ผู้ว่าธนาคารกลางเมียนมา เข้าพบเจ้าหน้าที่ธนาคารไทย

เช้าวานนี้ ณ ห้องประชุมธนาคารกลางแห่งเมียนมา สาขาย่างกุ้ง ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งเมียนมา และเจ้าหน้าที่จากธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย ได้พบกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มเติมของไทยในเมียนมา บริการธนาคารเงินตราต่างประเทศระหว่างเมียนมาและไทย โดยนโยบายของ CBM เพื่อรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การส่งเงินการค้าและแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา ให้มีการปรับเปลี่ยนจากช่องทางที่ถูกกฎหมายแทนการใช้ช่องทางที่ผิดกฎหมาย การอำนวยความสะดวกในการส่งมอบค่าจ้างของแรงงานเมียนมาในประเทศไทยให้กับครอบครัว การลงทุนเพิ่มเติมจากไทยในเมียนมา การศึกษาและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทางการเงินการดำเนินการแลกเปลี่ยนเงินที่จะได้รับความร่วมมือจากธนาคารไทย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องให้การสนับสนุนทางการเงิน (การจัดหาเงินทุนเพื่อการส่งออกก่อนการจัดส่งและภายหลังการส่งสินค้า) เพื่อพัฒนาการค้าระหว่างไทยและเมียนมา อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการอำนวยความสะดวกในการโอนเงินตราต่างประเทศระหว่างทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/cbm-governor-meets-thai-banks-officials/

เขตมินบู มีแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรจากโครงการชลประทานพลังงานแสงอาทิตย์ 19 โครงการ

กรมชลประทานและการจัดการการใช้น้ำของเมียนมา ระบุว่า โครงการชลประทานพลังงานแสงอาทิตย์ 19 โครงการได้ดำเนินการในเขตมินบู โดยได้รับเงินกู้จากกองทุนส่งเสริมเศรษฐกิจของรัฐ เพื่อปรับปรุงคุณทางสังคมและเศรษฐกิจของเกษตรกรในภูมิภาคจากเมืองต่างๆ และเพื่อเพิ่มผลผลิตพืชผลในท้องที่ โดยทั้ง 19 โครงการ ได้รับการอนุมัติด้วยเงินกู้จำนวน 78.365 ล้านจ๊าด และประสบความสำเร็จอย่างมากในการปลูกพืชผลในเขตดังกล่าว  อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จากกรมชลประทานและการจัดการการใช้น้ำ กล่าวว่า ชาวนาแต่ละรายกู้ยืมเงิน 5.625 ล้านจ๊าด ในอัตราดอกเบี้ยต่ำโดยมีระยะเวลากู้ยืม 1 ปี สิ่งอำนวยความสะดวกด้านชลประทานได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีในการจัดหาน้ำเพื่อการเกษตรให้กับพืชผลในพื้นที่ที่ยากลำบาก นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่าเกษตรกรในท้องถิ่นสามารถปลูกพืชได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าต่อปี ด้วยระบบชลประทานพลังงานแสงอาทิตย์แบบใหม่ ระบบใช้น้ำใต้ดินและจัดหาน้ำประปาที่เชื่อถือได้ทุกครั้งที่ต้องการ สิ่งนี้มาแทนที่การพึ่งพาน้ำฝนแบบดั้งเดิมและลดต้นทุนเชื้อเพลิงสำหรับเกษตรกร รวมทั้ง ระบบดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มผลผลิตพืชผลและปรับปรุงชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของเกษตรกร จากข้อมูลของหน่วยงานดังกล่าว กองทุนส่งเสริมเศรษฐกิจของรัฐจะถูกใช้เพื่อขยายระบบน้ำประปาพลังงานแสงอาทิตย์นี้ไปยังเมืองอื่นๆ ในเขตมินบูด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/minbu-district-enjoys-agricultural-water-from-19-solar-powered-irrigation-projects/

ตลาดหลักทรัพย์ย่างกุ้ง หารือเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการล่วงหน้าและที่ปรึกษา

