รัฐบาล สปป.ลาว วางเป้าหมายการทูตทางเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน

กระทรวงการต่างประเทศ สปป.ลาว หันมาใช้การทูตทางเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้จัดการประชุมระดับสูงเพื่อยกระดับการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยการประชุมได้มุ่งเน้นไปที่ความจำเป็นในการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับนโยบายการค้าและการลงทุนที่เอื้ออำนวยของ สปป.ลาว เน้นเป็นพิเศษในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ กำหนดกลยุทธ์และยุทธวิธีที่รัฐบาลใช้ เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ เช่น การเพิ่มการค้า การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และการเจรจาข้อตกลงการค้าทวิภาคีและพหุภาคี ทั้งนี้ การลงทุนจากต่างประเทศของ สปป.ลาว ที่ผ่านมามีมากกว่า 463,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจีนลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือไทย เวียดนาม และมาเลเซีย ภาคการลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ โรงงานผลิตไฟฟ้า เหมืองแร่ บริการ และการเกษตร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_70_Govt_y24.php

ฝรั่งเศส เยอรมนี สนับสนุนโภชนาการและการศึกษาสำหรับนักเรียนของ สปป.ลาว

สถานทูตฝรั่งเศสและเยอรมนีในประเทศลาวได้เยี่ยมชมโครงการอาหารและโภชนาการของโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการอาหารและโภชนาการโลกแห่งสหประชาชาติ (WFP) ในแขวงเซกองและสาละวัน โครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมนี โดยให้การช่วยเหลือแก่สตรีและเด็กผู้หญิงสามารถเข้าถึงโภชนาการและการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่พวกเขายังคงเผชิญกับผลกระทบจากความไม่มั่นคงทางอาหารและทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ในปี 2566 ฝรั่งเศสสนับสนุนโครงการความช่วยเหลือด้านอาหารกว่า 139 โครงการทั่วโลก มูลค่ารวมกว่า 170 ล้านยูโร

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_68_France_y24.php

กระทรวงแรงงาน สปป.ลาว เร่งแก้ไขปัญหาขาดแคลแรงงานภายในประเทศ

สปป.ลาว กำลังต่อสู้กับวิกฤติการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง เนื่องจากคนรุ่นใหม่แสวงหาค่าจ้างที่สูงขึ้นผ่านโอกาสการจ้างงานในต่างประเทศ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สปป.ลาว ได้ออกแถลงการณ์เร่งด่วนแก่ชาวลาวทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อพิจารณาโอกาสการจ้างงานภายในประเทศลาว ด้วยความพยายามที่จะรักษาจำนวนพนักงานไว้ภายในประเทศ นอกจากนี้ ช่องว่างระหว่างค่าแรงขั้นต่ำและค่าครองชีพในลาวยังคงมีอยู่มาก ส่งผลให้คนงานลาวจำนวนมากมองหาโอกาสในต่างประเทศ ซึ่งมีการเสนอค่าจ้างที่สูงกว่าการทำงานในประเทศ โดยที่ไทย เกาหลีใต้ มาเลเซีย และญี่ปุ่น กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับแรงงานอพยพชาวลาว ซึ่งก่อให้เกิดความท้าทายด้านอุปทานแรงงานของประเทศในปัจจุบัน

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/04/04/labor-ministry-calls-for-lao-nationals-to-apply-for-jobs-in-laos/

‘เวียดนาม’ เล็งนำเข้าไฟฟ้าจากสปป.ลาว 5,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573

สำนักข่าวเวียดนาม (VNA) รายงานว่าเวียดนามตั้งเป้าที่จะนำเข้าไฟฟ้าจากสปป.ลาว ประมาณ 5,000 เมกะวัตต์ (MW) ภายในปี 2573 ตามแผนงานการดำเนินการตามแผนพัฒนาไฟฟ้าแห่งชาติปี 2564-2573 โดยสามารถนำเข้ากำลังการผลิตไฟฟ้าสูงถึง 8,000 เมกะวัตต์ ในกรณีที่สภาพเอื้ออำนวยและราคาสมเหตุสมผล ทั้งนี้ กำลังการผลิตรวมของพลังงานลมนอกชายฝั่ง พลังงานลมบนบก และพลังงานชีวมวลในเวียดนามในปี 2573 จะอยู่ที่ 6,000 MW, 21,880 MW และ 1,088 MW ตามลำดับ ในขณะที่พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากขยะ อยู่ที่ 1,182 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งอยู่บนหลังคา 2,600 เมกะวัตต์

ที่มา : https://english.news.cn/20240403/d1f7f69dabed4dc1928a2e5c403f88bf/c.html

สปป.ลาว ไทย และจีน หารือเส้นทางการบินใหม่เพื่อรองรับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น

เส้นทางการบินใหม่อยู่ระหว่างการหารือระหว่างไทย จีน และ สปป.ลาว เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด และเพื่อตอบสนองต่อการคาดการณ์ว่าจะมีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอีก 100,000 เที่ยวในน่านฟ้าประเทศไทย สปป.ลาว และจีน โดยเส้นทางคู่ขนานที่นำเสนอนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาความแออัดในเส้นทางการบินที่มีอยู่ซึ่งกำหนดโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) โดยเฉพาะทางตะวันตกเฉียงเหนือของลาว แผนเหล่านี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่จะวางตำแหน่งประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค ความต้องการเดินทางจากจีนมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยจำนวนเที่ยวบินสูงถึงประมาณ 80% ของระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาด โดยอินเดียมองว่าเป็นตลาดที่กำลังเติบโตและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีเที่ยวบินเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 900,000 เที่ยวบินในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 800,000 เที่ยวบินในปี 2566 และภายในปี 2568 ปริมาณเที่ยวบินจะดีดตัวกลับไปสู่ระดับ 1 ล้านเที่ยวบิน

