เวียดนามจำเป็นต้องต่อสัญญาตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศ

เวียดนามจำเป็นต้องต่อสัญญาตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น และให้มีการยกระดับของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทางข้อมูลของผู้อำนวยการบริษัท โจนส์ แลง ลาซาลส์ (JLL) เปิดเผยว่าการปฏิรูปกฎหมายจะพัฒนาในด้านความโปร่งใสในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาสนใจลงทุนมากยิ่งขึ้น เนื่องมาจากการหาแหล่งพื้นที่ในการลงทุนนั้น มีความยากลำบากในการพัฒนา และลงทุนในอีกหลายปีข้างหน้า ซึ่งทางหน่วยงานรัฐฯ ได้มองเห็นถึงประเด็นดังกล่าว และดำเนินในการปรับปรุงกรอบของกฎหมายการลงทุนในตลาดอสังหาฯ ในขณะที่ นักเศรษฐศาสตร์ Nguyen Tri Hieu ระบุว่าธุรกิจในท้องถิ่นได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจให้ดีมากขึ้น เพื่อจะเข้าในตลาดหลักทรัพย์ และร่วมมือกับกองทุนต่างชาติ รวมไปถึงต่อยอดโครงการให้ประสบความสำเร็จ แสดงให้เห็นว่าบริษัทอสังหาฯในประเทศ จำเป็นต้องมีเงินทุนจากต่างชาติ นอกจากนี้ จากตัวเลขสถิติของสำนักงานลงทุนต่างชาติ ระบุว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ นักลงทุนต่างชาติมีความสนใจที่จะลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและแปรรูปมากที่สุด ด้วยมูลค่า 15.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติรวม รองลงมาภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคการค้าปลีกและค้าส่ง ตามลำดับ

ที่มา :    https://en.vietnamplus.vn/vietnam-needs-to-renew-property-market-to-lure-more-foreign-capital/160437.vnp

สปป.ลาว จำกัดการส่งออกข้าวเนื่องจากข้าวขาดตลาด

สปป.ลาว จำกัดการส่งออกข้าวเนื่องจากขาดแคลนอุปทานในตลาดภายในประเทศแม้จะมีความต้องการสูงจากต่างประเทศ ราคาข้าวที่สูงและผลกระทบจากอุทกภัยภายในประเทศในฤดูกาลนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ชาวนาเก็บข้าวไว้บริโภคเอง สปป.ลาวส่งออกข้าวขัดมันเพียง 1,350 ตันไปยังจีนโดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโควต้าการส่งออก 50,000 ตัน ในขณะที่ตลาดจีนต้องการข้าวจากสปป.ลาวเพิ่มขึ้น ผลกระทบจากภัยธรรมชาติอาจเป็นสาเหตุสำคัญของผู้ส่งออกข้าวสปป.ลาวที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดและเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศแม้ว่าจะมีข้อกำหนดด้านคุณภาพที่เข้มงวด ราคาข้าวเริ่มเพิ่มสูงขึ้นในเดือนมิ.ย.และหลายพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคกลางและภาคใต้ได้รับผลกระทบ น้ำท่วมทำลายไร่นาหลายพันไร่และพืชไร่อื่น ๆ หลายร้อยเฮคแตร์ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้รายงานตัวเลขโดยละเอียดเกี่ยวกับความเสียหาย

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-limits-rice-exports-due-short-supply-104201

11 เดือนของปีบัญชีปัจจุบันเมียนมาส่งออกหยก 356 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายงานของกระทรวงพาณิชย์มูลค่าการส่งออกหยกอยู่ที่ 356 ล้านเหรียญสหรัฐจากปริมาณการส่งออก 1,548.452 ตัน ใน 11 เดือนของปีบัญชีปัจจุบัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 866.606 ล้านเหรียญสหรัฐจากปริมาณการส่งออก 3,128.501 ตัน ซึ่งลดลงถึง 509.730 ล้านเหรียญสหรัฐ หยกมีความเกี่ยวข้องกับงานประมูลอัญมณีเป็นอย่างมาก ยิ่งรัฐบาลมีงานประมูลอัญมณีมากเท่าไหร่จะทำให้การส่งออกหยกยิ่งมากขึ้น จากข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จากงานประมูลอัญมณีของเมียนมาในปี 62 การเก็บภาษีหยกดิบจะอยู่ที่ 15% ส่วนทับทิม ไพลินและอัญมณีที่มีค่าอื่นอยู่ที่ 10%

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/jade-export-volume-reaches-us-356-million-in-11-months-in-current-fy

โครงการไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเงี้ยบ 1 เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อการส่งออกมายังประเทศไทย