ตลาดหลักทรัพย์ย่างกุ้ง (YSX) ได้จัดการเสวนาในคณะกรรมการจดทะเบียนและแต่งตั้งที่ปรึกษา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม และได้ประกาศด้วยว่า บริษัท เอเชีย แปซิฟิค บิสสิเนส กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กำลังพยายามจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่ YSX ด้านนาย U Myo Hein ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Myanmar Enterprise Solutions กล่าวว่า “บริษัท APC ได้แต่งตั้งให้เราเป็นเจ้าหน้าที่รับจดทะเบียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการสำหรับคณะกรรมการจดทะเบียนหุ้น แม้ว่า YSX จะได้รับการพัฒนามาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว แต่ความสนใจของสาธารณชนยังคงต่ำ เนื่องจากกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด บริษัทหลายแห่งจึงไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่จำเป็น อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจดทะเบียนล่วงหน้าก่อตั้งขึ้นในปี 2565 และในปี 2567 มีบริษัทจดทะเบียน 3 แห่ง ทั้งนี้ มีการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าสู่ YSX Pre-listing Board ของ APC Public Holding Limited นอกจากนี้ ภายในงานยังได้พูดคุยถึงสิ่งที่บริษัทต่างๆ ต้องเตรียมการเข้าสู่คณะกรรมการจดทะเบียนล่วงหน้า และให้ความรู้เกี่ยวกับความพร้อมของการจดทะเบียนล่วงหน้า และขั้นตอนที่บริษัทท้องถิ่นควรดำเนินการท่ามกลางการลงทุนจากต่างประเทศที่ลดลง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/yangon-stock-exchange-discusses-pre-listing-board-and-consultant-appointment/

ชายแดนหมอตอง-สิงขร มีแนวโน้มที่จะเป็นด่านถาวร

อ้างอิงจากสำนักข่าวของประเทศไทย มีรายงานว่า ครม.ไทยเตรียมเปิดด่านสิงขรเชื่อมชายแดนมอตองเมียนมาเป็นด่านถาวร ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีพรมแดนติดกับเมืองมอตอง เขตตะนาวศรี จะได้รับการยกระดับให้เป็นด่านถาวรเพื่อสนับสนุนการค้าข้ามพรมแดนทวิภาคี โดยผู้ค้าจากทั้งสองประเทศที่เกี่ยวข้องกับการค้าชายแดนแสดงถึงความตั้งใจให้ด่านสิงขรเป็นด่านถาวร ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและการต่างประเทศของไทยเดินทางเยือนชายแดนสิงขรเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ถือเป็นการเยือนครั้งแรกของเจ้าหน้าที่ระดับสูง และมีความคาดหวังสูงว่าจะเปิดด่านสิงขรเป็นจุดตรวจถาวรเพื่อเร่งการค้าชายแดนกับเมียนมา อย่างไรก็ดี ผู้ค้าที่ทำการค้าชายแดนกับไทยที่ชายแดนมอตอง กล่าวว่า ปัจจุบันด่านสิงขรยังไม่มีการกำหนดให้ทำการค้าระหว่างประเทศ เป็นเพียงด่านชั่วคราวเท่านั้น และด้วยความคิดริเริ่มเกี่ยวกับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันตกของไทย ที่ได้มีการศึกษาเส้นทางการค้าหมอตอง-สิงขร-กรุงเทพฯ ช่องทางการค้าบ้านพุน้ำร้อน-กาญจนบุรี หรือด่านชายแดนอื่น รวมทั้งเหตุจากความล่าช้าในชายแดนเมียวดี-แม่สอด ทำให้ทางการไทยต้องสำรวจด่านชายแดนแห่งอื่นๆ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mawtaung-singkhon-border-likely-to-become-permanent-checkpoint/#article-title

