.98 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.1 ที่มูลค่า 4.13 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในช่วงเวลาดังกล่าวที่สหรัฐฯ ยังคงเป็นปลายทางการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา รองลงมาคือเวียดนาม ส่งผลทำให้กัมพูชามีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ 1.26 พันล้านดอลลาร์ แต่ขาดดุลการค้ากับจีนที่มูลค่า 1.74 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501454157/cambodias-exports-surge-22-7-in-first-two-months/

ม.ค. มูลค่าการค้าระหว่าง กัมพูชา-RCEP ขยายตัวกว่า 21.2%

มูลค่าการค้าระหว่างกัมพูชากับประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในช่วงเดือนมกราคม 2024 มีมูลค่ารวมสูงถึง 2.74 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ (MoC) ซึ่งปริมาณการค้ารวมดังกล่าวคิดเป็นกว่าร้อยละ 67.6 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 4.05 พันล้านดอลลาร์ โดยประเทศคู่ค้าหลัก 5 อันดับแรก ภายใต้ข้อตกลง ได้แก่ จีน เวียดนาม ไทย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย ด้าน Penn Sovicheat รัฐมนตรีต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาและโฆษก กล่าวว่า RCEP ถือเป็นตัวเร่งการเติบโตทางการค้าของประเทศ และเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรมากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501449110/cambodias-trade-with-rcep-countries-up-21-2-pct-in-january/

ผู้ค้าผลไม้เมียนมาหันมาจับตาตลาดในประเทศ ท่ามกลางการเสียหายของสินค้าที่เกิดจากการส่งออก

ผู้ค้าผลไม้เมียนมา กล่าวถึง อุปสรรคในการคมนาคมในช่องทางเชียงตุง ช่องมองลา และพะโม ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศสุดขั้วในฝั่งจีน การถูกระงับที่ชายแดนเพราะนโยบายฝั่งจีนที่มีความเค้มงวดมากขึ้น ความเสียหายของสินค้าจากการคมนาคมบนถนนที่ขรุขระส่งผลต่อคุณภาพของแตงโมที่ส่งไปยังประเทศจีน ส่งผลให้ราคาสินค้าตกต่ำลง ทำให้ผู้ค้าจึงเริ่มจับตาดูตลาดภายในประเทศ เนื่องด้วย ราคาส่งออกในปัจจุบันไม่ครอบคลุมค่าขนส่งและต้นทุนทั่วไปอื่นๆ ค่าอากรที่ด่านชายแดนอยู่ที่ 35,000-40,000 หยวนต่อรถบรรทุก ทั้งนี้ รถบรรทุกแตงโม 100 คันมุ่งหน้าสู่จีน มีเพียง 10 คันเท่านั้นที่สามารถครอบคลุมค่าขนส่ง อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าผลไม้เน้นย้ำว่าพวกเขากำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยืดเยื้อท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนโยบายในจีน สืบเนื่องจากเมื่อปี 2021 ข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 ขัดขวางการส่งออกแตงโมและแตงไทยของเมียนมาไปยังจีน ระเบียบศุลกากรจีนเพิ่มความล่าช้า รถบรรทุกล่าช้าเป็นเวลานานส่งผลเสียต่อคุณภาพแตงโม และมีเพียง 1 ใน 5 รถบรรทุกที่มุ่งหน้าไปยังจีนเท่านั้นที่ยังคงไม่ได้รับความเสียหาย ทำให้ผู้ค้าจำเป็นต้องพิจารณาเวลาการส่งมอบ ราคา และความสามารถในการทำกำไร เนื่องจากแตงโมเป็นผลไม้ที่เน่าเสียง่ายในขณะที่พยายามสำรวจตลาดใหม่นอกเหนือจากประเทศจีน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/traders-eye-domestic-market-amid-export-loss/