หลังจาก 5 ปีในการสร้างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเงี้ยบ 1 (NNP1) ในแขวงบอลิคำไซของสปป.ลาวเริ่มผลิตไฟฟ้าในวันที่ 5 ก.ย.เพื่อส่งออกไปยังประเทศไทย การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปลายปี 57 และงานโยธาไฟฟ้าและเครื่องกลครั้งสุดท้ายแล้วเสร็จในเดือนส.ค. การทดสอบการว่าจ้างขั้นสุดท้ายเสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลายเดือนส.ค.และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 62 โดยกฟผ. โรงไฟฟ้าหลักมีกำลังการผลิตติดตั้ง 272 MW และพลังงานทั้งหมดที่ผลิตจากโรงไฟฟ้านี้จะขายให้กับกฟผ. ผ่านสายส่ง 120 km. 230 kV ไปยังสถานีไฟฟ้าย่อยนาบง พลังงานจะถูกเปลี่ยนเป็น 500 kV ก่อนที่จะถูกส่งไปยังประเทศไทย  โครงการนี้มีเป้าหมายคือการสร้างโครงการพลังงานที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่จะจัดหาพลังงานทดแทนที่สะอาดและมีส่วนช่วยลดความยากจนของสปป.ลาว

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/nam-ngiep-1-project-begins-generating-electricity-export-thailand-104202

ธนาคารการท่องเที่ยวของเมียนมาเปิดสาขาใหม่ที่เนปิดอว์

ธนาคารการท่องเที่ยวของเมียนมาเปิดสาขาในเนปิดอว์เปิดให้บริการมากขึ้นในพื้นที่ชายแดน รัฐบาลวางแผนที่จะเปิดในภูมิภาคที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุด โดยเปิดทำการสาขาแรกที่ย่างกุ้งในวันที่ 6 พ.ค. สาขามัณฑะเลย์ในวันที่ 1 ก.ย. และสาขาเนปิดอว์ไปเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ทีผ่านมา เป้าหมายคือให้ความช่วยเหลือแก่ภาคการท่องเที่ยวและช่วยเหลือบริษัท องค์กร และโรงแรมด้วยอัตราดอกเบี้ยเดียวกับที่ธนาคารกลางกำหนด อีกทั้ง 5% ของกำไรจะใช้เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว ธนาคารเริ่มลงทุน 22 พันล้านจัต และอนุมัติการใช้สกุลเงินต่างประเทศในการลงทุน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-tourism-bank-opens-branch-in-nay-pyi-taw

2 จังหวัดในกัมพูชาได้รับอนุญาตให้ออกใบรับรองแหล่งกำเนิดเพิ่ม

แผนกการค้าในจังหวัด Prey Veng และ Svay Rieng สามารถออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดแบบ ‘D’ ซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยบริษัทในจังหวัดเหล่านี้สนใจที่จะเข้าร่วมเพื่อจัดส่งสินค้าเกษตรไปยังต่างประเทศ ซึ่งสามารถยื่นขอแบบฟอร์ม ‘D’ ได้โดยตรงในแผนกการพาณิชย์จังหวัด โดยได้รับความสะดวกประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ซึ่งโดยทั่วไปการขอแบบฟอร์มจะต้องเข้าไปขอที่กระทรวงพาณิชย์ในกรุงพนมเปญ ซึ่งประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ซื้อสินค้าเกษตรจากกัมพูชาจำเป็นต้องมีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ตามที่กระทรวงระบุการยื่นแบบฟอร์ม ‘D’ ที่แผนกการพาณิชย์จังหวัดใช้เวลาที่ 16 ชั่วโมงเทียบกับ 10-14 วันหากทำการยื่นคำร้องที่กระทรวงพาณิชย์ในกรุงพนมเปญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50643319/two-more-provinces-allowed-to-issue-certificates-of-origin/

โรงไฟฟ้าถ่านหินแรกในเกาะกงของกัมพูชายังไม่ได้ข้อสรุป

นักลงทุนของโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งแรกในเกาะกงยังคงมองหาผู้ซื้อตามที่กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานได้กล่าว โดยในปี 2560 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐเริ่มเจรจาเกี่ยวกับการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 2,400 เมกะวัตต์ในเกาะกง ซึ่งความคืบหน้าของโครงการหยุดชะงักเพราะก่อนหน้านี้นักลงทุนและผู้ซื้อไม่สามารถตกลงเงื่อนไขการซื้อได้ โดยโรงงานแห่งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า 3,600 เมกะวัตต์สำหรับตลาดในประเทศไทยในขณะที่ 200 ถึง 300 เมกะวัตต์จะถูกขายเพื่อการใช้งานในกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาอนุญาตให้นักลงทุนทำการศึกษาความเป็นไปได้หาก บริษัทพบว่ามีศักยภาพในความเป็นไปได้ทางภาครัฐฯยินดีที่จะอนุญาตและสามารถเริ่มเจรจากับผู้ซื้อได้ โดยในกัมพูชามีโรงไฟฟ้าถ่านหินอยู่บ้าง อาทิเช่น บริษัท Cambodian Energy Co Ltd (CEL) ของมาเลเซียดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 50 เมกะวัตต์สองแห่งในจังหวัดพระสีหนุ บริษัท Han Seng Coal Mine Co Lte สร้างโรงงานผลิตถ่านหินขนาด 200 เมกะวัตต์ในจังหวัดอุดรมีชัย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50643517/koh-kongs-first-coal-fired-plant-up-in-the-air-ministry/