บริษัทและโรงงานอาหารกว่า 1,550 แห่งยื่นขอ GACC ในช่วง 2 ปีครึ่ง

ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์ ในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา ตามพระราชกฤษฎีกา GACC 248 และ 249 โดยผู้ส่งออกอาหารจำเป็นต้องยื่นขอใบอนุญาต GACC เพื่อนำสินค้าเข้าสู่ตลาดจีน โดยระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2021 ถึง 5 พฤษภาคม 2024 โรงงาน 1,550 แห่งได้รับการส่งต่อคำขอ 3,092 รายการไปยัง GACC ผ่านกรมวิชาการเกษตร (คำขอ 2,935 รายการ) กรมประมง (134 รายการ) กรมพันธุ์สัตว์และสัตวแพทย์ปศุสัตว์ (14 รายการ) และหน่วยงานอาหารและยา ฝ่ายธุรการ ซึ่งประกอบด้วยกิจการ แปรรูปน้ำมันสำหรับบริโภค เมล็ดพืชน้ำมัน ผลิตภัณฑ์ขนมอบยัดไส้ รังนกที่บริโภคได้ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ธัญพืชที่บริโภคได้ การสีธัญพืช ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และมอลต์ ผักสดและอบแห้ง ถั่วแห้ง ชนิดพืช ถั่วและเมล็ดพืช ผลไม้แห้ง กาแฟไม่คั่วและเมล็ดโกโก้ อาหารพิเศษไม่รวมนมผง อาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ผึ้ง ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากฟาร์ม ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และอาหารสัตว์ และธุรกิจปศุสัตว์ อย่างไรก็ดี ผู้ส่งออกสามารถเข้าถึง China International Trade Single Window ได้โดยตรงผ่าน https://cifer.singlewindow.cn โดยการสร้างบัญชีสำหรับกลุ่มอาหารที่ไม่อยู่ใน 18 กลุ่มที่กล่าวถึงข้างต้น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/1550-food-companies-factories-apply-for-gacc-in-2-5-years/#article-title

วิสาหกิจในประเทศ 20 แห่ง โครงการต่างประเทศ 11 โครงการได้รับการอนุมัติในรัฐมอญในเดือนเมษายน

ตามการประชุมของ MSIC ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 คณะกรรมการการลงทุนของรัฐมอญ (MSIC) ไฟเขียวให้วิสาหกิจในประเทศ 20 แห่ง และวิสาหกิจต่างชาติ 11 แห่ง เข้ามาลงทุนในภูมิภาคเมื่อเดือนเมษายน ส่งผลให้มีการจ้างงานคนในท้องถิ่น 4,487 ตำแหน่ง โดยวิสาหกิจต่างชาติมีมูลค่าการลงทุน 15.456 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในภูมิภาคนี้ ในขณะที่การลงทุนภายในประเทศของวิสาหกิจเมียนมามีมูลค่า 70.388 พันล้านจ๊าด รวมทั้งพบว่าวิสาหกิจที่มีอยู่จะขยายทุนในเดือนเมษายน อย่างไรก็ดี คณะกรรมการฯ กำลังพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโอกาสในการทำงานให้กับคนในท้องถิ่นโดยการสนับสนุนวิสาหกิจในประเทศและต่างประเทศตามกฎหมายและกฎระเบียบที่มีอยู่ นอกจากนี้ เนื่องจากรัฐมอญตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ คณะกรรมการจึงจัดลำดับความสำคัญในการกระตุ้นการลงทุน สนับสนุนธุรกิจที่มีอยู่ ดึงดูดนักลงทุนรายใหม่ เพิ่มโอกาสในการทำงานในภูมิภาค และเสริมสร้างเศรษฐกิจสังคมของชุมชนท้องถิ่น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/20-domestic-enterprises-11-foreign-projects-greenlit-in-mon-state-in-april/#article-title

การค้าชายแดนไทย-เมียนมา ทะลุ 297 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในหนึ่งเดือน

การค้าชายแดนของเมียนมากับประเทศเพื่อนบ้านไทยมีมูลค่า 297.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 10 พฤษภาคมของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2567-2568 ตัวเลขดังกล่าวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีมูลค่าการค้า 428 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าลดลงอย่างมากถึง 131.2 ล้านดอลลาร์อย่างไรก็ดี เมียนมาดำเนินการค้าข้ามพรมแดนกับไทยผ่านทางชายแดน ท่าขี้เหล็ก เมียวดี เกาะสอง มะริด บ้านพุน้ำร้อน และมอตอง ในจำนวนนี้ ชายแดนบ้านพุน้ำร้อน มีการค้าขายมากที่สุด ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 185 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา รองลงมาคือ ชายแดนเมียวดี มูลค่าการค้าอยู่ที่ 31.69 ล้านดอลลาร์, ชายแดนท่าขี้เหล็ก 23.97 ล้านดอลลาร์, ชายแดนมะริด 22 ล้านดอลลาร์, ชายแดนเกาะสอง 28.56 ล้านดอลลาร์ และชายแดนมอตอง 6.123 ล้านดอลลาร์ที่มอตอง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-thailand-border-trade-hits-us297-mln-in-one-month/

ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราที่ได้รับอนุญาตจะต้องขายสกุลเงินต่างประเทศในราคาควบคุม: ธนาคารกลางเมียนมา

ตามประกาศของ ธนาคารกลางเมียนมา ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตรามีหน้าที่ขายสกุลเงินต่างประเทศตามอัตราที่กำหนดของธนาคารกลางแห่งเมียนมา (CBM) หากไม่ทำเช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากบัตรเดบิตและบัตรเครดิตสำหรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศแล้ว CBM ยังอนุญาตให้ผู้แลกเงินที่ได้รับอนุญาตขายสกุลเงินต่างประเทศได้ที่สนามบินนานาชาติย่างกุ้ง (YIA) หรือเคาน์เตอร์ที่กำหนดของตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต (ธนาคารเอกชน) เพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนเงินสดย่อยและควบคุม โดยเริ่มบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 สำหรับธุรกรรมที่ผิดกฎหมายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ผู้ที่ไปทำงานในต่างประเทศ ไปรับการรักษาพยาบาล และศึกษาต่อต่างประเทศ และเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2566 สำหรับผู้แสวงบุญและเข้าร่วมเวิร์คช็อปหรือการประชุมตามคำเชิญขององค์กรภาครัฐต่างประเทศ อย่างไรก็ดี หากชาวเมียนมาต้องการแลกเปลี่ยนสกุลเงินมากกว่าเงินสดที่มีอยู่ สามารถใช้บัตรเดบิตและบัตรเครดิตระหว่างประเทศได้ นอกจากนี้ ยังมีการเยี่ยมเยียนร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาปฏิบัติตามคำสั่งและข้อบังคับที่กำหนดไว้ภายใต้กฎหมายการจัดการการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/authorized-money-changers-must-sell-foreign-currencies-at-regulated-prices-cbm/

อาเซียนวางแผนที่จะช่วยเหลือเมียนมาในการแก้ไขปัญหาปัจจุบันอย่างสันติ

ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ นายกรัฐมนตรี พลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย ให้การต้อนรับคณะผู้แทน นำโดย นายอลุนแก้ว กิตติคุณ ทูตพิเศษของประธานอาเซียนด้านเมียนมา และเลขาธิการอาเซียน ดร.เกา คิม ชั่วโมง ณ หอรับรองประจำสำนักงาน ก.ล.ต. ที่กรุงเนปิดอว์เมื่อเช้าวานนี้ โดยในการประชุมดำเนินแผนงาน 5 ประการเพื่อประกันสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาของประเทศ พวกเขาหารือถึงความร่วมมือของเมียนมาในอาเซียน เงื่อนไขการมีส่วนร่วมของเมียนมาในการประชุมอาเซียน การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยอาเซียนแก่เมียนมา และความร่วมมือที่ดีที่สุดของเมียนมาในการกระจายความช่วยเหลือให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความพยายามของเมียนมาในการดำเนินการตามระบบประชาธิปไตยหลายพรรคที่ประชาชนปรารถนาอย่างมั่นคง การเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปตามระบอบประชาธิปไตยหลายพรรคที่เสรีและยุติธรรม และข้อกำหนดให้ทุกคนทราบสภาพที่แท้จริงของเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/asean-plans-to-assist-myanmar-in-peacefully-solving-current-issues/

การส่งออกประมงของเมียนมามีมูลค่า 55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนที่ผ่านมา

สถิติของกระทรวงพาณิชย์เผยว่าการส่งออกประมงของเมียนมา เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 54.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 3 พฤษภาคม ในปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2567-2568 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน โดยตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้น 25.5 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 29.46 ล้านดอลลาร์ที่บันทึกไว้ในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2023-2024 อย่างไรก็ดี ปัจจุบันการส่งออกสินค้าประมงเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ปริมาณการส่งออกสินค้าประมงยังต่ำกว่าที่บันทึกไว้ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ เมียนมาส่งออกสินค้าประมง เช่น ปลา ปู และกุ้ง ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (จีนและไทย) ผ่านด่านชายแดน Muse, Myawady, Kawthoung, Myeik, Sittway และ Maungtaw นอกจากนี้ยังจัดส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น ประเทศในยุโรป จีน ไทย และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคผ่านช่องทางเดินเรือ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-fishery-exports-hit-us55m-in-one-month/#article-title