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/04/01/thailand-laos-china-in-talks-for-new-aviation-routes-to-handle-surge-in-flights/

สปป.ลาว เดินหน้าร่างกฎหมายคาร์บอนเครดิต

กรมจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป.ลาว ร่วมกับพันธมิตรด้านการพัฒนาได้พูดคุยถึงรายละเอียดของพระราชกำหนด รวมถึงกระบวนการในการซื้อและขายคาร์บอนเครดิตในตลาดต่างประเทศ โดยร่างกฎหมายนี้มุ่งเน้นไปที่การคำนวณและรับรองการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการแบ่งปันผลประโยชน์ ภาษีเงินได้ ค่าธรรมเนียมและค่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและการขายคาร์บอนเครดิต เจ้าหน้าที่จากกรมการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ จะส่งเสริมการลงทุนในการลดก๊าซเรือนกระจกและทำให้การซื้อขายคาร์บอนเครดิตได้รับการจัดการผ่านระบบรวมศูนย์ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าตลาดคาร์บอนของ สปป.ลาว มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน และจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมและจำหน่ายคาร์บอนเครดิตทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_67_Govtmakes_y24.php

อัตราเงินเฟ้อ สปป.ลาว มีนาคม 67 อยู่ที่ 24.98% ปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน

 

Update: April 3, 2024 (เผยแพร่ต้นฉบับ: April 2, 2024)

ที่มา: Laotian Times.

สำนักงานสถิติของ สปป.ลาว เผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมีนาคม 2567 อยู่ที่ 24.98% ปรับลดลงจาก 25.35% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยราคาสินค้าหมวดเสื้อผ้าและรองเท้ามีราคาพุ่งสูงสุด โดยเพิ่มขึ้น 36.23% โรงแรมและภัตตาคาร 35.90% หมวดการแพทย์และยา 34.61% แอลกอฮอล์และยาสูบ 26.42% เครื่องใช้ในครัวเรือน 26.39% อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 23.61% การสื่อสารและการขนส่ง 23.58% ปัจจัยหลักเกิดจากสกุลเงินกีบของ สปป.ลาว อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศที่สำคัญ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ เงินบาทของไทย และเงินหยวนของจีน ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการนำเข้าสินค้ามาในประเทศลาว โดยเงินกีบอ่อนค่าลง 18.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และ 21.5% เมื่อเทียบกับเงินบาท นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและความไร้ประสิทธิภาพในการจัดการราคาสินค้าและบริการภายในประเทศทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อยังคงมีความรุนแรง ทำให้ไตรมาส 1 ปี 2567 เงินเฟ้อของ สปป.ลาว อยู่ที่ 24.93%

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/04/02/inflation-rate-in-laos-dips-slightly-to-24-98-percent-in-march/

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ให้เงินกู้แก่ สปป.ลาว เพื่อส่งเสริมบริการด้านสุขภาพ

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้อนุมัติเงินกู้จำนวน 24.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยปรับปรุงการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพในพื้นที่ชายแดนของประเทศลาว โครงการดังกล่าวนี้จะช่วยยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ และบุคลากรในโรงพยาบาลประจำแขวงจำปาศักดิ์ สะหวันนะเขต และพงสาลี จากข้อมูลของ ADB ความร่วมมือระดับภูมิภาคและการบูรณาการที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงได้อำนวยความสะดวกในการอพยพและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของประชากรยังก่อให้เกิดความท้าทายด้านสุขภาพ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนที่สุดในพื้นที่ชายแดน โครงการนี้จะช่วยให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขของ สปป.ลาว สามารถตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของแรงงานข้ามชาติและประชากรในพื้นที่ชายแดนได้ดีขึ้น

ที่มา : https://english.news.cn/20240401/739b8e0906a945b2b04fdf8391aff0b6/c.html

นครหลวงเวียงจันทน์ เตรียมจัดงานฉลองปีใหม่ สปป.ลาว หวังดึงดูดนักท่องเที่ยว

ชาวเวียงจันทน์ต่างตั้งตารอคอยการเฉลิมฉลองปีใหม่ของลาวประจำปีนี้ และรัฐบาลได้วางแผนกิจกรรมต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในท้องถิ่น โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากกว่า 10,000 คน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของลาว ทั้งนี้ ในช่วงแคมเปญ เทศกาลเยือน สปป.ลาว ปี 2567 รัฐบาลคาดหวังว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างน้อย 2.7 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 401 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ในปี 2568 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 2.9 ล้านคน และสร้างรายได้ 434 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_65_City_y24.php

เหมืองแร่ภูเบี้ยบรรลุเป้าหมายผลิตแร่ทองแดง 1 ล้านตัน

Phu Bia Mining (PBM) บริษัทเหมืองแร่ชั้นนำในประเทศลาว เผยข้อมูลผลผลิตทองแดงที่ผลิตได้ในเหมืองแร่ของตน โดยสามารถผลิตทองแดงเข้มข้นได้ 1 ล้านตัน บุคลากรซึ่งประกอบด้วยพนักงานสัญชาติลาวกว่า 93% และเกือบ 50% ของรายได้ประชาชนในท้องถิ่นได้รับจากการทำงานในเหมืองแร่แห่งนี้ สามารถสร้างรายได้ให้กับประชากรในท้องถิ่นได้มากกว่า 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การจ่ายเงินโดยตรงของบริษัทจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านค่าสัมปทาน ภาษีกำไร ภาษีเงินเดือน ภาษีถนน ค่าบริการนำเข้า การสนับสนุนและเงินปันผลได้ช่วยในการพัฒนาแขวงไชยสมบูรณ์และเศรษฐกิจของ สปป.ลาว

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_64_PhuBia_y24.php