เวียดนามเผยยอดขายรถยนต์ดิ่งลง ในเดือนสิงหาคม

จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์เวียดนาม (VAMA) เปิดเผยว่าในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ลดลงร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนที่แล้ว ด้วยปริมาณรถยนต์ 21,480 คัน ทางด้านยอดขายรถยนต์ทุกประเภทลดลงร้อยละ 21 โดยแบ่งออกเป็นประเภทยานยนต์ ดังนี้ รถยนต์ที่นั่ง (Passenger Car) รถยนต์เชิงพาณิชย์ (Commercial Ones) รถยนต์เฉพาะกิจ (Special use-vehicles) ลดลงร้อยละ 21, 12, และ 37 ตามลำดับ โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หากแยกประเภทรถยนต์ พบว่ารถยนต์ที่นั่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ในขณะที่ ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ และรถยนต์ใช้งานเฉพาะด้าน (Special Purpose Vehicle) ลดลงร้อยละ 1.6 และ 28 ตามลำดับ ซึ่งบริษัทรถยนต์ “THACO” ประสบความสำเร็จในการขายรถยนต์ในช่วงเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 5,975 คัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29.3 ของส่วนแบ่งการตลาดรวม รองลงมาโตโยต้า ฟอร์ด และฮอนด้า ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ยอดขายดังกล่าวไม่ได้สะท้อนถึงอำนาจในการซื้อยานยนต์ของประเทศ เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวยังไม่ได้รวมยอดขายของผู้ผลิตรายอื่น ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของ VAMA นอกจากนี้ ภายในงานมอเตอร์โชว์ ปี 2562 นับว่าเป็นโอกาสอันดีของผู้บริโภคในการเลือกซื้อรถยนต์ที่มีชื่อเสียง และสามารถเข้าถึงการส่งเสริมการตลาดได้

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/automobile-sales-decrease-in-august-403009.vov

เวียดนามเผยยอดมูลค่าการส่งออกผักผลไม้ 2.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากข้อมูลของสำนักงานเกษตรกรรมแปรรูป และการส่งเสริมการตลาด (Agrotrade) ภายใต้กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการส่งออกผักผลไม้ของเวียดนามอยู่ที่ 2.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 5.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศจีนยังคงเป็นผู้นำเข้าผักผลไม้รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70.5 ของมูลค่าการส่งออกผักผลไม้ของเวียดนามโดยรวม ด้วยมูลค่า 1.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รองลงมาสหรัฐอเมริกาที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 ด้วยมูลค่า 84.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ตามลำดับ นอกจากนี้ ทางด้านสำนักงานเกษตรแปรรูปฯ (Agrotrade) คาดว่าสถานการณ์การส่งออกจะเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เนื่องมาจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก ความตึงเครียดของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจของการค้าและการลงทุน เป็นต้น

ที่มา : https://en.nhandan.com.vn/business/item/7908002-fruit-veg-exports-reach-us$2-53-billion-in-eight-months.html

KB Kookmin พร้อมปล่อยสินเชื่อบ้านให้ผู้มีรายได้น้อย

ธนาคาร KB Kookmin ของเกาหลีใต้เข้าร่วมในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของรัฐบาลสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้น้อยในย่างกุ้ง มีการลงนามเพื่อสนับสนุนโครงการในระหว่างการมาเยือนของประธานาธิบดี มู แจ อิน ของเกาหลีใต้เมื่อเดือนที่แล้ว KB Kookmin วางแผนช่วยเหลือเงินทุนแก่ผู้อยู่อาศัยและการจ้างงาน ซึ่งอยู่ในระหว่างการหารือเกี่ยวกับรายละเอียดของผลิตภัณฑ์สินเชื่อ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาเงินกู้และแผนการอื่น ๆ  ธนาคารเปิดสำนักงานตัวแทนในเมียนมาตั้งแต่ปี 56 โดยให้การสนับสนุนนโยบายด้านที่อยู่อาศัยและการเงินกับกระทรวงการก่อสร้างและการก่อสร้างธนาคารเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐาน และลงนาม MOU กับกระทรวงการก่อสร้างและ CHID Bank เพื่อขยายความร่วมมือ KB Microfinance ก่อตั้งในเดือน มี.ค. 60 มี 13 สาขา โดยส่วนใหญ่เป็นการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อการเชื่อมต่อไฟฟ้า และสินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก จนถึงขณะนี้ KB ไมโครไฟแนนซ์ได้จัดหาเงินทุนประมาณ 20 พันล้านให้แก่ชาวเมียนมา 48,000 คน ธนาคาร KB Kookmin อยู่ในระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตธนาคารในเมียนมา

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/kb-kookmin-bank-provide-home-loans-low-income-households.html